ไม่ฟื้น! ตลาดค้าปลีกอเมริการะส่ำ ปีนี้ปิดตัวเกือบ 9,000 สาขา

โดยจากข้อมูล ที่ผ่านมาของ www.ThaiSMEsCenter.com ได้เคยพูดถึงการ การเตรียมปิดตัวของแบรนด์ร้านค้าปลีกชื่อดังอย่าง GameStop และ Fred’s ไปเมื่อไม่มานี้ จนในที่สุดตอนนี้แบรนด์ร้านค้าปลีกอย่าง Fred’s และ GameStop เอง ก็ได้ประกาศปิดตัวลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

Fred’s เป็นร้านค้าปลีกที่เปิดมามากว่า 72 ปี และตั้งอยู่ในเมืองเมมฟิสนั้น ประกาศว่าจะยื่นฟ้องล้มละลายและปิดร้านค้าทั้งหมด อีกทั้ง GameStop เอง ก็ได้ประกาศปิดลงมากถึง 200 สาขา และคาดว่าน่าจะมีการปิดกิจการมากขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา

โดยจากข้อมูล

ภาพจาก bit.ly/2lf2YVZ

การปิดร้านอาหารในเครืออย่าง Ruby Tuesday หรือ Steak ‘n Shake ดูแล้วค่อนข้างเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ การปิดร้านค้าปลีก ซึ่งนี้เป็นเรื่องปกติมากที่เกิดขึ้นในปีนี้ และดูเหมือนว่ามันจะไม่มีวี่แววที่จะดีขึ้นเลย

การปิดกิจการร้านค้าปลีกและอุตสาหกรรมร้านอาหารเหล่านี้นั้น มีความเกี่ยวข้องกันถึงสาขาที่มีปัญหาจากการขายหรือไม่ การเปลี่ยนแปลงการซื้อขายสินค้าทางสื่อออนไลน์บนอินเทอร์เน็ตนั้น ได้แปรเปลี่ยนระเบียบแบบแผนทางการค้าในสมัยก่อนไปอย่างสิ้นเชิง

12

ภาพจาก bit.ly/2nkIDiF

โดยรวมแล้วในปีนี้ ค่อนข้างแย่สำหรับทำธุรกิจในการค้าปลีก จากการวิจัยของ Coresight ผู้ค้าปลีกในสหรัฐเอง ก็ได้ประกาศปิดตัวลงถึง 8,567 สาขา เมื่อเทียบกับการเปิดสาขาใหม่เพียงแค่ 3,486 สาขาเท่านั้น หรือลดลงประมาณ 5,000 แห่ง จากการเปรียบเทียบร้านค้าปลีกที่ปิดกิจการลงแล้วถึงสาขา 5,844 สาขา

จากปีที่แล้วทั้งหมดจาก 3,258 สาขา กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ ธุรกิจค้าปลีกต่างๆได้มีการปิดกิจการในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าในปีนี้ และคาดว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้า ของปี 2562 ก็อาจจะมีการปิดกิจการเพิ่มขึ้นอีก โดย Coresight ก็ได้คาดการณ์ว่า จะมีการปิดกิจการการค้าปลีกมากถึง 12,000 แห่งภายในสิ้นปีนี้

11

ภาพจาก bit.ly/2lbE61k

ธุรกิจการค้าปลีกต้องดิ้นรนหาหนทางในการประกอบธุรกิจ ซึ่งนั่นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการทำธุรกิจร้านอาหารได้ถูกมองข้ามในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ถึงแม้จะมีเศรษฐกิจที่มั่นคงและแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม

แต่ยอดขายและปริมาณในสาขาเดิมส่วนใหญ่ก็ลดลงไปตั้งแต่เมื่อปี พ.ศ. 2559 นี้แล้ว โดยจากข้อมูลของ Black Box ซึ่งเป็นอัจฉริยะในการรับส่งข้อมูลได้ระบุว่า ยอดขายของสาขาเดิมได้ลดลงไปถึง 3.9% ในช่วงเดือนสิงหาคม และลดลงไปอีก 4% ในช่วงเดือนกรกฎาคม จากข้อมูลพื้นฐานทั้ง 2 ปี จริงๆแล้ว การค้าขายได้ลดลงไปถึง 5.8% ในช่วงของเดือนกรกฎกาคม

10

ภาพจาก bit.ly/2lSWgp2

ปริมาณการค้าปลีกที่อ่อนแอเป็นปัจจัยที่ชัดเจนของอุตสาหกรรมที่กำลังจะสูญเสียโอกาสสำคัญในรูปแบบของการช็อปปิ้งอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวคิดในการรับประทานอาหารแบบสบายๆ เติบโตขึ้นรอบๆศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้า และธนาคาร อย่างน้อยในส่วนหนึ่งของความคิดที่ว่า

ผู้บริโภคจะนั่งทานอาหารหลังจากที่ให้การสนับสนุนเศรษฐกิจมาทั้งวัน มันไม่ใช่แค่โอกาสที่หายไป แต่เป็นโอกาสในการเปลี่ยนแปลงปริมาณการค้าปลีก เนื่องจาก Amezon นั้นเป็นส่วนหนึ่งของ “การแยกตัวออกมา” ของประชากร โดยจะช่วยผลักดันให้ยอดขายเพิ่มมากขึ้นสำหรับการซื้อกลับบ้านและการจัดส่งสินค้า

บริษัทต่างๆที่อยู่ในเครือเดียวกันจำนวนมาก อย่างเช่น Starbuck , McDonald’s, Burger King และอื่นๆอีกมากมายที่สามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ได้และใช้เงินจำนวนมากเพื่อรักษาความได้เปรียบนั้นไว้ แต่แนวความคิดที่เติบโตขึ้นรอบๆศูนย์การค้าไม่สามารถทำได้เพราะ พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงลูกค้าประเภทนั้นได้ อย่าดูถูกดูแคลนผลกระทบของกลยุทธ์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในโอกาสการขายของ

9

Denny Marie Post
ภาพจาก bit.ly/2nlFOhm

Denny Marie Post อดีต CEO ของ Red Robin ได้กล่าวเอาไว้เมื่อเร็วๆว่า “สถานที่ที่ล้อมรอบอยู่ภายในห้างสรรพสินค้านั้น เป็นอุปสรรคอย่างแท้จริง” ซึ่งเธอได้ระบุเอาไว้อีกด้วยว่า “จากการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดจาก Podcast พวกเขาอาจจะไม่ได้รับผลประโยชน์ใดๆจากการเดินทางนี้ คุณอาจกำลังจะจอดรถจริงๆ หรือคุณจะเดินวนข้ามลานจอดรถนี้เพื่อเข้าไปรับอาหารของคุณ? ซึ่งนั้นก็เหมือนกับสถานที่เหล่าที่ไม่มีความสามารถในการผลักดันการเข้าถึง”

แน่นอนว่า ภายใต้สถานการณ์ที่ย่ำแย่แบบนี้ คนที่ประกอบธุรกิจทางร้านอาหารควรปรับตัวให้เข้ากับความเป็นจริงใหม่นี้ได้แล้ว และหลายร้านเองก็เริ่มมีการที่จะปรับตัวอยู่แล้ว บริษัทที่สามารถดึงดูดความพึงพอใจของลูกค้าได้ ตามประสบการณ์ที่พวกเขาเสนอ

ยกตัวอย่างเช่น Punch Bowl Social นั้นกำลังเป็นที่ต้องการอย่างสูง อย่างการให้บริการแบบ Ghost kitchen หรือ ร้านอาหารแบบไม่มีหน้าร้าน โดยจะใช้ผู้จัดหาอย่าง “Kitchen United”

ซึ่งจะทำหน้าที่สำรวจหาตลาดใหม่ๆให้ลูกค้า แถมยังลงทุนสร้างห้องครัวทันสมัยใหญ่โต ที่เรียกว่า kitchen center ให้ใช้เสร็จสรรพ เจ้าของร้านแค่จ่ายค่าเช่าแล้วส่งเชฟมาประจำการ เพื่อทำอาหารพร้อมส่งต่อให้ลูกค้าเป็นพอ

8

ภาพจาก forbesthailand.com

ซึ่งการใช้บริการเหล่านี้ได้รับความสนใจและมีการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากวิธีการที่จะส่งเสริมการซื้อกลับบ้านและการส่งมอบร้านอาหารในเครือที่มีส่วนประกอบของการรับประทานอาหารอย่างหนักก็ไม่น่าดึงดูดเท่าที่เคยเป็นมา


คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

01

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

ที่มา