10 วินาทีตัดสินใจกับ 3 ธุรกิจที่เห็นผลชัดเจนในทฤษฏีนี้

แต่ละวันคนเรามีเวลา 24 ชม.เท่ากัน เมื่อคิดเป็นวินาทีก็เท่ากับ 86,400 วินาที นั้นคือสิ่งที่เท่าเทียมกันทั้งหมดไม่ว่าคุณจะรวยจน เป็น เจ้าของธุรกิจ เป็นคนตกงาน หรือว่านักเรียนนักศึกษาก็ตาม

คำถามจากนักจิตวิทยาที่น่าสนใจคือถ้าเรามีเงินอยู่ 86,400 บาท แล้วมีคนมาขโมยเงินเราไป 10 บาท ถามว่าเราจะโมโหแล้วยอมทิ้งเงินที่เหลืออีก 86,390 บาท เพื่อไปตามหาเงินเพียง 10 บาทหรือไม่?

คำตอบของคนส่วนใหญ่ก็คงบอกว่าไม่ นั้นก็หมายถึงว่าทุกวันที่เรามีเวลา 86,400 วินาที ถ้ามีใครเข้ามาทำให้เราหงุดหงิดอารมณ์เสียหรือทำให้เราขุ่นเขืองใจรำคาญใจอะไรก็ตาม ซึ่งเขาใช้เวลาทำแบบนั้นกับเราเพียง 10 วินาที

เราจึงไม่ควรปล่อยให้เวลาอีกกว่า 86,390 วินาทีหงุดหงิดไปกับเรื่องเหล่านั้นด้วย www.ThaiSMEsCenter.com มองว่า ความหมายที่นักจิตวิทยาต้องการสอนเราก็คือ จงอย่าเปลืองเวลากับสิ่งเล็กน้อย แล้วชีวิตของเราจะยิ่งใหญ่ได้มากกว่านั้น

หากแต่การมองโลกในแง่ดีว่าเรื่องแค่นี้ทำไม่ยากเวลาแค่ 10 วินาทีไม่น่าจะมีผลกับชีวิตของเรามากมายแต่ในความเป็นจริงยิ่งเป็นเรื่องของโลกธุรกิจแล้วการตัดสินใจใน 10 วินาทีนั้นอาจมีความหมายไปทั้งชีวิต หลายคนที่ตัดสินใจในเวลาแค่ 10 วินาทีผิดพลาดก็ทำให้ต้องหวนกลับมามองเรื่องนี้กันตลอดชีวิตเลยทีเดียว

ลองมาดูเรื่องราวการตัดสินใจใน 10 วินาทีของธุรกิจสำคัญที่เราคิดว่าน่าจะยกมาเป็นตัวอย่างได้เห็นภาพชัดเจน แน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจากความคิดใน 10 วินาทีตอนนั้นแต่อาจเป็นเรื่องที่คิดกันมานาน และวางแผนกันมาเป็นอย่างดีแต่จุดสำคัญในการเปลี่ยนแปลงที่ว่านั้นก็เกิดขึ้นเพียงแค่ไม่เกิน 10 วินาทีเท่านั้น

เจ้าของธุรกิจ

ภาพจาก goo.gl/YgH2qO

ธุรกิจแรกที่เรายกตัวอย่างมาให้เห็นเป็นรูปธรรมนั้นคือธุรกิจขายเครื่องดื่มและร้านอาหารบุฟเฟ่ต์ อย่างเช่นโออิชิซึ่งมีเจ้าของคนดังอย่างคุณตัน ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี ในตอนนั้นสินค้าทุกประเภทของโออิชิถือว่าได้รับความสนใจของคนไทยทั้งประเทศ แต่เมื่อมีข่าวว่าจู่ๆคุณตันกลับตัดสินใจขายบริษัทที่ตัวเองได้ร่วมก่อร่างสร้างขึ้นมาให้กับกลุ่มทุนใหม่

ในตอนนั้นมูลค่าการซื้อขายประมาณ 3,352 ล้านบาทก็เป็นเรื่องฮือฮาในแวดวงคนทำธุรกิจไม่น้อย มาดูในปัจจุบันปรากฏว่าบริษัทอย่างโออิชินั้นมีมูลค่าในตลาดเพิ่มสูงกว่าในขณะนั้นยอดรวมตอนนี้ไม่น่าจะต่ำกว่าหมื่นล้านบาท ส่วนตัวของคุณตันเองก็มาเปิดบริษัทใหม่ในนามของอิชิตันแล้วผลิตสินค้าเพื่อแข่งขันกับบริษัทที่ตัวเองเคยร่วมงานกันมา

คำถามก็คือว่าการตัดสินใจในช่วงเวลานั้นเกิดอะไรขึ้นกับการขายกิจการที่กำลังรุ่งเรืองแล้วมาก่อร่างสร้างกิจการใหม่ที่ขอบอกว่าต้องเริ่มการทำตลาดใหม่แทบทั้งหมด

แต่ด้วยฝีมือที่เราก็เห็นกันอยู่ปัจจุบันค่าการตลาดของอิชิตันก็โตสูสีกับโออิชิและเป็นคู่แข่งในตลาดชาเขียวได้อย่างสนุก ลองมาคิดดูว่าในตอนนั้นถ้าคุณตันไม่เทหุ้นขายตอนนี้ธุรกิจชาเขียวในประเทศไทยจะเป็นอย่างไร คงไม่เดือดพล่านแข่งกันสนุกสนานเหมือนทุกวันนี้แน่นอน

iu18

ภาพจาก goo.gl/39WQgW

ตัวอย่างที่สองของการตัดสินใจที่ใช้เวลาเพียงน้อยนิดแต่กลายเป็นธุรกิจที่เติบโตระดับโลกเรื่องนี้คงหนีไม่พ้น Facebook ที่ชัดเจนไม่แพ้กัน จากเด็กหนุ่มอายุ 22 ปี ที่ก่อตั้งบริษัท Startup ได้เพียง 2 ปี และทำให้เว็บไซต์ที่เขาทำขึ้นมานั้นกลายเป็นที่นิยมของวัยรุ่นมีผู้ใช้งานในเบื้องต้นมากกว่า 8 ล้านคน

จนกระทั่งบริษัทยักษ์ใหญ่เช่น Yahoo ได้ยื่นข้อเสนอขอซื้อกิจการนี้ต่อจากมาร์คซัลเคอร์เบิร์กเป็นจำนวนเงินที่ยื่นในตอนนั้นกว่า 35,000 ล้านบาท และดูเหมือนว่าคณะกรรมการบริษัทที่เป็น Venture Capital จะเห็นดีเห็นงามและต่างสนับสนุนให้ขายกิจการนี้แล้วไปทำอย่างอื่นต่อ การประชุมที่เกิดขึ้นในตอนนั้นว่ากันว่าใช้เวลาไม่กี่นาที แต่มาร์คซัลเคอร์เบิร์กตัดสินใจในสิ่งที่ยากจะปฏิเสธได้อย่างเด็ดขาดโดยยืนกรานที่จะไม่ขายบริษัทนี้เนื่องจากเขามองว่าเป็นการเสนอราคาที่ต่ำเกินไป

แล้วมาดูในปัจจุบัน Facebook ในขณะนี้มียอดผู้ใช้งานมากกว่า 4,400 ล้านคนทั่วโลก และมูลค่าของบริษัทเองก็พุ่งสูงขึ้นไปกว่า 15 ล้านล้านบาท โดยมูลค่าของFacebook ในขณะนี้สูงกว่าข้อเสนอจากYahoo ในตอนแรกกว่า 436 เท่า นั้นแสดงให้เห็นว่าการตัดสินใจที่เกิดขึ้นในชั่วเวลาไม่นาน กลับส่งผลยิ่งใหญ่ที่ทำให้ Facebook ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของมาร์คซัลเคอร์เบิร์กเช่นเดิม

iu19

ภาพจาก goo.gl/W3Fqm2

เรื่องสุดท้ายขอออกตัวก่อนเลยว่าไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองแม้แต่น้อยแต่พอยกเอามาเป็นแนวทางของธุรกิจได้เท่านั้น ย้อนไประมาณ 11ปีก่อนกับบริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ตัดสินใจครั้งสำคัญในเวลาไม่กี่นาทีขายหุ้นของบริษัทให้กับรัฐบาลสิงคโปร์ในวงเงินขณะนั้นกว่า 73,271 ล้านบาท

และนั่นก็คือการตัดสินใจที่นำมาสู่มหากาพย์ทางการเมืองและทางเศรษฐกิจของเมืองไทยที่มีผลมาจนถึงปัจจุบันนี้ โดยถ้าดูมูลค่าของบริษัทที่ถูกขายทอดไปนั้นตอนนี้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า แสนล้านบาท แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในอีกหลากหลายเรื่องราวที่วนเวียนอยู่ในประเทศไทยและยังเป็นปัญหาที่แก้ไขกันไม่ได้มาจนถึงปัจจุบัน

และถ้ามองย้อนโดยโฟกัสเข้าไปแค่เรื่องธุรกิจเชื่อว่ามีอีกหลายธุรกิจที่ตัดสินใจชั่วขณะทำบางสิ่งบางอย่างที่ส่งผลมาถึงปัจจุบันบางธุรกิจตัดสินใจได้ถูกต้องเลือกขายทอดกิจการแล้วไปสร้างใหม่ทำให้เติบโตได้ดีกว่า หรือบางธุรกิจก็ตัดสินใจพลาดที่ขายกิจการไปแล้วมูลค่าบริษัทนั้นสูงขึ้นในขณะที่ตัวเองกลายเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีธุรกิจอะไรติดมือ

เรื่องเหล่านี้เป็นผลจากการตัดสินใจในชั่วเวลาหนึ่งที่มีผลอย่างมาก อายุขัยเฉลี่ยคนเราว่ากันว่ามีประมาณ 80 ปี คิดเป็นวินาทีได้ 2,522,880,000 วินาที และสิ่งที่เราตัดสินใจวินาทีก่อนหน้าก็จะส่งผลมาถึงวินาทีหลังๆที่เราอยู่ ไม่ใช่แค่เรื่องการงาน ไม่ว่าจะชีวิต ความรัก ครอบครัว

ทุกอย่างเป็นผลต่อเนื่องกันดังนั้นก่อนการตัดสินใจไม่ว่าในวินาทีใดก็ตามให้เลือกสิ่งที่มั่นใจว่าดีที่สุดและมั่นใจที่สุดเพราะเมื่อตัดสินใจและทำไปแล้วเราแก้ไขไม่ได้ วินาทีที่เหลือของเราจะมีค่าหรือว่าไร้ค่าก็มาจากช่วงเวลาไม่เกิน 10 วินาทีที่เราตัดสินใจทำลงไป

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด