2 เมืองใหญ่ในอเมริกาที่น่าลงทุนสำหรับ SMEs

คงมี นักลงทุน จำนวนไม่น้อยที่มองหาตลาดต่างแดนในการทำธุรกิจด้วยศักยภาพของประเทศมหาอำนาจหลายแห่งมีมาตรานในการทำธุรกิจที่มากเกินพอให้นักธุรกิจทั้งหลายได้เข้าไปเปิดกิจการในลักษณะต่างๆทั้งนี้นักธุรกิจเองก็เข้าใจดีว่าการจะเลือกหลักปักฐานในเมืองใดนั้นต้องรู้ข้อมูลความน่าจะเป็นที่ส่งเสริมให้ธุรกิจมีโอกาสขยายตัวมากขึ้น

ซึ่งประเทศที่คนไทยนิยมมากในลำดับต้นๆก็คือสหรัฐอเมริกาที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ทั้งนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าแม้ศักยภาพของหลายรัฐในอเมริกาจะน่าสนใจแต่ก็มี 2 เมืองที่น่าสนใจมากๆและน่าจะเหมาะกับนักลงทุนไทยให้เข้าไปเปิดกิจการได้นั้นคือโอ้กแลนด์และเทนเนชชี ที่เราอาจไม่ค่อยได้ยินชื่อกันนักแต่ทว่าสองเมืองนี้กลับมีประสิทธิภาพในด้านการลงทุนอย่างยิ่งเลยทีเดียว

1.Oakland ดินแดนธุรกิจสำหรับไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่น

นักลงทุน

ภาพจาก goo.gl/oWRkwx

รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกานับเป็นศูนย์กลางการทำธุรกิจ การนำเข้าและส่งออกจากทั่วโลก โดยมูลค่าเศรษฐกิจของแคลิฟอร์เนียคิดเป็นกว่า 13 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ของสหรัฐฯ โดยเฉพาะในเมืองใหญ่อย่างแอลเอ และซานฟรานซิสโก ซึ่งมีธุรกิจขนาดเล็กเกิดขึ้นมากมายดึงดูดผู้คนหลากหลายเชื้อชาติให้มาตั้งถิ่นฐานทำการค้ามาเป็นเวลานาน

แต่จากราคาอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นในซานฟรานซิสโกได้ผลักดันให้กลุ่มหนุ่มสาวย้ายออกไปอาศัยอยู่ที่เมืองโอ๊กแลนด์เมืองท่าเรือที่สำคัญทางฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ซึ่งมีค่าครองชีพถูกกว่าเพิ่มมากขึ้น

ส่งผลให้โอ๊กแลนด์กลายเป็นย่านทันสมัยสุดฮิปที่สุดในบริเวณอ่าวซานฟรานซิสโก ถึงขนาดที่นิวยอร์กไทมส์ได้ให้สมญากับเมืองโอ๊กแลนด์ว่าเป็น “Brooklyn by the Bay” ซึ่งเปรียบเทียบกับย่านบรูคลินที่เป็นถิ่นที่อยู่ของชาวกลุ่มหนุ่มสาวในนิวยอร์ก

qq1

ภาพจาก goo.gl/vNBmds

ในช่วงหลายปีมานี้โอ๊กแลนด์ได้รับการยอมรับให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของชาวอเมริกัน โดยมีธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของนักท่องเที่ยว และกลุ่มผู้ที่อยู่อาศัยในเมืองนี้ ทั้ง ร้านอาหารมังสวิรัติ ร้านกาแฟ และร้านขายเสื้อผ้าวินเทจแบบอินเทรนด์ โดยเฉพาะในย่านเก่าอย่าง Temescal

ซึ่งเต็มไปด้วยร้านค้าสำหรับหนุ่มสาวทั้งร้านตัดผม ร้านโดนัท และตลาดที่ขายผลิตผลของเกษตรกรในท้องถิ่น นอกจากนี้ เมืองโอ๊กแลนด์ยังเป็นที่ตั้งของบริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง เช่น Kaiser Permanente และ Clorox เช่นเดียวกับสำนักงานใหญ่ของร้านค้าปลีก Cost Plus World Market และแบรนด์ไอศกรีม Dreyer’s รวมทั้งบริษัททางด้านเทคโนโลยี เช่น Ask.com และ Pandora Radio

กระแสการอพยพมาอาศัยของกลุ่มหนุ่มสาวที่เมืองโอ๊กแลนด์ จึงนับเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายของธุรกิจ SMEs ซึ่งต้องปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ผู้บริโภคดังกล่าว

โดยอาจปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของหนุ่มสาวที่นิยมบริโภคอาหารที่สะอาด ปลอดภัย และใช้สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในขณะที่ผู้ประกอบการหน้าใหม่ก็อาจใช้จุดนี้ในการทำตลาดเพื่อเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มนี้ที่มีกำลังซื้อสูงและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต

2.Nashville ตลาดใหญ่สำหรับธุรกิจสุขภาพและบริการ

qq3

ภาพจาก goo.gl/oSpxO4

เมืองแนชวิลล์ มลรัฐเทนเนสซีนั้น ได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของรัฐแห่งเพลงคันทรี แต่วันนี้เมืองทางตอนใต้ของสหรัฐฯ แห่งนี้กำลังจะกลายเป็นศูนย์กลางแห่งใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์และการดูแลสุขภาพ โดยเมืองแนชวิลล์เป็นที่ตั้งของบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพกว่า 300 แห่ง และมีตำแหน่งงานที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมยานยนต์มากกว่า 30,000ตำแหน่ง

สำหรับโอกาสของผู้ประกอบการไทยนั้นที่ผ่านมามีบริษัทไทยที่เข้าไปลงทุนในรัฐเทนเนสซีเพื่อผลิตสินค้าและจำหน่ายในสหรัฐฯ เช่น ชิ้นส่วนสำหรับยานยนต์ เครื่องจักรทางการเกษตร กระเบื้องเซรามิกปูพื้นและบุผนัง เป็นต้น

หนึ่งในธุรกิจที่น่าจับตามองในเมืองแนชวิลล์คือ ร้านอาหารสไตล์ Food Truck ที่กำลังขยายตัวอยู่ในเมืองนี้และมีความหลากหลาย ตั้งแต่คัพเค้ก ไอศกรีม พิซซ่า ฯลฯ ตัวอย่างธุรกิจ Food Truck ของผู้ประกอบการไทยที่ประสบความสำเร็จในแนชวิลล์คือ DegThai ที่ได้รับรางวัล Nashville Street Food Awards Winner ถึง 2 ปีซ้อน

ด้วยจุดเด่นอย่างการออกแบบรถขายอาหารเคลื่อนที่ ซึ่งมีการเพ้นต์ลายเส้นแบบไทยผสมกราฟฟิตี้ พร้อมขายอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีทั้งจากคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนแนชวิลล์

qq2

ภาพจาก goo.gl/SuCp1c

นอกจากนี้ที่นี่มีพลเมืองหนาแน่นมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของรัฐและแนชวิลล์ยังเป็นเมืองที่เป็นศูนย์รวมด้านการดูแลด้านสุขภาพ ดนตรี สิ่งตีพิมพ์ การธนาคาร และธุรกิจการขนส่ง รวมไปถึงธุรกิจท่องเที่ยวที่ได้รับอานิสงส์จากความนิยมของซีรีส์ชื่อเดียวกันกับเมืองอย่าง “แนชวิลล์” ซึ่งได้ช่วยกระตุ้นธุรกิจท่องเที่ยวของเมืองนี้ให้คึกคักยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ แนชวิลล์ยังเป็นเมืองที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอันดับ 2 สำหรับคนหนุ่มสาวที่เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย และยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือสำคัญอย่างท่าเรือเมมฟิส ซึ่งเป็นท่าเรือบก (Inland Port) ที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในสหรัฐฯ ทั้งหมดนี้ทำให้แนชวิลล์เป็นเมืองที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจหน้าใหม่ที่จะเข้ามาลงทุน

เหล่านี้ คือตัวอย่างเมืองสุดฮอตของสหรัฐอเมริกาที่เต็มไปด้วยโอกาสสำหรับนักลงทุนและผู้ประกอบการชาวไทยอย่างไรก็ตาม กฎหมายการทำธุรกิจและระบบการจัดเก็บภาษีในสหรัฐฯ มีความซับซ้อนและแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ

ดังนั้นผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจจะทําการลงทุนในสหรัฐฯ ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการช่วยเหลือด้านภาษีสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก หรือติดต่อว่าจ้างทนายความท้องถิ่นในการให้คําแนะนําชี้แนะในเรื่องประเด็นภาษีต่างๆ ก่อนที่เข้าไปลงทุนทำธุรกิจในดินแดนเหล่านี้


SMEs Tips โอ๊กแลนด์กับแนชวิลล์ ทำไมถึงเหมาะสมกับการทำธุรกิจ

  • โอ๊กแลนด์เป็นเมืองท่าเรือทำให้มีการนำเข้าหรือส่งออกสินค้าโดยทางเรือสะดวกมากขึ้น
  • โอ๊กแลนด์เป็นเมืองน่าเที่ยวธุรกิจท่องเที่ยว ร้านอาหาร บริการ จึงเกิดขึ้นมากมาย
  • โอ๊กแลนด์เป็นเมืองที่หนุ่มสาวนิยมเข้ามาตั้งถิ่นฐานเพราะความสะดวกสบายครบวงจร
  • แนชวิลล์ประชากรหนาแน่น ฐานลูกค้าจึงเปิดกว้าง
  • แนชวิลล์อยู่ใกล้ท่าเรือเมมฟิสทำให้ง่ายต่อการขนถ่ายสินค้า

แต่สำหรับใครที่ไม่อยากออกไปเปิดธุรกิจต่างแดนแต่ต้องการสร้างธุรกิจในเมืองไทยด้วยการทำแฟรนไชส์เรามีธุรกิจน่าลงทุนไว้เลือกกันตามความเหมาะสม

ดูรายละเอียด goo.gl/UCVNUO

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด