5 เรื่องที่คอกาแฟ ไม่เคยรู้มาก่อน!!

ไม่มีทางใดที่ดีกว่า สำหรับการเริ่มต้นวันใหม่ของคุณมากกว่าการ “ดื่มกาแฟ” ที่พวกคุณชื่นชอบ บางคนอาจดื่ม 2 หรือ 3 แก้ว เพื่อปลุกคุณให้ตื่นขึ้น ช่วยให้ตื่นตัว และช่วยให้คุณมีแรงจูงใจ รู้สึกกระปี้กระเปร่าในช่วงบ่ายของวัน และในวันที่ 29 กันยายน 2560 (ของทุกปี) ถือเป็นวันกาแฟสากล

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ก็เลยถือโอกาสแสดงความชื่นชมการดื่มกาแฟ ซึ่งถือเป็นเครื่องดื่มที่คุณหลงใหล และเป็นที่รักของคุณ นำเสนอ 5 เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนเกี่ยวกับ “กาแฟ” ครับ

สำหรับที่มาที่ไปของวันกาแฟสากล อาจไม่มีที่มาแน่ชัด ทั่วโลกต่างมีการเฉลิมฉลองวันกาแฟสากลมาตั้งแต่ปี 1983 แต่ก็มีในบางประเทศที่อาจไม่ตรงกับวันที่ 29 กันยายน เช่น ประเทศญี่ปุ่นใช้วันที่ 1 ตุลาคม

อินโดนีเซียเลือกวันที่ 17 สิงหาคมซึ่งตรงกับวันชาติ ฯลฯ อย่างไรก็ตามประเทศส่วนใหญ่ได้ยึดวันที่ 29 กันยายน เป็นวันเฉลิมฉลอง อาทิ อังกฤษ สหรัฐอเมริกา แคนาดา มาเลเซีย รวมถึงไทยด้วย

1. กำเนิดกล้องเว็บแคมครั้งแรก

165

ภาพจาก goo.gl/qd4NnV

เว็บแคมเข้ามาครั้งแรกในปี 2534 Dr. Quentin Stafford-Fraser และ Dr. Paul Jardetzky จากมหาวิทยาลัย Cambridge ได้ตัดสินใจคิดค้นอุปกรณ์กล้องระยะไกล เพื่อคอยจับตาดูหม้อกาแฟห้องอื่นๆ เพราะไม่ต้องการเสียเวลาในการเดินขึ้นลงในการไปดูหม้อกาแฟ ว่ามีกาแฟหรือไม่มี

ดังนั้นเว็บแคมตัวแรกที่พวกเขาเคยคิดค้นขึ้นมา จึงถูกวางไว้เพื่อให้สามารถตรวจสอบระดับของกาแฟที่เครื่องได้ เว็บแคมจะสร้างภาพระดับสีเทา 129X129 พิกเซลที่ความเร็ว 1 เฟรมต่อวินาทีของกาแฟที่อร่อย และเมื่อเว็บแคมสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ ภาพหม้อกาแฟในห้อง Trojan Room ก็ถูกออกอากาศทางเว็บ

สรุปก็คือ Webcam ตอนแรกก็ประดิษฐ์ขึ้นมาเพื่อตรวจสอบกาแฟในมหาลัย Cambridge ฟังดูแล้วก็น่าแปลกใจ แต่ช่วงหลังๆ นี้ Webcam เองก็ได้นำมาใช้ในการค้นหาข้อมูลสำหรับนักศึกษาโดยตรง

2.กาแฟเป็นผลไม้

166

ภาพจาก goo.gl/r6tGht

กาแฟอาจเรียกได้ว่าเป็น “ถั่ว” แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของผลไม้ “ถั่ว” ที่เก็บเกี่ยว และใช้ในการทำกาแฟ ถือเป็นเมล็ดพันธุ์ของผลไม้เชอร์รี่สีแดงที่โตขึ้นบนต้นไม้ สรุปคือ กาแฟจริงๆ ก็มาจากผลไม้ชนิดหนึ่ง เป็นผลไม้ประเภทเบอร์รี่ กาแฟปกติจะมีรูปร่างเป็นเมล็ดสีแดงๆ ซึ่งเติบโตจากต้นกาแฟโดยเฉพาะและก็นำมาผลิตออกมาเป็นกาแฟอย่างที่เห็นอยู่กันตอนนี้ จากการผ่านกระบวนการขั้นตอนต่างๆ แล้วก็นำมาใช้ชงกาแฟดื่มกันสบายๆ

