6 เทรนด์อีคอมเมิร์ซมาแรงแซงหน้าเศรษฐกิจปี 2020

ปี 2563 ถือเป็นปีที่หลายคนมองว่า เศรษฐกิจไทย จะเลวร้ายมากกว่าปี 2540 บริษัทและโรงงานต่างปิดกิจการเป็นจำนวนมาก คนตกงาน นักศึกษาจบใหม่ว่างงานมากกว่า 5 แสนคน

แต่ยังมีอีกหนึ่งธุรกิจที่มาแรงแซงทางโค้ง หรือเติบโตสวนกระแสธุรกิจอื่นๆ ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจ นั่นคือ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ที่ปัจจุบันมีมูลค่ากว่า 3 ล้านล้านบาท  แล้วเทรนด์ธุรกิจอีคอมเมิร์ซในปี 2020 จะเป็นอย่างไร วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีข้อมูลมานำเสนอให้ทราบ

1.ธุรกิจอีคอมเมิร์ซจะแข่งขันรุนแรงมาก

เศรษฐกิจไทย

ภาพจาก bit.ly/2Kmcmkc

โดยเฉพาะจากสามยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ คือ Shopee, Lazada และ JD Central จากตัวเลขผลประกอบการของปี 2561 Lazada มีรายได้ประมาณ 8,000 ล้านบาท ขาดทุนเกือบ 2,000 ล้านบาท Shopee มีรายได้ 160 ล้านบาท ขาดทุน 4,000 ล้านบาท และ JD Central มีรายได้ประมาณ 800 ล้านบาท ขาดทุนเป็นหลักร้อยล้านบาท

15

ภาพจาก bit.ly/2Qw8aST

สามบริษัทขาดทุนส่วนหนึ่งมาจากการทุ่มเม็ดเงินจำนวนมหาศาล เพื่อทำการตลาดกระตุ้นให้คนไทยหันมาช้อปออนไลน์ นับเม็ดเงินที่ทั้งสามค่ายลงทุนในการทำตลาดเพียงปีเดียว มีมากถึงเกือบ 7 พันล้านบาท ทั้งการใช้ดาราดังเป็นพรีเซ็นเตอร์ การทำโปรโมชันต่างๆ เช่น วัน double day การเพิ่มบริการต่างๆ wallet, สะสมแต้ม เป็นเหตุผลทำให้อีคอมเมิร์ชในไทยเติบโต

2.สินค้าจีนบุกเข้าตลาดออนไลน์ไทยมากขึ้น

14

ภาพจาก bit.ly/350IwJR

วิธีการสังเกตง่ายๆ ว่าสินค้าชิ้นไหนมาจากต่างประเทศ คือ เมื่อสั่งซื้อสินค้านั้นแล้ว ต้องใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ขึ้นไปถึงได้สินค้า ซึ่งพบว่าสินค้าใน market place กว่า 80% เป็นสินค้าจากต่างประเทศโดยเฉพาะจากจีน

ส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกี่ยวกับพวกอุปกรณ์กีฬา อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง อุปกรณ์มอเตอร์ไซด์ ของตกแต่งบ้าน จิวเวลรี่ ฯลฯ ดังนั้นผู้ประกอบการไทยที่ผลิตสินค้าในหมวดหมู่เหล่านี้ ถือว่ามีความอันตรายมาก

3.ผู้ผลิตหันมาขายสินค้าออนไลน์มากขึ้น

13

ภาพจาก pixabay.com/

เนื่องจากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซทำให้หลายๆ ธุรกิจต้องปรับตัวตาม อาทิ ธุรกิจขนส่ง สถาบันการเงิน ทำให้เกิดระบบขนส่งที่ดี ระบบการชำระเงินที่สะดวก รวมทั้งช่องทางการขายสินค้าทางออนไลน์ ช่วยเอื้อให้แบรนด์หรือเจ้าของสินค้าเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องมีตัวกลาง ดังนั้น ผลกระทบจะเกิดกับตัวแทนจำหน่ายสินค้าต่างๆ

4.การขายของผ่านโซเชียลฯ จะเติบโตมาก

12

ภาพจาก bit.ly/2XgDki7

เมื่อสื่อโซเชียลมีเดียได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน แม้แต่การสั่งซื้อสินค้าก็มีการซื้อสินค้าออนไลน์ผ่าน Social Media มากถึง 40% รองลงมาคือ Marketplace 35% และเว็บไซต์ 25% ดังนั้น การทำโชเชียลคอมเมิร์ซจึงมาแรง

อาทิ ในเฟซบุ๊กมีทั้งการขายผ่านเพจ เฟซบุ๊กไลฟ์ แต่ที่สำคัญ 92% ของผู้บริโภคปัจจุบัน เชื่อในสิ่งที่คนอื่นพูดถึงแบรนด์มากกว่าแบรนด์พูดถึงตัวเอง ทำให้เกิดกระแส Influencer ซึ่งตอนนี้มีแพลตฟอร์มTellscore สามารถเข้าไปเลือก Influencer ที่เหมาะกับสินค้าได้

5.เชื่อมโลกออนไลน์กับออฟไลน์เข้าด้วยกัน

11

ภาพจาก pixabay.com/

ถึงแม้การขายของทางออนไลน์จะมาแรง แต่ก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า การขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์จะเวิร์คสุด เพราะสินค้าหรือบริการบางตัว เช่น เครื่องจักร อาจไม่เหมาะที่จะขายบนโซเชียล แต่ถ้าเป็นสินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง ขายในโซเชียลจะเวิร์คมากกว่า ดังนั้น ผู้ประกอบการต้องมองทั้งสองอย่างให้เป็นเรื่องเดียวกัน

ทำสองส่วนประสานให้ไปด้วยกัน เช่น ธุรกิจอาหารที่มีแต่หน้าร้าน จำเป็นต้องอาศัยโลกออนไลน์ให้ผู้บริโภคเห็นมากขึ้น เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า สามารถสั่งสินค้าได้ทางออนไลน์ แล้วไปรับสินค้าที่หน้าร้าน หรือผ่านบริการขนส่ง จะช่วยเพิ่มยอดขาย

6.มีตัวช่วยการขายสินค้า (Affiliate Marketing)

ปี 2020 จะมีการเกิดขึ้นของบริการที่เป็นทางเลือก ที่จะมาช่วยผู้ประกอบการให้มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยทำหน้าที่เป็นตัวกลางช่วยหาลูกค้า เช่น เว็บไซต์ที่ให้บริการด้าน Cash Back จะคืนเงินให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ หรือ Dropship ที่เป็นตัวกลางสามารถช่วยหาตัวแทนขายสินค้า หรือการนำสินค้าคนอื่นไปขาย โดยไม่ต้องมีสต็อกสินค้า เพียงแค่เปิดร้านออนไลน์

ทั้งหมดเป็น 6 เทรนด์ธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่จะมาแรงในปี 2020 แม้ว่าเศรษฐกิจจะผันผวน โรงงานปิดกิจการ คนตกงาน แต่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซจะเติบโตสวนกระแส ดังนั้น ใครที่อยากมีรายได้เสริม หรือ สร้างอาชีพ ต้องรีบปรับตัวรับการเติบโตอีคอมเมิร์ซ


คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

SMEs Tips

  1. ธุรกิจอีคอมเมิร์ซจะแข่งขันรุนแรงมาก
  2. สินค้าจีนบุกเข้าตลาดออนไลน์ไทยมากขึ้น
  3. ผู้ผลิตหันมาขายสินค้าออนไลน์มากขึ้น
  4. การขายของผ่านโซเชียลฯ จะเติบโตมาก
  5. เชื่อมโลกออนไลน์กับออฟไลน์เข้าด้วยกัน
  6. มีตัวช่วยการขายสินค้า (Affiliate Marketing)

อ้างอิงข้อมูล

https://postconnex.in.th/ecomway

แหล่งข้อมูลบทความจาก https://bit.ly/2SqnBiM

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช