7 ขั้นตอนสู่การเป็นนักเขียนออนไลน์สร้างรายได้ไม่จำกัด

ขณะที่ สื่อสิ่งพิมพ์ กำลังจะเป็นแค่อดีต ปัจจุบันร้านหนังสือหายากเต็มที เพราะส่วนใหญ่ไปโผล่อยู่ในเว็บไซต์ จากเมื่อก่อนที่มีคนเคยบอกว่าคนไทยอ่านหนังสือปีละไม่ถึง 7 บรรทัด โลกยุคใหม่นี้อาจพูดได้ว่าคนไทยแทบไม่อ่านหนังสือเลยด้วยซ้ำ

เหตุผลง่ายๆ อยากรู้อะไรก็แค่พิมพ์เข้าไปถามGoogle เอาแค่เรื่องที่ตัวเองอยากรู้ สั้นๆง่ายๆ บางทีก็รู้แค่ผ่านๆ ไม่ได้เจาะลึกรายละเอียด มองในแง่ลบก็นับว่าเป็นผลเสียที่น่ากลัวอยู่เหมือนกัน

ในอดีตหนังสือเป็นอะไรที่คนนิยมมากๆอย่างนิยายขายดีอย่าง The Lord of The Rings มียอดขายถึง 150 ล้านเล่มหรือแม้แต่ Harry Potterที่มีแบ่งเป็นหลายตอนยอดขายแต่ละตอนก็ไม่น้อยกว่า 120 ล้านเล่ม

รวมๆกันแล้วยอดขายก็ถล่มทลายกว่า 500 ล้านเล่ม และถ้าไม่นับโซนนิยาย มาดูที่บรรดาหนังสือการ์ตูนจากค่ายซุปเปอร์ฮีโร่ อย่าง Batman ยอดขาย 600 ล้านเล่ม Superman 460 ล้านเล่ม หรือแม้กระทั่ง Dragon Ball ยังมียอดขายถึง 350 ล้านเล่ม

คำถามน่าสนใจที่ www.ThaiSMEsCenter.com อยากรู้คือเมื่อโลกกลุ่มลูกลูกค้ากระโดดเข้าไปอยู่ในออนไลน์กันจำนวนมากสิ่งพิมพ์เหล่านี้จะทำอย่างไร คำตอบชัดๆ คือก็ตามใจคนอ่าน

ซึ่งเราจะเห็นว่าเดี๋ยวนี้อยากดูการ์ตูนเรื่องไหนก็โหลดเอาจากอินเทอร์เนต อยากอ่านนิยายเรื่องไหน ก็ค้นหาในอินเทอร์เนต ดังนั้นนักเขียนในสมัยใหม่จึงต้องเป็นนักเขียนออนไลน์ซึ่งใครสนใจจะหารายได้จากอาชีพนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากลองไปดุกันว่าต้องทำอย่างไรบ้าง

1.ใจต้องรักงานเขียนอย่างแท้จริง

7

ทุกคนเขียนหนังสือเป็นแต่การเป็นนักเขียนนั้นต่างออกไป เราต้องรู้จักการพูด เล่าเรื่องให้ทุกคนเห็นภาพคล้อยตามไปกับตัวอักษรที่เราเขียน คนเขียนไม่รู้ว่าคนอ่านแต่ละคนมีพื้นฐานความน่าสนใจเรื่องอะไร แต่การเขียนต้องทำให้คนอ่านเมื่ออ่านต้องรู้สึกสะดุดและอยากอ่าน สิ่งเหล่านี้คือจิตวิญญาณแห่งการเขียนและจะเกิดขึ้นกับคนที่รักงานเขียนจริงๆเท่านั้น

2.ค้นหาแนวทางการเขียนของตัวเองให้เจอ

nn2

มีนักเขียนมากมายที่เขาประสบความสำเร็จแต่ทุกคนก็มีแนวทางการเขียนของตัวเอง หากเราจะหารายได้จากเรื่องนี้เราต้องค้นหาแนวทางของตัวเองให้เจอ เริ่มจากสิ่งที่เราชอบ สิ่งที่เราสนใจและพยายามถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษรมีสำนวนที่เป็นตัวของตัวเอง ในฐานะมือใหม่คนอ่านอาจจะน้อยหรือไม่มีแต่เราต้องไม่ท้อและพยายามต่อไป

3.ขยันหาข้อมูลในการเขียนและอัพเดทให้ต่อเนื่อง

nn3

การเขียนข้อมูลทุกอย่างต้องมีการอัพเดทหรือแม้แต่เราเลือกจะเขียนนวนิยายก็ตาม ในเนื้อเรื่องบางช่วงบางตอนก็ควรมีอ้างอิงจากปัจจุบันให้คนอ่านรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่อยู่ในยุคสมัยนี้ ซึ่งจะทำให้เนื้อหามีเสน่ห์และดึงดูดคนอ่านให้ติดตามได้มากขึ้น

4.รู้จักการโปรโมทผลงานตัวเองในช่องทางออนไลน์

nn4

นักเขียนออนไลน์ส่วนใหญ่มักมีBlog ของตัวเอง ซึ่งการสร้างรายได้จากการเขียนผ่านBlog เราพูดเสมอว่าไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นได้ง่ายต้องใช้เวลา และที่สำคัญเราต้องรู้จักโปรโมทผลงานของเราผ่านช่องทางออนไลน์อื่นๆ เพื่อให้คนรู้จักและติดตามให้ได้มากที่สุด

5.ใช้สำนวนการเขียนที่เป็นตัวของตัวเอง

nn5

ตัวอย่างจากหนังสือหลายเล่มที่เป็นเบสท์เซลเลอร์ ส่วนใหญ่คนเขียนมีสำนวนโวหารที่เป็นตัวเอง บางทีเป็นคำง่ายๆ คำพูดทั่วไปเหมือนเพื่อนคุยกัน ทำให้คนอ่านรู้สึกว่าอ่านแล้วสบายใจ อ่านแล้วไม่เครียด ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับเนื้อหาว่าเราเขียนอะไรแนวไหน แต่ทั้งนี้สำนวนทุกอย่างควรแสดงความเป็นตัวเองให้ชัดเจนที่สุด

6.ก้าวตามเทคโนโลยีให้ทัน

nn6

นักเขียนออนไลน์ต้องก้าวตามเทคโนโลยีด้วยเช่นกันเพื่อให้ทันกับกลุ่มคนอ่านว่าตอนนี้คนส่วนใหญ่นิยมใช้อะไรในการเข้าถึงข้อมูล บางทีอาจพัฒนาเป็นแอพพลิเคชั่นให้คนดูมาติดตามผลงานของเราเองได้โดยเฉพาะ คนรุ่นใหม่ไม่ชอบอะไรที่ยุ่งยาก นักเขียนออนไลน์จึงต้องรู้จักพัฒนาตัวเองให้ตามกระแสที่คนต้องการด้วย

7.เมื่อมีชื่อเสียงและผลงานอาจทำรวมเล่มสักครั้ง

nn8

นักเขียนทุกคนย่อมมีความฝันที่อยากเห็นสิ่งที่ตัวเองเขียนรวมเล่มสักครั้งเพื่อเป็นเกียรติประวัติในการเขียน ซึ่งการมีหนังสือที่รวบรวมผลงานจากออนไลน์ตัวเองก็เท่ากับเป็นการการันตีชื่อเสียงและการยอมรับจากคนอ่านด้วย

พูดกันมาขนาดนี้หลายคนก็ยังไม่เข้าใจว่าสุดท้ายแล้วนักเขียนออนไลน์สร้างรายได้อย่างไร ถ้างานเขียนเราเป็นที่ยอมรับและมีคนสนใจ รายได้ทางหนึ่งแน่นอนว่าต้องมาจากสปอนเซอร์ต่างๆ ที่ต้องการให้เราโฆษณาหรือมาจากการให้รีวิวสินค้า

และถ้ามีชื่อเสียงก็อาจได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรพูดในงานต่างๆ หรืออีกทางหนึ่งที่เกิดขึ้นได้คือการที่เรื่องราวของเราถูกสำนักพิมพ์นำไปรวมเล่มแล้วพิมพ์ขาย

ซึ่งค่าลิขสิทธิ์ที่เราจะได้มาตรฐานทั่วไปอยู่ราวๆ 10% ของราคาปก เช่นหนังสือเล่มละ 100 บาท ขายได้ 1 ล้านเล่ม คนเขียนก็จะได้ค่าลิขสิทธิ์ไปเบาะๆ 10 ล้านบาท และถ้างานเขียนดีขนาดที่มีคนเอาไปสร้างเป็นหนังหรือซีรีย์ก็จะมีรายได้มหาศาลเพิ่มขึ้นมาอีกทางหนึ่งด้วย

อย่างไรก็ดีตัวเลขที่สวยหรูก็ใช่จะได้มาง่ายๆ ต้องใช้ความพยายามและอดทนอย่างมากเพื่อก้าวไปสู่จุดนั้น แต่ในโลกแห่งเทคโนโลยีที่กระแสนั้นดังได้ในชั่วข้ามคืน หากผลงานการเขียนเราดีจริง จังหวะและโชคเราดีๆ อาจทำให้รวยจากการเขียนในชั่วข้ามคืนก็เป็นได้


SMEs Tips

  1. ใจต้องรักงานเขียนอย่างแท้จริง
  2. ค้นหาแนวทางการเขียนของตัวเองให้เจอ
  3. ขยันหาข้อมูลในการเขียนและอัพเดทให้ต่อเนื่อง
  4. รู้จักการโปรโมทผลงานตัวเองในช่องทางออนไลน์
  5. ใช้สำนวนการเขียนที่เป็นตัวของตัวเอง
  6. ก้าวตามเทคโนโลยีให้ทัน
  7. เมื่อมีชื่อเสียงและผลงานอาจทำรวมเล่มสักครั้ง

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

ภาพจาก pixabay.com

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด