15 ข้ออ้าง ของคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ

มนุษย์เราทุกคน ล้วนมีโอกาสประสบความสำเร็จด้วยกันทั้งสิ้น แต่ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน ถ้าอยากให้ประสบความสำเร็จได้ ต้องลงมือทำ แต่ก็มีหลายคนมักสร้างข้ออ้างต่างๆ นานา จนทำให้ตัวเองไม่ประสบความสำเร็จสักที

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะมาบอกข้ออ้างยอดฮิตของคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ ให้คุณผู้อ่านทุกคนได้รู้จัก เพื่อนนำเอากลับไปพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้น และต้องพยายามหลีกเลี่ยงข้ออ้างเหล่านี้ครับ

ภาพจาก pixabay.com

1.ฉันยังไม่พร้อม

คนที่ไม่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ มักจะอ้างว่าตัวเองยังไม่พร้อม แต่จริงๆ แล้วอาจไม่กล้าลงมือทำ ไม่กล้าเสี่ยง หรือกลัวทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จมากกว่า

2.ฉันอายุมาก/น้อยเกินไป

เป็นอีกข้ออ้างยอดฮิตของคนไม่ประสบความสำเร็จ พอพ่อแม่ให้ลงมือทำ ก็บอกว่าตัวเองอายุน้อยเกินไป อายุยังไม่ถึง ถ้าลงมือทำแล้วอาจไม่สำเร็จได้ เช่นเดียวกับคนอ้างว่าตัวเองอายุมากแล้ว เลยช่วงเวลาที่จะทำสิ่งนั้นแล้ว

3.ฉันไม่มีเงิน

หลายๆ อย่างที่เราจะทำ บางสิ่งบางอย่างไม่จำเป็นต้องใช้เงิน หรือถ้าใช้ก็ใช้เงินไม่มาก แต่คนส่วนใหญ่ที่ไม่ประสบความสำเร็จ มักอ้างว่าตัวเองไม่มีเงิน ครอบครัวไม่มีเงิน แม้แต่การทำธุรกิจ ถ้าไม่มีเงินจริงๆ ก็สามารถขอสินเชื่อ หรือกู้ยืมคนอื่นมาลงทุนได้ ถ้ามั่นใจว่าสิ่งที่จะทำ หรือธุรกิจนั้นๆ มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จ

ภาพจาก pixabay.com

4.ฉันไม่มีดวง

การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ไม่จำเป็นต้องใช้ดวง แต่ใช้ความรู้ ความสามารถ รวมถึงประสบการณ์ของแต่ละคน คนส่วนใหญ่มักอ้างว่าตัวเองไม่มีดวง ถึงทำธุรกิจนั้นๆ ไม่สำเร็จ แต่จริงๆ แล้วตัวคุณเอง ไม่มีความรู้ ความสามารถเอง

5.ฉันไม่มีความรู้

หากต้องการทำธุรกิจ หรือเรื่องใด เรื่องหนึ่ง ให้ประสบความสำเร็จ ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในตอนนั้นก็ได้ ถ้าอยากจะทำหรือสนใจเรื่องนั้นจริงๆ ก็สามารถศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมได้ อย่าอ้างว่าตัวเองไม่มีความรู้ จึงไม่กล้าทำ

6.ฉันไม่กล้า

ความกล้าสามารถเอาชนะปัญหาอุปสรรคทุกอย่างได้ หลายคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต รวมถึงหน้าที่การทำงาน ส่วนหนึ่งมาจากตัวเองไม่กล้าลงมือทำ ไม่กล้าตัดสินใจ สุดท้ายก็ไม่ได้เริ่มทำ หรือเริ่มต้นสักที

ภาพจาก pixabay.com

7.เดี๋ยวค่อยทำ

การผัดวันประกันพรุ่ง หรือเลื่อนเวลาออกไปก่อน เป็นอีกองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้หลายๆ คนไม่ประสบความสำเร็จสักที ส่วนใหญ่มักอ้างว่าเดี๋ยวค่อนทำก็ได้ ทำแป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว อย่าพึ่งทำก็ได้ สุดท้ายก็โดนคู่แข่งแซงหน้าไปก่อนแล้ว

8.ฉันทำไม่ได้หรอก

ทำไม่ได้ และไม่ได้ทำ มีความหมายแตกต่างกันมาก คนที่ไม่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ จะอ้างว่าตัวเองทำไม่ได้ ทั้งๆ ที่ยังไม่ลงมือเลย แต่ถ้าได้ลงมือทำแล้ว อาจชอบ ติดใจ สุดท้ายมีมุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จ

9.ไม่มีเวลา

เป็นอีกข้ออ้างยอดฮิตของคนสมัยนี้จริงๆ ทุกคนมักอ้างว่าตัวเองไม่มีเวลา ทั้งที่มนุษย์เราเกิดมามีโอกาส และมีเวลาเท่าๆ กัน ถ้าถามว่าแต่ละวันคุณเอาเวลาไปทำอะไรบ้าง ถ้าอยากมีรายได้เสริม แต่ตัวเองทำงานจันทร์-ศุกร์ ก็ใช้เวลาเสาร์-อาทิตย์ไปขายของ หรือหารายได้อย่างอื่นก็ได้ เพราะถ้าเราไม่แบ่งเวลาให้เป็น เวลาก็จะไม่มีให้คุณอยู่แล้ว

ภาพจาก pixabay.com

10.ฉันไม่รวย

เป็นข้ออ้างของคนที่กำลังคนอื่นที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว มองว่าเขารวย พ่อแม่ของเขามีฐานะ จึงประสบความสำเร็จในการเรียน หรือในหน้าที่การงานได้ ทั้งที่จริงแล้ว ไม่ว่าคนจน หรือคนรวยก็มีโอกาสเรียนจบปริญญาตรี หรือได้ทำงานดีๆ ได้ ถ้าตัวเองหมั่นหาความรู้ ขยันหมั่นเพียร ใช้ความพยามให้มากกว่าคนอื่น สุดท้ายก็จะสำเร็จได้ครับ

11.ฉันไม่เก่ง

คนที่ไม่เก่ง ก็สามารถที่จะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้ เมื่อรู้ว่าตัวเองไม่เก่งด้านนี้ ด้านนั้น ก็ควรที่จะพัฒนาทักษะด้านที่ไม่เก่งให้เก่งได้ ให้คนที่มีความมาช่วยสอน มาช่วยพัฒนาทักษะ ส่วนใหญ่มักอ้างว่าไม่เก่ง จึงไม่อยากทำ

12.ฉันไม่เหมาะสม

คนที่ไม่กล้าลงมือทำ ไม่กล้าตัดสินใจ มักอ้างว่าตัวเองไม่ความเหมาะสม ถ้าลงมือทำแล้วกลัวคนอื่นว่า กลัวคนอื่นมองไม่ดี อ้างว่าตัวเองไม่เหมาะกับงานที่จะทำ สุดท้ายก็ไม่กล้าลงมือทำ สุดท้ายโอกาสที่จะได้งานดีๆ ตำแหน่งดีๆ ก็หลุดลอยไป

ภาพจาก pixabay.com

13.ฉันไม่ว่าง

คนที่มักอ้างว่า ตัวเองไม่ว่าง เวลาคนอื่นชวนไปทำนู่นทำนั่น ไปเลย ไปเถอะ ฉันไม่ว่าง ส่วนใหญ่แล้วมักเป็นคนปิดโอกาสให้กับตัวเองในการได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งๆ ที่ในอนาคต สิ่งที่เพื่อนชวนไปทำอาจเป็นสิ่งที่คุณชอบก็ได้

14.ฉันสู้เขาไม่ได้หรอก

สู้เขาไม่ได้ เป็นข้ออ้างของคนที่ไม่คิดที่จะลงมือทำ เพราะถ้าลงมือทำไปแล้ว กลัวผิดพลาด กลัวสู้คนอื่นไม่ได้ สุดท้ายก็ไม่สามารถสู้คนอื่นได้ เพราะตัวเองมัวมุดหัวอยู่แต่ในกระดอง ไม่กล้าที่จะชักดาบออกมาสู้ หรืองัดแคมเปญออกมาแข่งขัน

15.ฉันไม่อยากเสี่ยง

หลายคนที่ประสบความสำเร็จ ส่วนใหญ่เป็นคนที่กล้าเสี่ยง กล้าได้ กล้าเสีย แต่คนที่สำเร็จส่วนใหญ่จะไม่เสี่ยงโดยที่ตัวเองไม่มีความรู้ ไม่มีความสามารถ ไม่มีข้อมูล เช่น ถ้าลงทุนหุ้น ก็ต้องศึกษาดูว่าบริษัทไหนน่าลงทุน ผลประกอบการเป็นอย่างไรบ้าง และสินค้าหรือบริการของบริษัทเป็นที่ต้องการของตลาดหรือไม่ ดังนั้น ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ก็อย่าอ้างว่าตัวเองไม่กล้าเสี่ยง แต่ควรบอกตัวเองว่า ถ้าจะเสี่ยง ต้องหาความรู้และข้อมูลก่อนเสมอ

ทั้งหมดเป็น 15 ข้ออ้าง ยอดฮิตของคนที่ไม่ประสบความสำเร็จ หลายๆ ข้อถ้าตัวเราเอง กล้าที่จะลงมือทำทันที ก็สามารถที่จะลบทิ้งข้ออ้างเหล่านั้นได้ แต่อย่าลืมว่า ข้ออ้างของแต่ละคน ถือเป็นการทิ้งโอกาสดีๆ ที่จะเกิดขึ้นให้หลุดลอยไปก็ได้ครับ

SMEs Tip

1. ฉันยังไม่พร้อม
2. ฉันอายุมาก / น้อยเกินไป
3. ฉันไม่มีเงิน
4. ฉันไม่มีดวง
5. ฉันไม่มีความรู้
6. ฉันไม่กล้า
7. เดี๋ยวค่อยทำ
8. ฉันทำไม่ได้หรอก
9. ฉันไม่มีเวลา
10. ฉันไม่รวย
11. ฉันไม่เก่ง
12. ฉันไม่เหมาะสม
13. ฉันไม่ว่าง
14. สู้เขาไม่ได้หรอก
15. ฉันไม่อยากเสี่ยง

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่

---

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

• เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
• ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
• มอบหมายงานและติดตามงาน
• อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

• ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
• ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
• การปฏิบัติงาน
• เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

• การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
• การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
• การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
• การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

• การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
• สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
• กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
• มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

• แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
• แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

• รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
• ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
• ปรับปรุงแก้ไข
• พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

• การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)