5 สินค้าทำตลาดช่วงวันหยุดยาวที่น่าสนใจ!

ในช่วงปลายปีถือว่ามีเทศกาลดีๆรออยู่มาก โดยเฉพาะกับทางต่างประเทศที่ถือเป็นไฮไลต์ที่ใครหลายคนรอคอยทั้งเทศกาลคริสต์มาส ต่อเนื่องด้วย เทศกาลปีใหม่

ในแง่ของธุรกิจเองก็มีแบรนด์จำนวนมากที่ไม่ยอมพลาดโอกาสนี้ในการจับกระแสของเทศกาลมาเป็นส่วนหนึ่งในการทำตลาดทั้งที่เป็นแบบกระตุ้นยอดขายหรือออกมาในแนวขอบคุณลูกค้า

ส่วนใครจะดีไซน์แคมเปญตัวเองออกมาแบบไหนก็ถือเป็นไอเดียที่ไม่จำกัดซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com ได้นำมาเสนอเป็นตัวอย่างให้ดูกับ 5 สินค้าที่ขึ้นชื่อว่าจับกระแสนี้มาเล่นกันทุกปีและดูเหมือนว่าจะได้รับความนิยมเป็นอย่างดีอีกด้วย

1. John Lewis ห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่จากประเทศอังกฤษ

เทศกาลปีใหม่

ภาพจาก goo.gl/yY9wBp

หลายคนที่ติดตามแคมเปญของ John Lewis จะจดจำผลงานการโฆษณาช่วงหยุดยาวแบบนี้จากปีก่อนๆได้มากมายไม่ว่าจะ #Manonthemoon, #Montythepenguin และ The Bear & The Hare ที่สามารถสร้างทั้งยอดViews ใน Youtube และ ยอดขายให้กับ John Lewis อย่างถล่มทลายสำหรับปี 2016 นี้

John Lewis จับมือกับ เอเจนซี่โฆษณาคู่บุญ Adam&eveDDB จาก อังกฤษ ที่ร่วมสร้างผลงานกันมาแล้วมากมายในปีนี้โฆษณาของ John Lewis ค่อนข้างแตกต่างออกไปจากทุกๆ ปี เพราะโดยปกติแล้ว เนื้อหาของโฆษณา มักจะมี message ที่เกี่ยวกับ ”การให้” ซึ่งดูแล้วก็มักจะรู้สึกซาบซึ้ง กินใจในทุกๆครั้ง

ในขณะที่ปี2016เน้นขายสินค้าซะมากกว่า แต่ก็ถือว่ายังไม่ตกมาตรฐานของ John Lewis เพราะตัวหนังโฆษณาเองในปีนี้ ก็ทำออกมาได้น่ารักไม่น้อย และเชื่อว่าโฆษณาตัวนี้น่าจะสามารถเรียกรอยยิ้มของทุกคนได้อย่างดีส่วนผลลัพธ์ก็เป็นไปตามที่คาด เมื่อโพสคลิปโฆษณา ลง Youtube เพียงไม่กี่วัน (ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2016) จนถึงปัจจุบัน ก็กวาดยอด Views ไปกว่า 17,800,000 Views

2. Aldi ซุปเปอร์มาเก็ตชั้นนำจากเยอรมันนี

bb2

ภาพจาก goo.gl/SwQTf0

ซูเปอร์มาร์เก็ตเชื้อสายยุโรปรายนี้ เกิดขึ้นด้วยความเชื่อในทฤษฎีการตลาดที่เข้าข้างผู้บริโภคสุดๆ นั่นคือ “ผู้บริโภคทุกคนควรมีโอกาสช้อปได้ทุกวัน ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหน ก็ควรจะได้บริโภคสินค้าคุณภาพสูง ในราคาที่ถูกที่สุด

ด้วยเหตุนี้จึงมีการขยายสาขาไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกมากมาย กับแคมเปญในช่วงวันหยุดยาวปลายปีนี้ Aldi ใช้แคมเปญที่ชื่อว่า “Kevin the Carrot” โดยมีเนื้อหาการเดินทางของแครอทไปยังประเทศต่างๆ

เป็นการสื่อความหมายถึงการเป็นคลังอาหารของ Aldi ที่พร้อมกระจายไปสู่ผู้บริโภคทุกมุมโลก ด้วยแคมเปญนี้ทำให้คนรู้จักและนึกถึงสินค้าของ Aldi มากขึ้นโดยเฉพาะกับสินค้าที่จำเป็นในช่วงหยุดยาวของชาวยุโรปถือเป็นแคมเปญกระตุ้นการซื้อที่น่าสนใจอย่างยิ่งทีเดียว

3. McDonald

bb3

ภาพจาก goo.gl/AMt9eb

ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสนี้ McDonald ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อวงการเบอร์เกอร์ และมักใส่ไอเดียเจ๋งๆ ให้กับการเฉลิมฉลองในเทศกาลคริสต์มาสตลอดมาปีนี้ ทาง McDonald’s ก็ได้ออกมาประกาศแล้วว่า นี่จะเป็นการฉลองเทศกาลคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดมา

โดยแคมเปญใหญ่ของ McDonald’s ส่งท้ายปลายปี มีไฮไลต์อยู่ที่ ตุ๊กตาไม้วินเทจ Juliette เป็นผลงานความคิดสร้างสรรค์ของ Leo Burnett ที่ได้ผู้สนับสนุนอย่าง Amazon และ Blippar มาเสริมทัพด้วยเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) ทำให้สามารถจัดกิจกรรมสนุกๆ กับลูกค้าได้เพิ่มขึ้นอีกหลายช่องทาง

หนึ่งในนั้นคือกระดาษรองถาดใส่อาหารของ McDonald’s โดยลูกค้าที่อยากร่วมสนุกต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของ Blippar และนำโทรศัพท์มือถือมาวางเหนือกระดาษรองถาด ซึ่งจะมีเกมให้เล่น โดยผู้ชนะจะได้รับบัตรของขวัญจาก Amazon มูลค่า 10 ปอนด์กันเลยทีเดียว

4. Dollar Shave Club ธุรกิจ Start up ที่ขายอุปกรณ์มีดโกนผ่านโลกออนไลน์

bb4

ภาพจาก goo.gl/9UzTQw

Michael Dubin และ Mark Levine ก่อตั้งบริษัท Dollar Shaving Club ด้วยเงินทุน 35,000$ ในมกราคมปี 2011 เพื่อลงทุนในการทำเว็บไซต์ การตลาดและการมีสต๊อกสินค้าไว้ในมือ การทำตลาดในธุรกิจประเภทนี้ถือว่ามีความเสี่ยงเพราะต้องสู้กับยักษ์ใหญ่อย่าง P&G

แต่วิธีหลักที่เลือกมาคือการทำแคมเปญวีดีโอที่ใช้อารมณ์ขันเข้ามาดึงความสนใจของเหล่าลูกค้า ซึ่งผลจากการทำ Video Marketing แบบสุดฮาทำให้ธุรกิจของ Dollar Shave Club’s เติบโตอย่างรวดเร็วปัจจุบัน Dollar Shave Club มีสมาชิกกว่า 2 ล้านคน เป็นผู้ชาย 80% และผู้หญิง 20%

และในช่วงคริสมาสต์ 2016 นี้ Dollar Shave Club’s ก็ไม่พลาดที่จะปล่อยวีดีโอเอาใจสมาชิกทั้งหลายด้วยแคมเปญที่ชื่อว่า perfect gift ซึ่งมีภาพของเหล่าสมาชิกที่ถูกทำขึ้นมาแทบทุกอาชีพทุกอายุไม่ว่าจะเด็ก ผู้หญิง เกษตรกร แม้กระทั่งคนที่มองไม่เห็น บวกกับอารมณ์ขันที่ใส่เข้าไปในเนื้อหาตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ว่าเป็น ธุรกิจสตาร์ทอัพร้อยล้านที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

5. Reese’s เว็บไซต์ทำขนมระดับสากล

bb5

ภาพจาก goo.gl/SswiDy

Reese’s ถือเป็นธุรกิจในโลกโซเชี่ยลที่ดึงเอาเรื่องราวการทำขนมที่น่าสนใจโดยเฉพาะกับช็อคโกแลตมานำเสนอในรูปแบบสูตรอาหารที่สำคัญมีการเผยแพร่ให้คนทั่วโลกได้รับทราบที่ผ่านมาเว็บไซต์นี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งจากผู้ที่มองหาขนมแสนอร่อยในต่างประเทศรวมถึงพ่อบ้านแม่บ้านที่ต้องการสูตรขนมน่าสนใจเอาไว้ทำรับประทานกัน

แน่นอนว่าด้วยความนิยมที่สูงนี้ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ ในคริสต์มาสปีนี้ Reese’s จึงไม่พลาดกับการสร้างสรรค์แคมเปญโฆษณาที่ชื่อว่า turns criticism into gold. หรือแปลตรงๆก็คือการเปลี่ยนเสียงวิจารณ์ให้กลายเป็นทองคำ

นั้นหมายถึง Reese’s ได้นำเสนอแง่มุมของคำวิจารณ์มาสร้างสรรค์ให้เป็นผลงานตามคำบอกเล่าที่ผู้คนทั่วไปต้องการแน่นอนว่ามีทั้งที่สวยงามและออกมาดูตลกขบขันแต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับการตอกย้ำให้คนรู้สึกว่า Reese’s ไม่ได้เมินเฉยต่อเสียงวิจารณ์และพร้อมนำสิ่งเหล่านั้นมาพัฒนาปรับปรุงสินค้าหรือว่าเว็บไซต์ของตัวเองต่อไป

การทำตลาดของสินค้าน่าสนใจเหล่านี้เราจะเห็นว่าแต่ละแบรนด์พยายามดึงเอาเอกลักษณ์ของตัวเองมาตอกย้ำความน่าสนใจเพื่อให้ลูกค้าเก่าได้ประทับใจพร้อมกับเป็นการสร้างฐานลูกค้าใหม่

ซึ่งการดึงเอกลักษณ์ตัวเองมาเป็นจุดขายถือเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภครับทราบว่าไม่ว่าจะปีนี้หรือปีไหนๆสินค้าและบริการก็ยังมีมาตรฐานและพร้อมจะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต

ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/WpFYVA

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด