โพสต์ผิดธุรกิจพัง 5 สิ่งนี้ไม่ควรทำเด็ดขาด

แม้ไม่ใช่ตัวกำหนดกำไรขาดทุนทางธุรกิจที่ชัดเจนนักแต่หลายคนที่ค้าขายในโลกออนไลน์ก็ย่อมจะใจชื้นเมื่อเห็นยอดวิว หรือการ follower เพิ่มจำนวนมากขึ้น เพราะนั่นอาจจะหมายถึงมีคนเห็นและสนใจในสินค้าหรือว่าบริการที่เรานำเสนอแต่การยึดติดกับคำว่า follower มากเกินไปคิดแต่จะเพิ่มจำนวนคนติดตามที่ไม่มองถึงวิธีการก็ดูจะไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดในการทำธุรกิจนัก

www.ThaiSMEsCenter.com ยังคงให้ความสำคัญกับการโพสต์ขายสินค้าที่จำเป็นต้องมีความต่อเนื่องแต่ในความต่อเนื่องที่ว่านั้นก็จำเป็นต้องมีทักษะกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ เพราะการกระทำบางอย่างแม้คนโพสต์อาจไม่ได้คิดอะไรแต่กลับกลายเป็นการเพิ่ม unfollow แบบไม่รู้ตัว หากเกิดปรากฏการณ์นี้ขึ้นแสดงว่ามีคนไม่ปลื้มกับสินค้าที่เรานำเสนอ

แน่นอนว่ายุคนี้คือโลกโซเชี่ยลอะไรที่เป็นกระแสมักไปเร็วเสมอ ทำดีก็ดังไว ทำไม่ดีก็ดับไวได้เหมือนกัน และนี่คือ 5 สิ่งที่คนค้าขายไม่ควรโพสต์หากคิดทำการตลาดแบบออนไลน์

1.โพสต์ข้อความโปรโมชั่นมากเกินไป

โพสต์ผิดธุรกิจพัง

แน่นอนว่าลูกค้ามักอยากรู้เมื่อมีโปรโมชั่นจากทางร้าน แต่การโพสต์ข้อความโปรโมชั่นซ้ำๆ บ่อยๆ ย่อมก่อให้เกิดความรำคาญได้ โดยมีผลการสำรวจของ Sprout Social บอกว่า มีถึง 58% ของผู้ตอบแบบสอบถามทีเดียวที่บอกว่าพวกเขารู้สึกรำคาญโพสต์ข้อความโปรโมชั่นที่เยอะมากเกินไป

ขณะที่ 85% บอกว่าต้องการเห็นโปรดักต์และการบริการหลายครั้งก่อนตัดสินใจซื้อมากกว่า ดังนั้นจึงต้องรู้จักที่จะบาลานซ์การโพสต์ข้อความต่างๆ โดยเฉพาะโปรโมชั่นด้วยซึ่งถ้ามากเกินไปนอกจากลูกค้าจะหยุดซื้อดื้อๆ แล้วยังจะ unfollow อีกด้วย

2.โพสต์ข้อความที่ไม่เกี่ยวข้อง

ii12

จากผลสำรวจสรุปว่า 41% ของผู้ตอบแบบสอบถามจะ unfollow เมื่ออ่านบทความที่ไม่เกี่ยวข้องมากเกินไป เพราะจะรู้สึกเป็นบทความขยะ ดังนั้น การโพสต์บางสิ่งบางอย่างที่นอกเหนือในบางเวลา

เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้านั้นสามารถทำได้ แต่ต้องเลือกที่สำคัญจริงๆ และอย่าลืมว่าเพจของคุณเป็นเพจเกี่ยวกับอะไร ควรเลือกบทความหรือแชร์บทความที่เกี่ยวข้องจะดีกว่า

3.งดการใช้คำแสลง

ii15

บ่อยครั้งที่เราต้องสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในกลุ่มเด็กวัยรุ่น จึงพยายามใช้คำเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนเหล่านี้ แต่ถ้าไม่ระมัดระวังแทนที่จะเป็นผลดีอาจกลายเป็นร้ายได้ เพราะว่ามีผลสำรวจยืนยันว่ามีถึง 30% ทีเดียว

ที่มองว่าการพยายามให้คำแสลงเป็นเรื่องน่ารำคาญ และจะ unfollow หากการโพสต์นั้นแสดงชัดถึงความพยายามมากเกิน จนกลายเป็นความอึดอัดไป ตัวอย่างของคำแสลงที่นิยมใช้กันในหมู่วัยรุ่นเมืองไทยก็เช่น แอ๊บแบ๊ว , ตีส , ติ๊งต๊อง , ติดเรท , ชิลด์ๆ เป็นต้น

4.ทุกอย่างดูเงียบเกินไป

ii14

การโพสต์มากเกินไปไม่ดี แต่ถ้าโพสต์น้อยเกินไปจนรู้สึกว่าเงียบเหลือเกินก็ไม่ดีเช่นกัน เพราะ 18% บอกว่าจะ unfollow ดังนั้น ถ้าไม่รู้จะโพสต์อะไร ให้ลองสังเกตคู่แข่งขันว่าเขาโพสต์บทความอะไรเป็นประจำ

แม้บางครั้งว่าบทความนั้นอาจไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการขายสินค้าแต่ถ้าเป็นบทความดีๆ ที่มีแง่คิด การโพสต์ข้อความเหล่านั้นก็ทำให้มีคนสนใจและอยากติดตาม ซึ่งไม่จำเป็นว่าเราต้องโพสต์อะไรที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้าทุกครั้งไป

5.การไม่ตอบคำถามลูกค้า

ii13

จากผลการสำรวจนั้นมีผู้ตอบแบบสอบถามถึง 15% ทีเดียวที่บอกว่าถ้าถามอะไรไปแล้วไม่ตอบกลับมาก็เป็นเหตุผลที่จะ unfollow ได้ง่ายๆ จริงๆ แล้วการตอบคำถาม ไม่ได้มีผลดีแค่เรื่องยอด follow เท่านั้น แต่เป็นการสร้างประสบการณ์ที่ดีร่วมกันระหว่างลูกค้ากับร้านค้าออนไลน์ด้วย

ยิ่งในยุคที่การสื่อสารออนไลน์เร็วยิ่งกว่าสิ่งใด การทำอะไรเพียงเล็กน้อยก็อาจกลายเป็นประเด็นดราม่าในโลกโซเชี่ยลได้ทันที ในโลกออนไลน์นี้จึงมีสองมุมที่สามารถส่งเสริมให้เกิด หรือทำให้คนนั้นดับ ได้ในทันที

การเลือกช่องทางการโพสต์ก็ควรระวังและใช้วิธีเหล่านี้ด้วยการมีวิจารณญาณไม่ใช่คิดแต่จะโพสต์ๆ และโพสต์ เพราะปัจจุบันเรามี พรบ.คอมพิวเตอร์มาเกี่ยวข้อง ก่อนจะโพสต์อะไรก็ต้องพิจารณาให้ดีก่อนว่าเหมาะสม และสมควรหรือไม่ จะไปเดือดร้อนคนอื่นหรือเปล่า รวมถึงโพสต์แล้วมีผลดีกับสินค้าอย่างไร เรื่องเหล่านี้เป็นองค์ประกอบเล็กๆแต่ว่าสำคัญทางการตลาดมาก

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด