10 อันดับอาชีพยอดแย่ในอเมริกาปี 2017

ที่ผ่านมาเราอาจจะคุ้นเคยกับการจัดอันดับอาชีพยอดฮิต อาชีพดาวรุ่งพุ่งแรง หรืออาชีพน่าจับตามองกันมามากพอสมควร คราวนี้ทางอเมริกาโดยทีมนักวิจัย CareerCast นำอาชีพทั่วไป 200 อาชีพในสหรัฐอเมริกามาจัดอันดับ

โดยวิเคราะห์จากปัจจัยต่างๆ ซึ่งรวมถึง ค่าเฉลี่ยรายได้ แนวโน้มการเติบโตของอาชีพในอนาคต ระดับของการแข่งขัน ปริมาณงานที่ต้องใช้แรงงาน สิ่งคุกคามทางด้านความปลอดภัย และ ปริมาณความเครียด

โดย CareerCast ใช้ข้อมูลจาก สำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐ และ แหล่งอื่นๆ มาใช้ในการตัดสินว่า อาชีพไหนที่ไม่เครียดมากและจ่ายเงินดี และ อาชีพไหนที่เครียดมากๆ แต่จ่ายเงินน้อย แต่ถึงอย่างนั้น รายงานนี้ก็ไม่ได้นำปัจจัยด้าน ความสุขที่ได้รับในการทำงาน และ ผลกระทบต่อสังคม เข้ามานับรวมด้วย

ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการจัดอันดับอาชีพยอดแย่ที่บางทีอาจไม่แย่แต่ด้วยสมมุติฐานที่นำมาใช้ก็ทำให้คิดเช่นนั้นได้ เอาเป็นว่าเราลองมาดูเรื่องนี้กันแบบไม่ต้องเครียดรวมถึงไม่โลกสวยหรือดราม่าลองมาดูว่ามีอาชีพไรบ้าง www.ThaiSMEsCenter.com จัดให้ครับ

1. นักข่าวหนังสือพิมพ์

ตั้งแต่ต้นปีนี้เป็นต้นมาหนังสือพิมพ์ฉบับใหญ่ๆ ในหลายเมืองของสหรัฐฯ ต้องปิดตัวลง เพราะรายได้จากการโฆษณาลงลด และผู้อ่านหันไปอ่านฉบับออนไลน์ซึ่งไม่ต้องซื้อแทน

ด้วยเหตุนี้ทำให้การจ้างงานของหนังสือพิมพ์เองก็ลดลงตามไปด้วยอัตราการเติบโตของงานในสายนี้ลดลง ติดลบไป 9 เปอร์เซ็นต์ รายได้เฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ $36,360 หรือประมาณ 1,240,000 บาท สำหรับใครที่เรียนมาทางวารสารหรือต้องการเป็นนักข่าวงานนี้ก็ต้องคิดหนักหน่อยเพราะโลกยุคนี้ดิจิตอลมากขึ้น

2.ผู้ประกาศข่าว

อาชีพนี้ในประเทศไทยอาจยังไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ส่วนใหญ่เมื่อมีการเข้ามาของทีวีดิจิตอลก็ทำให้เกิดผู้ประกาศข่าวหน้าใหม่จำนวนมาก ส่วนผู้ประกาศข่าวรายเก่าที่เก๋าเกมก็อาจจะถูกดึงให้ไปร่วมทีมทำงานในบริษัททีวีต่างๆมากขึ้น

แต่อย่างไรก็ตามอาชีพของผู้ประกาศข่าวในสหรัฐเองนั้นกลับมีแนวโน้มการเติบโตของงานติดลบไปถึง 13 เปอร์เซ็นต์ มีรายได้เฉลี่ยที่ $37,720 หรือประมาณ 1,280,000 บาทต่อปี

3. คนตัดไม้

ในเมืองไทยถ้าพูดถึงอาชีพนี้มักจะคาบเกี่ยวกับการผิดกฎหมายเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ในสหรัฐการตัดไม้เป็นอาชีพที่เมื่อขออนุญาตถูกต้องก็ทำได้อย่างเสรี ที่เมืองไทยก็เหมือนกันแต่ติดที่ว่าส่วนใหญ่เราไม่ขออนุญาตแค่นั้น

และสาเหตุที่ทำให้อาชีพตัดไม้ในอเมริกามีการเติบโตของงานติดลบไปกว่า 4 เปอร์เซ็นต์นั้นก็เพราะวิถีของเมืองเริ่มมากขึ้นคนเริ่มใช้ชีวิตในรูปแบบคนเมืองมากขึ้นการตึดไม้จึงดูมีความสำคัญน้อยไปรวมถึงการมีเครื่องจักรที่ทันสมัยและใช้งานได้รวดเร็วกว่าทำให้อาชีพนี้สร้างรายได้ประมาณ $36,210 หรือประมาณ 1,230,000 บาทต่อปี

4. ทหารชั้นประทวน

การจัดอันดับของ CareerCast มีอาชีพทหารชั้นประทวนติดเข้ามาด้วย ซึ่งอาชีพนี้ในประเทศไทยต้องบอกว่ายังเป็นอาชีพในฝันของใครหลายคนโดยเฉพาะค่านิยมของผู้ปกครองที่มักอยากให้บุตรหลานรับราชการ

อาชีพนี้จึงไม่น่าจะเป็นอาชีพยอดแย่ในประเทศไทยได้แน่แต่ในอเมริกา รายได้ของทหารชั้นประทวน ระดับนายสิบที่มีประสบการณ์ไม่ต่ำกว่า 3 ปีนั้น มีรายได้ประมาณ$27,936 หรือประมาณ 950,000 บาท และในยุคที่มีการก่อการร้ายแพร่กระจายไปทั่วก็ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองในสหรัฐต้องคิดหนักหากจะส่งลูกหลานเข้าไปเป็นทหาร

5. บริการกำจัดสัตว์ที่เป็นพาหะ

คำว่าสัตว์ที่เป็นพาหะก็เช่นพวกยุง แมลงวัน ลิ้น เหลือบ ไร ถ้าเทียบให้เข้าใจง่ายๆ ในบ้านเราก็คงคล้ายกับพวกเจ้าหน้าที่กู้ภัยหรือจากมูลนิธิต่างๆ งานนี้โดยความจริงแล้วก็ไม่ใช่อาชีพที่มีค่าตอบแทนสูงนัก

ยิ่งมาเจอกับช่วงที่โลกเรากำลังพัฒนาเทคโนโลยีในการจัดการสิ่งต่างๆเป็นเรื่องง่ายขึ้นทำให้อาชีพนี้กลายเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามไปโดยปริยายมีอัตราการเติบโตติดลบไม่แพ้อาชีพอื่นๆและมีรายได้ต่อปีเฉลี่ย$32,160 หรือประมาณ 1,100,000 บาท

6. ดีเจ

ปัจจุบันอาชีพจัดรายการวิทยุนั้นกำลังถูกทดแทนด้วยเทคโนโลยีอย่างAI รวมถึงเป็นหนึ่งในสาขาอาชีพที่ว่ากันว่าน่าจะใช้เทคโนโลยีในการจัดทดแทนมนุษย์ได้อย่างเต็มรูปแบบ

แต่ในปัจจุบันวิทยาการยังไม่ก้าวล้ำเช่นนั้นแต่อย่างไรก็ตามด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาประกอบกับบทบาทในอาชีพที่ลดลงจากการที่คนส่วนใหญ่ใช้การดาวน์โหลดฟังเพลงมากกว่าฟังจากการจัดรายการก็ทำให้ในอเมริกาแนวโน้มการเติบโตของอาชีพนี้ลดลงถึง 11 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งรายได้เฉลี่ยของอาชีพนี้ในแต่ละปีประมาณ $30,080 หรือประมาณ 1,022,000 บาท

7.ฝ่ายขายโฆษณา

ผลพวงจากเทคโนโลยีและการเติบโตของธุรกิจรายย่อยที่ผู้ประกอบหันมาใช้สื่อโซเชี่ยลทำการตลาดไม่ว่าจะเฟสบุ๊ค อินสตราแกรม หรือว่ากูเกิล ได้อย่างชำนาญมากขึ้นก็ทำให้สื่อโฆษณามีการเปลี่ยนแปลงตัวเอง

โดยสำคัญคือไม่เน้นการจ้างพนักงานขายส่วนนี้เพื่อลดรายจ่ายให้ธุรกิจส่งผลให้แนวโน้มการเติบโตในสหรัฐนั้นลดลงกว่า 3 เปอร์เซ็นต์และรายได้เฉลี่ยของอาชีพนี้ต่อปีอยู่ที่ $48,490 หรือประมาณ 1,650,000 บาท

8. เจ้าหน้าที่ดับเพลิง

งานที่เสี่ยงภัยก็กลายเป็นอาชีพที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมสักเท่าไหร่อยู่แล้วแต่ทั้งนี้ก็ดูเหมือนว่าความต้องการในอาชีพนี้ยังคงพอมีอยู่บ้างแม้อัตราการเพิ่มขึ้นของพนักงานใหม่จะไม่เข้มข้นสักเท่าไหร่ทิศทางการเติบโตนั้นเพียง 5 เปอร์เซนต์

ข้อดีคือยังไม่ติดลบแสดงว่ายังพอเป็นอาชีพที่มีความหวังแม้ต้องเจอกับความเครียดและความเสี่ยงแต่รายได้ของอาชีพนี้ต่อปีก็อยู่ที่ $46,870 หรือประมาณ 1,590,000 บาท

9. พนักงานขายในร้านค้าปลีก

ผลกระทบโดยตรงของอาชีพนี้คือการมีร้านค้าออนไลน์เกิดขึ้นจำนวนมาก ธุรกิจค้าปลีกในอเมริกาจึงได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างหลายธุรกิจต้องประกาศปิดกิจการหรือที่ยังพอเปิดอยู่ได้ก็ต้องมาปรับแผนการตลาดใช้การค้าออนไลน์เข้ามาทดแทนการขายในรูปแบบเดิม

แต่อย่างไรก็ตามธุรกิจนี้แม้เทียบกับอดีตตัวเลขการเติบโตจะลดลงมากจนเหลือแค่ 7 เปอร์เซ็นต์และมีแนวโน้มจะลดลงไปอีกเรื่อยๆ แต่อย่างน้อยอาชีพนี้ก็ยังพอสร้างรายได้ดีเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่$22,040 หรือประมาณ 749,000 บาท

10. คนขับรถแทกซี่

การเกิดขึ้นมาของ Grap และUber ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในแวดวงบริการนี้มากพอสมควรทางตรงกันข้ามก็ทำให้เกิดพนักงานหน้าใหม่ในรูปแบบของการทำพาร์ทไทน์จากแพลตฟอร์มที่ได้นำเสนอไปทิศทางการเติบโตนี้จึงเด่นชัดมากที่สุดและมีสัดส่วนมากที่สุดคือ 13 เปอร์เซ็นต์

แต่อย่างไรก็ตามก็ยังดูเป็นอาชีพยอดแย่ในสายตาของ CareerCast ที่มองว่าโอกาสของธุรกิจนี้มีความผันผวนไปตามกระแสและไม่มีความแน่นอนมากนักแม้จะมีรายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ $23,510 หรือประมาณ 800,000 บาทก็ตาม

ทั้งนี้อาจกล่าวได้ว่าบางอาชีพอาจไม่ได้ดูแย่มากนักแต่ทิศทางอนาคตที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำมาหากินรวมถึงเรื่องการลงทุนด้วยแล้วก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงในการทำงานให้มากขึ้น ภาวะความเครียดจึงเกิดขึ้นในหลากหลายอาชีพและทำให้คนเริ่มไม่สนใจมากขึ้น ซึ่งในประเทศไทยเองอาจแตกต่างออกไปแต่ก็คงมีอีกหลายอาชีพที่มีแนวโน้มเป็นอาชีพยอดแย่ได้เช่นกัน

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/mxaFR6