3 กินกาแฟ ไม่ได้เรียกจิบ

167

ภาพจาก goo.gl/qd4NnV

เนื่องจากกาแฟมาจากผลไม้ จึงไม่ต้องแปลกใจเลยที่การดื่มกาแฟในปัจจุบัน ไม่ใช่วิธีการบริโภคมนอดีต ชนเผ่าในแอฟริกานิยมเคี้ยวเมล็ดกาแฟ (Coffee beans) และไม่ได้นำไปต้มดื่มอย่างในปัจจุบัน โดยพวกเขานำทั้งเมล็ดหรือนำไปบดให้ละเอียด ผสมกับเนยที่รีดจากไขมันสัตว์เรียกว่า “กี (ghee)” แล้วปั้นเป็นก้อนไว้เคี้ยวทาน

4. เมล็ดกาแฟคั่วแบบไหน ได้คาเฟอีนน้อย

168

หลายคนเชื่อว่ารสชาติกาแฟที่เข้ม ขึ้นอยู่ที่ระยะเวลาของการคั่วเมล็ดกาแฟ ซึ่งการคั่วอ่อน รสชาติจะออกอ่อนๆ ดื่มง่ายมาก แต่ปริมาณคาเฟอีนสูงมากที่สุด แต่ถ้าคั่วกลางก็คือแบบกลางๆ รสชาตินุ่มละมุน ไม่แรงไป ไม่ขมไป และไม่จืดไป

แต่ถ้าคั่วเมล็ดกาแฟแบเข้ม รสชาติแรงมาก ออกแนวขม กลิ่นก็แรง เหมาะหรับคนชอบดื่มกาแฟดำประเภทคั่วเข้ม ชอบกลิ่นแรงๆ ซึ่งการคัวแบบนี้จะได้ปริมาณคาเฟอีนน้อยที่สุด

5. การให้ทิป เกิดขึ้นในร้านกาแฟ

169

ภาพจาก goo.gl/r6tGht

การให้ทิปเป็นธรรมเนียมฝรั่ง มีมาตั้งแต่สมัยโรมัน หรือจะระบุให้ชัดขึ้น ก็ตั้งแต่มีการใช้เงินเหรียญเป็นครั้งแรก แต่ที่มาของ คำว่า Tip ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด คนส่วนใหญ่เชื่อว่า ที่มาของคำว่า Tip เกิดขึ้นในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ราวศตวรรษที่ 17 เมื่อร้านกาแฟแห่งหนึ่ง เขียนป้ายติดไว้ที่กล่องหยอดเหรียญว่า เพื่อประกันความรวดเร็ว (To Insure Promptness) ลูกค้าคนใดหยอดเศษเงินเล็กๆ น้อยๆ ลงในกล่อง ก็จะได้รับบริการที่เร็วขึ้น

มาถึงตรงนี้ เชื่อว่าคุณผู้อ่านหลายคน อาจะยังงงๆ เพราะไม่รู้มาก่อน แต่หลายๆ คนพอรู้มาบ้างแล้ว แต่ก็ไม่รู้หมดทุกเรื่องดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้น แต่กาแฟยังเป็นเครื่องดื่มที่พวกเราจะขากไม่ได้ในเช้าวันใหม่ และบ่ายๆ ของวัน ซึ่งในวันที่ 29 กันยายน ถือเป็นวันกาแฟสากล ใครที่ไม่เคยลิ้มลองรสชาติของกาแฟเลย ก็ใช้โอกาสนี้ลองสักครั้ง แล้วจะติดใจครับ

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ http://www.thaifranchisecenter.com/home.php
อ้างอิงข้อมูลจาก https://goo.gl/r6tGht

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช