5 วิธีรับมือ เศรษฐกิจตกต่ำ การพลิกเกมส์ธุรกิจ เพื่อความอยู่รอด

ถ้าบอกว่าการคิดจะทำธุรกิจ สักอย่างนั้นเป็นสิ่งที่ยากแต่ในสถานการณ์ปัจจุบันสิ่งที่ยากยิ่งกว่านั้นคือธุรกิจที่มีอยู่แล้วจะทำอย่างไรให้อยู่รอดปลอดภัยอย่างไรในภาวะที่เศรษฐกิจไม่สดใสเช่นนี้

ปัญหานี้คนที่มี ธุรกิจ ต่างก็งัดกลยุทธ์ออกมาสู้กับภาวะเศรษฐกิจกันทุกรูปแบบ หลายคนบอกว่าไม่ได้คาดหวังให้สำเร็จเหมือนกับติดปีกแต่ขอให้เดินไปได้เรื่อยๆ รอวันที่เศรษฐกิจฟื้นคืนมา จากนั้นค่อยมาว่ากันอีกที

เพื่อความอยู่รอด

www.ThaiSMEsCenter.com ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกธุรกิจสามารถขับเคลื่อนตัวเองไปได้ถึงฝั่งฝันพร้อมกันนั้นเราลองมาดู 5 กลยุทธ์รับมือ เศรษฐกิจตกต่ำ ว่าช่วงเวลาแบบนี้จะมีวิธีการอย่างไรที่จะประคับประคองธุรกิจให้เดินหน้าต่อไปอย่างถึงที่สุดเพื่อรอโอกาสที่สักวันต้องกลับมาเป็นของคนทำธุรกิจได้อีกครั้ง

1.ตั้งสติให้ดีแล้วค่อยหาวิธีป้องกัน

ตามหลักปรัชญาว่ากันว่าเมื่อมีปัญหาปัญญาต้องเกิดนั้นคือถ้ามีเรื่องเกิดขึ้นในธุรกิจสักอย่างขั้นแรกต้อง “ใจเย็น” มองรอบด้านอย่างมีสติอย่าพึ่งกังวลหรือวิตกจนเกินเหตุ วิเคราะห์ให้ลึกซึ้งว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมานั้นมีผลกระทบกับธุรกิจของเราอย่างไรบ้าง ส่วนไหนของธุรกิจที่จะเกิดปัญหามากที่สุด พยายามแยกแยะทีละประเด็นอย่าจับธุรกิจทั้งระบบมาวิเคราะห์แต่ให้แยกมองทีละส่วนเพื่อแก้ปัญหาไปที่ละเรื่อง ใช้ตำราจีน “นิ่งสงบสยบเคลื่อนไหว” เป็นอันดับแรกในการแก้ปัญหาทั้งหมด

เศรษฐกิจตกต่ำ

2.จัดสมดุลให้ระบบธุรกิจสร้างจุดเด่นที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด

การจัดสมดุลนี้ควรไล่มาตั้งแต่ระบบการเงิน ระบบการคลัง และจุดอ่อนจุดแข็งที่มีในธุรกิจ ในด้านการเงินนั้นสิ่งที่ผู้ประกอบการควรทำคือการรักษาสภาพคล่องด้วยการบริหารเงินทุนหมุนเวียนให้มีคุณภาพและควรรักษาเครดิตกับสถาบันการเงินเพื่อไว้เป็นประโยชน์ในยามคับขัน และทบทวนนโยบายเรื่องของคลังสินค้าที่อาจจะไม่ยึดติดกับซัพพลายเออร์เดิมถ้าการเปลี่ยนนั้นทำให้เราลดต้นทุนได้ รวมทั้งต้องหาจุดเด่นและเน้นสินค้าหรือบริการในส่วนนั้นใช้จุดเด่นถ่วงดุลจุดอ่อนเพื่อให้ธุรกิจมีโอกาสเดินหน้าได้ดีขึ้น

3.พยายามรักษาฐานลูกค้าเก่าไว้ให้ได้เยอะที่สุด

ฐานลูกค้าเก่าคือหัวใจของธุรกิจที่สำคัญในยามที่เศรษฐกิจย่ำแย่แต่เรื่องนี้คือสิ่งที่เราต้องรักษาไว้ให้มากที่สุด เนื่องจากจะเป็นการประหยัดต้นทุนที่ไม่ต้องหาลูกค้าใหม่อาจจะใช้ระบบของ CRM (Customer Relationship Management) คือการเก็บข้อมูลลูกค้าแล้วจำแนกออกมาเป็นกลุ่มๆ เพื่อกำหนดทิศทางให้เกิดความพึงพอใจอย่างสูงสุดของฐานลูกค้าเดิม

q15

4.พยายามเพิ่มกลยุทธ์การตลาดเพื่อหาลูกค้าใหม่อย่างเหมาะสม

เมื่อเรารักษาฐานลูกค้าเก่าได้แต่ทางที่ดีเราก็ต้องหาลูกค้าใหม่ควบคู่ไปด้วยแม้ในภาวะเศรษฐกิจไม่ดีแต่ก็ต้องมีบ้างที่สินค้าหรือบริการของเราจะยังเป็นที่ต้องการอยู่ วิธีหนึ่งในการเพิ่มลูกค้าคือการดึงฐานลูกค้าจากคู่แข่ง ไม่จำเป็นที่เราต้องลงทุนมากๆเทคนิคดีที่ลงทุนน้อยๆมีหลายอย่างไม่ว่าจะแบบทางตรง ทางอ้อมหรือแบบกองโจรก็ได้การจะเลือกใช้แบบไหนอาจจะต้องใช้ความสามารถด้านการตลาดมากเป็นพิเศษ ถ้ามีทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านนี้จะเป็นเรื่องที่ดีกับธุรกิจเป็นอย่างมาก

5.เรียนรู้กับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและจับกระแสตลาดอนาคตให้ดี

เมื่อโลกของธุรกิจมีการหมุนตลอดเวลาดังนั้นเพื่อให้ไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ในอนาคตผู้ประกอบการต้องเรียนรู้และเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกับหาหนทางเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสให้จงได้ ประสบการณ์ในด้านการบริหารจะมีประโยชน์อย่างมากในเรื่องนี้ หรือถ้ามีวิสัยทัศน์ยาวไกลอาจมองไปให้ถึงอนาคตจับกระแสธุรกิจที่คิดว่ากำลังมาแล้วเริ่มต้นทำก่อน ก็จะเป็นการปิดช่องโหว่เพิ่มช่องทางกำไรในภาวะเศรษฐกิจตกสะเก็ดได้เป็นอย่างดี

q17

ทั้งหมดนี้อาจจะดูเหมือนเป็นหลักการแต่ในทางทฤษฏีแล้วสามารถประยุกต์ใช้อย่างได้ผลสำหรับการทำธุรกิจในทุกรูปแบบหรืออย่างน้อยๆก็พอเป็นไกด์นำทางในยามที่คับขันไว้รอโอกาสที่ฟ้าสดใสค่อยสรรหาเทคนิคใหม่ๆมาไว้ใช้ในธุรกิจกันอีกทีครับ

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด