5 ปัจจัยที่ทำให้ ธุรกิจแฟรนไชส์ น่าลงทุน!

เป็นที่ทราบกันดีว่า ธุรกิจแฟรนไชส์ นั้น มีการวางโครงสร้างธุรกิจให้กับผู้ประกอบการที่สนใจซื้อแฟรนไชส์ไปเปิด ไว้เกือบทุกกระบวนการ จนผู้ซื้อแฟรนไชส์แทบไม่ต้องทำอะไรเองแล้ว ทำให้ธุรกิจแฟรนไชส์มีความน่าสนใจสำหรับผู้ที่อยากเริ่มต้นธุรกิจใหม่ และอยากประสบความสำเร็จในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่การที่คุณจะเลือกซื้อแฟรนไชส์อะไรสักอย่าง ที่เหมาะสมกับตัวคุณ และเงินทุนของคุณ อาจไม่ใช่เรื่องง่าย

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จึงมี 5 ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจแฟรนไชส์ น่าลงทุน มาฝากผู้ที่สนใจลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ แต่ยังไม่กล้าตัดสินใจ เพื่อช่วยให้การตัดสินใจเลือกซื้อธุรกิจแฟรนไชส์ของคุณได้ง่ายขึ้น มาดูกันครับ

1.มีผลประกอบการดี มีกำไร

ธุรกิจแฟรนไชส์

แน่นอนที่สุด หากคุณต้องการลงทุนทำธุรกิจใหม่ ด้วยการซื้อธุรกิจในระบบแฟรนไชส์ ต้องดูว่าธุรกิจแฟรนไชส์ประเภทนั้นที่สนใจมีผลการดำเนินงานหรือประกอบการดี หรือ มีกำไรดี เพราะถือเป็นตัวชี้วัดถึงการบริหารจัดการร้านหรือธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ ทำธุรกิจต้องมีกำไร ไม่ใช่ขาดทุน

ธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีผลประกอบการดี อาจอยู่ในทำเลถูกต้อง มีศักยภาพ คุณภาพสินค้าเป็นที่ต้องการของตลาดและผู้บริโภคในวงกว้าง มีระบบการบริหารจัดการที่เป็นมืออาชีพ เป็นต้น

2.มีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง

r3

ธุรกิจแฟรนไชส์ที่มีแบรนด์แข็งแกร่ง เป็นแบรนด์ดัง เป็นที่รู้จักในตลาด สินค้าเป็นที่ต้องการของลูกค้า คือ ปัจจัยที่สำคัญที่ช่วยผู้ลงทุนซื้อแฟรนไชส์ประสบความสำเร็จไปครึ่งทางแล้ว ไม่ต้องเสียเวลาในการสร้างแบรนด์ สร้างตลาด

ซื้อแฟรนไชส์แล้วสามารถขายสินค้าหรือบริการได้ทันที มีลูกค้ารองรับอยู่แล้ว ส่วนการดำเนินกิจการ เจ้าของแฟรนไชส์ก็จะมีการถ่ายทอดและทำงานร่วมกันกับผู้ซื้อแฟรนไชส์ เพื่อสร้างความสำเร็จไปด้วยกัน

3.มีระบบมาตรฐานคุณภาพแฟรนไชส์

r5

คุณลักษณะของแฟรนไชส์ที่ดี น่าลงทุนอย่างยิ่ง ต้องเป็นธุรกิจที่ระบบการบริการจัดการธุรกิจที่มีมาตรฐานคุณภาพแฟรนไชส์ ตามเกณฑ์ประเมินของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์

เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ ต้องมีความรู้เรื่องระบบแฟรนไชส์ ระบบควบคุมมาตรฐานสินค้าและบริการ และมีความชำนาญในธุรกิจนั้นๆ อย่างแท้จริง ที่สำคัญสามารถถ่ายทอดระบบบริหารธุรกิจแฟรนไชส์ให้แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

4.มีความสัมพันธ์หรือเคมีตรงกันกับผู้ซื้อแฟรนไชส์

r1

หากผู้ซื้อแฟรนไชส์เลือกธุรกิจแฟรนไชส์ที่เจ้าของธุรกิจมีวิสัยทัศน์ แนวความคิดการทำธุรกิจ ที่แตกต่างจากผู้ซื้อแฟรนไชส์ อาจทำให้ระบบการบริหารธุรกิจแฟรนไชส์มีปัญหาได้ หรือถ้าหากความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อแฟรนไชส์กับเจ้าของแฟรนไชส์ไม่ดี ก็อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงในการลงทุนแฟรนไชส์ได้เช่นกัน

ดังนั้น ระบบธุรกิจแฟรนไชส์ที่ดี แฟรนไชส์ซอร์กับแฟรนไชส์ซีต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน รู้จักคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี พูดง่ายๆคือ พูดจากกันรู้เรื่อง เข้าใจในทิศทางและเป้าหมายธุรกิจเดียวกัน จึงจะสามารถทำธุรกิจร่วมกันได้อย่างราบรื่น

5.มีความซื่อสัตย์ต่อกัน

r4

การลงทุนในระบบธุรกิจแฟรนไชส์ของทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งแฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซี จะต้องมีความซื่อสัตย์ต่อกัน ไม่เอาเปรียบซึ่งกันและกัน กล่าวคือ ฝ่ายผู้ขายแฟรนไชส์ ควรให้เกียรติแก่ฝ่ายผู้ซื้อแฟรนไชส์ พึงคิดเสมอว่าผู้ซื้อแฟรนไชส์เป็นแขนขา เป็นสาขา เป็นผู้ที่นำสินค้าของคุณไปกระจายสู่ผู้บริโภคในพื้นที่ที่คุณไม่มีความชำนาญ

ขณะที่ ผู้ซื้อแฟรนไชส์ ก็ต้องมีความซื่อสัตย์ ไม่คดโกง ไม่เอาเปรียบ และตั้งใจบริหารกิจการให้ประสบความสำเร็จ พร้อมที่จะทำตามระบบบริการจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ที่เจ้าของแฟรนไชส์ถ่ายทอดให้

ปัจจุบันธุรกิจในระบบแฟรนไชส์มีอยู่มากมาย หลากหลายประเภท มีองค์ประกอบและปัจจัยที่เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจลงทุนซื้อแฟรนไชส์หลากหลายแบรนด์ แต่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ต้องมีความรู้เรื่องระบบแฟรนไชส์ก่อนตัดสินใจลงทุน เพราะถ้าซื้อแฟรนไชส์ไปแล้ว หากไม่มีองค์ประกอบของแฟรนไชส์ที่ดีตามข้างบน อาจเสียใจภายหลังได้ครับ

ใครที่สนใจหรือกำลังมองหาธุรกิจแฟรนไชส์ลงทุน สามารถเข้าดูรายละเอียดการลงทุนธุรกิจแฟรนไชส์ที่ดี มีมาตรฐาน แยกออกเป็นหมวดหมู่แต่ละประเภทได้ที่ : http://goo.gl/GrQzbE

อ้างอิงจาก  https://bit.ly/3nNtbXa

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช