20 ลูกเล่นทำตลาดในโลกออนไลน์ ใช้ครบหรือยัง!

โลกของ โซเชี่ยลมีเดีย เป็นตลาดที่มาแรงมาก ทั้งนี้เมื่อมีคนเข้ามาสิ่งสำคัญของการทำธุรกิจในโลกออนไลน์คือการสร้างจุดเด่นให้กับสินค้าหรือว่าบริการ มีหลายเทคนิคที่ผู้ชำนาญการต่างสรรหามาเป็นจุดขายในการโปรโมทและสร้างเว็บไซต์ให้กลายเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคจำนวนมาก

แต่อย่างไรก็ดี www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าในบรรดาสารพัดเทคนิคทั้งหลายนี้ถ้ารวบรวมมาเป็นเรื่องเดียวกันมีอยู่ประมาณ 26 เทคนิคที่ไม่ว่าจะโลกออนไลน์ทั้งในหรือต่างประเทศต่างก็ต้องเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ทั้งนั้น

โซเชี่ยลมีเดีย

1.ความต่างในเรื่องเวลาของการอัพโหลด

แต่ละช่องทางมีเนื้อหาของการนำเสนอสินค้าหรือว่าบริการไม่เท่ากันหากเราคิดจะโฆษณาออนไลน์สิ่งเหล่านี้เราต้องรู้ไว้เช่น Facebook กำหนดไว้ไม่เกิน 120 นาที , Twitter ความยาวไม่เกิน 30 วินาที , Instagram ความยาว60 วินาที เป็นต้น

2. ตั้งค่าให้เล่นอัตโนมัติ

เราสามารถตั้งค่าให้เล่นอัตโนมัติได้ ทั้งใน Twitter, Facebook และ Instagram เมื่อผู้ใช้เลื่อนหน้าจอผ่านหน้าNews Feedแล้วเห็นวิดีโอของแบรนด์เล่นอยู่จะช่วยกระตุ้นให้คนอยากดูวิดีโอของเรามากขึ้น และส่งผลให้ยอดวิวสูงขึ้นตามไปด้วย

l3

3. การใส่ SubTitle

การใส่ SubTitleช่วยให้คนสามารถดูวิดีโอของเรารู้เรื่องในเวลาที่เขาไม่สามารถเปิดเสียงได้ เช่น อาจจะแอบดูวิดีโอในห้องประชุมหรือที่สาธารณะ ในขณะเดียวกันก็ทำให้คนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน สามารถเข้าใจสิ่งที่เราต้องการสื่อสารได้

4. การทำ Live วิดีโอ

จากการศึกษาพบว่า มีจำนวนคนชมวิดีโอที่กำลัง Live อยู่มากกว่าวิดีโอที่ไม่ได้ทำแบบ Real-time ถึง 3 เท่า ซึ่งการทำ Live ยังช่วยให้แบรนด์สามารถเห็นจำนวนคนดู คอมเมนต์ของผู้ชม และโต้ตอบได้แบบทันทีอีกด้วย

l4

5. จับลูกค้าให้อยู่หมัดทันทีที่เห็นโฆษณา

แบรนด์จะต้องสร้างความน่าสนใจให้ได้ภายใน 10 วินาทีแรก (หรือน้อยกว่านั้น) นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้ Vine ประสบความสำเร็จกับการทำวิดีโอความยาว 6 วินาที

6. สร้างวิดีโอประเภท How-to

คอนเทนต์ประเภท How-to หรือสอนทำอะไรบางอย่างเป็นขั้นตอนง่ายๆ ได้รับความนิยมอย่างมากในทุกช่องทางของโซเชียล โดยแบรนด์สามารถใช้เครื่องมือที่ทำให้วิดีโอเล่นเร็วขึ้น เพื่อให้มีความยาวที่เหมาะสมกับแต่ละแพลตฟอร์ม

z2

7. สร้างคอนเทนต์ที่ส่งผลต่อความรู้สึก

อะไรที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก (Emotional) จะทำให้คนเกิด Action อะไรบางอย่างตามมาได้ง่ายกว่า และทำให้คนดูรู้สึกคล้อยตามไปด้วย โดยแต่ละแบรนด์สามารถเลือกใช้ภาษา เสียงพื้นหลัง และฟอนต์ต่างๆ ที่เหมาะสมกับความรู้สึกที่ต้องการถ่ายทอดในแต่ละช่วงของวิดีโอ

ซึ่งคำว่า Emotional ไม่ได้แปลว่าต้องเป็นเรื่องเศร้า แต่สามารถเป็นเรื่องที่ทำให้คนมีความสุขมากขึ้น สร้างความรู้สึกทางบวก หรือสร้างแรงบันดาลใจก็ได้

8. ทำให้ค้นหาแล้วเจอ

สิ่งสำคัญคือการใส่ Keyword หรือวลีที่ทำให้ผู้ใช้สามารถค้นหาคอนเทนต์ของเราเจอในทุกช่องทาง และอย่าลืมใส่แฮชแท็คใน Twitter และ Instagram เพื่อเพิ่มการค้นหาด้วย

z3

9. การใส่ Call to Action (CTA)

เราต้องรู้เป้าหมายที่เราสร้างเว็บไซต์หรืออะไรคือสิ่งที่ต้องการในการทำโฆษณาออนไลน์ เมื่อตั้งเป้าหมายแล้วต้องไม่ลืมใส่ลิงค์หรือปุ่มอะไรก็ตามเพื่อให้ตอบโจทย์สำหรับการสร้างวิดีโอนั้นขึ้นมาวิธีการที่มีประสิทภาพที่สุดคือการใส่ CTA ไว้ท้ายวิดีโอ

โดยอาจจะเป็นแค่ประโยคที่บอกให้คนดูทำอะไรต่อ เช่น “คุณสามารถช่วยให้แคมเปญเกิดขึ้นได้ เพียงไปลงทะเบียนที่เว็บไซต์” หรือ “เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ …” เป็นต้น

10. การตอบคำถาม

การตอบคำถามจะทำให้คนถามรู้สึกบวกกับแบรนด์ได้ในทันที นอกจากนี้ยังทำให้เรารู้ด้วยว่าคอนเทนต์ที่เรานำเสนอไป ถูกใจกลุ่มเป้าหมายหรือไม่ การตอบคำถามจึงถือเป็นการเพิ่ม Engagement และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจของเรา

z4

11. สร้างความน่าสนใจแม้ไร้เสียง

แม้หลายธุรกิจจะเลือกสร้างความน่าสนใจในช่วงวินาทีแรกด้วยเสียงเพลง หรือการพูดประโยคเด็ด แต่การสร้างความน่าสนใจโดยที่ไม่ใช้เสียงเลยก็จำเป็น เพราะบางครั้งผู้ใช้เลื่อนหน้าไทม์ไลน์ไปเร็วๆ เราจึงต้องมีภาพที่น่าสนใจเพื่อให้คนหยุดดู ทั้งนี้ก็เคยมีสถิติที่ออกมายืนยันว่าผู้ใช้ถึง 85% ดูวิดีโอใน Facebook โดยไม่เปิดเสียง

12. โพสต์วิดีโอในแต่ละช่องทางโดยใช้เครื่องมือของแพลทฟอร์มนั้น

ทุกวันนี้นอกจาก YouTube แล้ว โซเชียลมีเดียอื่นๆ ก็ให้คนสามารถอัปโหลดวิดีโอผ่านช่องทางนั้นๆ ได้เลย อย่างใน Facebook เอง ถ้าเป็นวิดีโอที่อัปโหลดผ่าน Facebook จะประสิทธิภาพมากกว่าการเอาวิดีโอจากแหล่งอื่นมาแปะ

z5

13. แชร์ข่าวเด่น ข่าวดัง ข่าวสำคัญที่เกิดขึ้นทันที

ไม่มีอะไรจะน่าสนใจไปกว่าการอัปเดทข่าวสารเกี่ยวกับแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำสินค้าใหม่ หรือว่าประกาศความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในองค์กร การแชร์เรื่องเหล่านี้บ่อยๆจะช่วยรักษาฐานแฟนคลับของเราให้อยู่ในวงโคจรกับเราไปนานๆ

14. ใส่ฟีเจอร์วิดีโอเข้าไปใน Facebook

การใส่ฟีเจอร์วิดีโอ ช่วยให้เมื่อมีคนเข้ามาในเพจจะเห็นวิดีโอใต้โปรไฟล์ วิธีการใส่ฟีเจอร์นี้ก็ง่ายมาก แค่คลิกแท็บคำว่าวิดีโอที่อยู่ล่าง cover photo แล้วใส่วิดีโอเข้าไป ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับเพจเป็นอย่างมาก

z6

15. ให้คนดูได้เห็นเบื้องหลัง

เหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนติดตามแบรนด์ เพราะความโปร่งใส ผู้บริโภคเชื่อว่าเขารู้จักแบรนด์นั้นดีว่าแบรนด์นั้นเท่ากับอะไร และทำอะไร ดังนั้นการให้พวกเขาได้เห็นเบื้องหลังถือเป็นเครื่องมือหนึ่งในการสร้างแบรนด์ที่แข็งแรง

16. ใส่ลูกเล่นให้กับวิดีโอ

เป็นการเสริมความน่าสนใจของเนื้อหา ซึ่งบางลูกเล่นสามารถตัดต่อได้จากโซเชียลมีเดีย เช่น Snapchat ซึ่งนอกจากจะใส่กราฟฟิคดุ๊กดิ๊กได้แล้ว ยังสามารถใส่แคปชันหรือซับไตเติลได้ด้วยนอกจากนี้ยังมีซอฟต์แวร์หรือแอปพลิเคชันหลายตัวที่ปล่อยให้ออกมาให้โหลดฟรี ซึ่งแบรนด์สามารถลองโหลดมาเล่นเพื่อสร้างความต่างให้กับวิดีโอได้ เช่น Lapse It หรือ Lightworks

z7

17. ซื้อโฆษณาวิดีโอ

โดยอาจมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มยอดวิวและ ความภักดีต่อแบรนด์ ทั้งนี้อาจจะมีการลองปล่อยโฆษณาเบื้องต้นเพื่อเช็คกระแสว่า ดีหรือไม่ แล้วค่อยเลือกว่าจะลงเงินจำนวนเท่าไหร่ เพื่อให้ได้โฆษณาที่ตรงกับเป้าหมายของเรามากที่สุด

18. เขียน Headline ให้น่าสนใจ

Headline เป็นสิ่งแรกที่ follower เห็น ดังนั้นเราต้องทำให้คนดูเกิดความสงสัย หรือสนใจจนอยากจะดูวิดีโอนั้นจนจบ ในขณะเดียวกันก็ต้องทำให้คนอื่นเข้าใจได้ว่าวิดีโอนั้นเกี่ยวข้องกับอะไร ที่สำคัญคืออย่าลืมใส่ keyword เพื่อเพิ่มอันดับในการค้นหา

z9

19. ใส่ Logo

ทุกธุรกิจต้องการโปรโมทแบรนด์ของทุกทางเท่าที่จะทำได้ และช่องทางโซเชียลก็เช่นกัน เวลามีคนแชร์วิดีโอจากเพจของเรา จะทำให้คนอื่นเห็นเราได้จากชื่อหรือรูปโปรไฟล์ หรือถ้าไม่แชร์ผ่านเพจ ก็ควรใส่ logo ไว้ที่มุมวิดีโอ หรือสิ่งที่จะทำให้คนเห็นแล้วจำได้ทันที ซึ่งมันอาจจะทำให้คนดูรู้สึกเชื่อมโยงกับแบรนด์ได้ง่ายขึ้น

20. เลือกรูป thumbnail ที่น่าสนใจ

อย่าลืมว่าความรู้สึกแรกสำคัญเสมอ ดังนั้นควรเลือกรูปให้ดีก่อนจะโพสต์วิดีโอ อย่างใน Facebook หรือ Instagram จะให้เราเลือกภาพจากในคลิปว่าอยากแสดงภาพจากช่วงไหน ส่วน YouTube ก็ใจดี ให้เราไปแก้ไข้รูป thumbnail ย้อนหลังได้

ซึ่งหลักๆของเทคนิคการทำโฆษณาออนไลน์ส่วนใหญ่ก็จะมีอยู่ประมาณนี้ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และฝีมือในการดีไซน์ให้หน้าเว็บไซต์หรือว่าช่องทางมีเดียของเรากลายเป็นที่น่าสนใจและลูกค้าเองก็พึงพอใจ สำหรับลูกเล่นเหล่านี้คาดว่าน่าจะมีใหม่ๆออกมาอย่างต่อเนื่องไว้เราจะคอยอัพเดทให้ทราบเป็นระยะๆอีกที

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก goo.gl/NEnRXt

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด