10 เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับ In-N-Out ร้านเบอร์เกอร์ในอเมริกา

พูดถึงตลาดฟาสฟู้ดต์ในอเมริกาเราคงจะนึกถึง McDonald’s หรือ Burger King ที่เป็นยักษ์ใหญ่ในบ้านเราซึ่งงานนี้ขอบอกเลยว่าไม่ใช่อย่างที่คิด เพราะร้านที่เป็นชื่อรองและไม่แบรนด์เนมอย่าง Five Guys , Shake Shake หรือ In-N-Out Burger กลับมีคนพูดถึงมากกว่า

โดยร้านที่กล่าวมานี้คนอเมริกาได้นำมารีวิวเปรียบเทียบกันอยู่บ่อยครั้งว่าแบรนด์ไหนจะอร่อยถูกใจคนอเมริกาที่สุด แต่เนื่องจากฟาสฟู้ดต์ทั้ง 3 แห่งที่ว่านี้ยังไม่ใช่ธุรกิจขนาดใหญ่นักแม้แต่ในอเมริกาเองก็ยังมีสาขาไม่คลอบคลุมอย่าง Five Guys และ Shake Shake ก็เป็นธุรกิจที่เติบโตได้ดีในฝั่งตะวันออกของประเทศและ In-N-Out Burger ก็เป็นธุรกิจที่คนฝั่งตะวันตกของอเมริการู้จักกันอย่างดี

แต่ที่ www.ThaiSMEsCenter.com สนใจนั้นคือรูปแบบการทำธุรกิจของ In-N-Out Burger ที่ถือว่าเติบโตแบบไม่ง้อระบบแฟรนไชส์ซึ่งอาจจะทำให้เป็นธุรกิจที่มีสาขาของตัวเองน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับอีก 2 แห่งที่ใช้ระบบแฟรนไชส์มาขยายธุรกิจโดย Five Guys นั้นมีกว่า 1,000 สาขารวมถึงมีสาขาในต่างประเทศอย่างแคนาดา อังกฤษ และยูเออี ส่วน Shake Shake มีร้านสาขาของตัวเอง 66 แห่งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และตะวันออกกลาง

แม้จะดูสาขาไม่มากแต่ Shake Shake ก็เอาตัวเองเข้าไปในตลาดหุ้นเรียบร้อย แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับ In-N-Out Burger ที่นอกจากไม่ใช้ระบบแฟรนไชส์ยังไม่สนใจการเข้าตลาดหุ้นอีกด้วย เราลองมาดู 10 เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับ In-N-Out Burger ให้เห็นภาพชัดเจนว่าในเมื่อไม่ง้ออะไรมากมายขนาดนี้แล้วธุรกิจนี้ทำไมคนถึงสนใจกันนัก

1.เป็นร้านเก่าแก่ตั้งแต่สมัยสงครามโลก

ร้านเบอร์เกอร์ในอเมริกา

ภาพจาก goo.gl/GZyziG

In-N-Out Burger เป็นร้านฟาสฟู้ดต์เก่าแก่จากแคลิฟอร์เนีย เปิดบริการครั้งแรกในปี 1948 ตั้งแต่สมัยสงครามโลก โดยคู่สามีและภรรยา Harry Snyder & Lynsi Snyder ปัจจุบันเป็นการสืบทอดกิจการในรุ่นที่ 3 ร้าน In-N-Out Burger นั้นมีแฟนคลับเยอะมากถึงขนาดที่มีสินค้าที่ระลึกเป็นของตัวเองขายภายในร้านเลยทีเดียว

2.เน้นการทำธุรกิจแบบครอบครัวไม่สนระบบแฟรนไชส์

In-N-Out Burger มีนโยบายชัดเจนว่าไม่รับแฟรนไชส์รวมถึงการไม่เข้าตลาดหุ้น แต่จะขอเน้นความเป็นธุรกิจครอบครัว และขยายตัวอย่างช้าๆซึ่งปัจจุบันก็มีสาขาประมาณ 300 แห่ง กระจายตัวอยู่ในรัฐทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา เช่น แคลิฟอร์เนีย แอริโซนา เนวาดา ยูทาห์ เท็กซัส เป็นต้น

3.การตลาดของ In-N-Out Burger เน้นใช้ pop-up store เป็นหลัก

062356623232

ถึงแม้จะดูว่า In-N-Out Burger ไม่ได้เน้นตลาดต่างประเทศแต่ทางร้านก็ใช้ระบบของ pop-up store ในการขายแฮมเบอร์เกอร์ที่ดูเหมือนจะได้ผลดีในต่างประเทศเช่นกัน ตัวอย่างเช่นการเปิด pop-up store ของ In-N-Out Burger ในออสเตรเลียย่าน Surry Hills ถนน Bourke St. โดยเป็นการเช่าพื้นที่ของร้านอาหารและบาร์ Dead Ringer ซึ่งงานนี้ลูกค้าแห่สนใจราวกับแจกฟรีและมีการแจกสายรัดข้อมือสีเหลืองที่ระบุชื่อร้านเอาไว้ ซึ่ง In-N-Out Burger ตั้งเงื่อนไขให้สิทธิการซื้อ 1 คนต่อ 1 ชิ้น ปรากฏว่าแฮมเบอร์เกอร์ขายหมดภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น

4.In-N-Out Burger มีเมนูแฮมเบอร์เกอร์ 3 รายการเท่านั้น

แม้จะเป็นสินค้ายอดนิยมขนาดนี้แต่ In-N-Out Burger ก็มีเมนูเบอร์เกอร์เพียง3 รายการเท่านั้นคือ แฮมเบอร์เกอร์ ชีสเบอร์เกอร์ และ Double-Double (เป็นการผสมระหว่างเนื้อสองและชีสสอง) สำหรับอาหารเมนูอื่นๆ ที่มีบริการเช่น เฟรนช์ฟรายและมิลค์เชค ราคาของ In-N-Out Burger นั้นค่อนข้างจะถูกกว่าคู่แข่งรายอื่นโดยเริ่มต้นที่ 2.10 ดอลลาร์เท่านั้น

5.พนักงานของ In-N-Out Burger นั้นใส่ใจรายละเอียดลูกค้าทุกคน

dcfvdsdcdsa

วิธีการเสิร์ฟสินค้าของ In-N-Out Burger คือจะต้องมีการใส่ผักกาดแก้วและมะเขือเทศ ราดซอสเทาซันไอแลนด์ โดยลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะใส่หัวหอมหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่พนักงานจะคอยถามลูกค้าตอนมาสั่งสินค้า รวมถึงหากอยากได้สินค้าที่มิกซ์แอนด์แมทวัตถุดิบก็สั่งที่เคาร์เตอร์ได้เช่นกัน

6.สไตล์แต่งร้านเน้นอารมณ์ย้อนยุคแบบชิลๆ

การตกแต่งและบรรยากาศในร้านก็จะให้สไตล์ความเป็นครอบครัวมากสักหน่อยได้อารมณ์เหมือนเป็นร้านฟาสฟู้ดต์แบบย้อนยุค สีที่เป็นสัญลักษณ์ของ In-N-Out Burger คือโทนสีขาวแดงและมีสีเหลืองแซมบ้างเล็กน้อย สำหรับใครที่เคยไปทาน In-N-Out Burger ก็จะรู้ได้ทันทีว่าอารมณ์เหมือนกินแฮมเบอร์เกอร์ที่บ้าน

7.ใช้ระบบครัวเปิดเป็นเสน่ห์ของธุรกิจ

006523300

เสน่ห์ของร้าน In-N-Out Burger อีกอย่างคือการเป็นครัวเปิดที่ให้ลูกค้าได้เห็นบรรยากาศการทำอาหารอย่างชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากฟาสฟู้ดต์ที่เราเห็นทั่วไปซึ่งจะมีแค่เคาเตอร์ด้านหน้าไว้รับออร์เดอร์แต่ที่ In-N-Out Burger เราเห็นได้ทุกขั้นตอนของการทำ เห็นพ่อครัวทุกคน เป็นเอกลักษณ์อีกด้านที่ In-N-Out Burger มีไม่เหมือนใคร

8. In-N-Out Burger มีระบบฟาร์มผลิตวัตถุดิบของตัวเอง

และเนื่องจากทางร้านไม่ได้มีเมนูอาหารมากมายนักทำให้สามารถควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบได้ทั้งหมดและเรื่องวัตถุดิบนี้ก็เป็นเอกลักษณ์สำคัญที่ครองใจลูกค้าอเมริกันได้อย่างดีเนื่องจากอระบบการผลิตอาหารของ In-N-Out Burger ไม่ใช่การแช่งแข็ง ไม่มีระบบอุ่นร้อนหรือไมโครเวฟอย่างที่ร้านฟาสต์ฟู้ดทั่วไปใช้ บริษัทเลี้ยงวัวไว้ล้มเอง อบขนมปังเองและส่งวัตถุดิบสดๆ มาปรุงอาหารจากฟาร์มของตัวเอง ทำให้ลูกค้าได้รับประทานอาหารที่เรียกว่าสดใหม่แบบที่ฟาสฟู้ดต์รายอื่นไม่มี

9.พนักงานของ In-N-Out Burger ได้รับอาหารฟรี 1มื้อด้วย

06623000

ด้วยระบบการดูแลกันเป็นครอบครัว พนักงานของ In-N-Out Burger ก็เป็นเหมือนคนหนึ่งในครอบครัวเช่นกันด้วยเหตุนี้ทางร้านจึงมีนโยบายให้พนักงานทุกคนสามารถสั่งอาหารรับประทานได้ฟรี 1 มื้อ แต่ก็ไม่ใช่จะสั่งได้ทุกอย่างมีเว้นแค่มันฝรั่งทอด กับ มิลค์เชคเท่านั้นที่สั่งไม่ได้ ก็แสดงว่างานนี้แฮมเบอร์เกอร์กินฟรีได้นั่นเองสำหรับพนักงาน

10.ข้อกำหนดเรื่องการแต่งกายของ In-N-Out Burger

036232330

พนักงานของ In-N-Out Burger กล่าวว่าเรื่องการแต่งกายก็เป็นปัญหาหนึ่งที่ In-N-Out Burger กำหนดโดยจะต้องเป็นการสวมใส่กางเกงที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันความร้อนจากอาหารได้ใช้สำหรับการส่งอาหารนอกพื้นที่รวมถึงจะต้องใส่หมวกและมีอุปกรณ์เชื่อมต่อไว้ติดต่อพูดคุยกันโดยสะดวก และพนักงานผู้หญิงก็ต้องเก็บรวบผมเอาไว้ใต้หมวกให้เรียบร้อยด้วย

เรียกได้ว่า In-N-Out Burger เป็นธุรกิจที่มีจุดยืนในตัวเองอย่างแข็งแกร่งและสามารถเติบโตได้อย่างดีในระบบธุรกิจสมัยใหม่ ซึ่งจะว่าไปแล้วการยืนหยัดและแสดงจุดยืนของตัวเองที่ชัดเจนคือ Brand Awareness ที่สำคัญมาก ก็คงต้องชมทีมบริหารที่สามารถทำให้ In-N-Out Burger เดินหน้าในเส้นทางของตัวเองได้อย่างน่าชื่นชมจนประสบความสำเร็จในปัจจุบัน ซึ่งธุรกิจไทยหรือธุรกิจที่คิดจะเริ่มต้นใหม่ควรดูไว้เป็นแบบอย่างกับการสร้างจุดยืนตัวเองที่ชัดเจนไม่โลเลโอนเอียงไปมา อันเป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่งในการสร้างความสำเร็จในการทำธุรกิจ

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/szbR2J

01565898888

ท่านใดสนใจอยากให้สร้างระบบแฟรนไชส์ แจ้งความประสงค์ได้ที่
โทร : 02-1019187, Line : @thaifranchise

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด