“โควิด-19” พิฆาตเศรษฐกิจโลก ธุรกิจไทยหั่นเงินเดือน-ให้หยุดงานฝ่าวิกฤติ

เชื้อไวรัส “โควิด-19” หรือ “ไวรัสโคโรน่า 2019” มหันตภัยร้ายแรงสุดในรอบหลายทศวรรษยังคุกคามโลกไม่หยุด หากยังไม่สามารถสกัดกั้นการแพร่ระบาดจะยิ่งเพิ่มปัจจัยเสี่ยงฉุดเศรษฐกิจโลกที่กำลังมีปัญหาดิ่งลงหนักกว่านี้เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ธนาคารโลกได้ประมาณการผลกระทบทางเศรษฐกิจ โดยใช้ข้อมูลการระบาด ว่า GDP ของทั้งโลกน่าจะถดถอยลงราว 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรุนแรงกว่า ซาร์ราว 70 เท่า

gnhgfdklkljkl
ภาพจาก bit.ly/2IeI9C2

ขณะที่นายรูบินีซึ่งเป็นกูรูด้านเศรษฐกิจมหภาค ทำนายว่าโควิด-19 เสี่ยงจะลุกลามอย่างกว้างขวางมากขึ้นในยุโรปจนต้องตัดสินใจไม่ปิดพรมแดนระหว่างกันผลกระทบต่อ “ซัพพลายเชน” อาจมีมากกว่าที่คิด เพราะสมัยไข้หวัดซารส์การผลิตอุตสาหกรรมเกิดในจีนเพียง 5% ของโลก แต่ปัจจุบันกว่า 20% ดังนั้น ความเสียหายไม่น้อยกว่าสงครามการค้าแน่ๆ

กระทบอย่างไร แน่นอนการเดินทางท่องเที่ยวหยุดชะงักแทบทั้งหมด ซึ่งยังไม่มีใครพยากรณ์ได้ว่าโควิด-19 จะจบลงตรงไหนเดือนไหน เมื่อท่องเที่ยวหดหายพี่น้องเราที่ทำร้านอาหาร โรงแรม ขายของเล็กน้อยตามแหล่งท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบไปด้วย ปัญหาการตกงาน ว่างงานกำลังจะตามมา

ในภาพใหญ่ขึ้นมาอีกนิด การผลิตสินค้าของไทย ซึ่งเรียกว่าเป็นหนึ่งในห่วงโซ่ผลิตสำคัญ หมายถึงว่าเรานำเข้าชิ้นส่วน เช่น จากจีน มาผลิตสินค้าส่งออก หรือจีน เกาหลีนำชิ้นส่วนจากเราไปผลิตส่งออก ซึ่งในเอเชียเป็นฐานผลิตสินค้าให้โลกสัดส่วนเกือบ 50% เมื่อเอเชียชะงักนั่นหมายถึงเราไม่มีสินค้าผลิต

โควิด-19 หนักกว่า SARS

dfvbvgfcdjlkjkjljlk

ภาพจาก bit.ly/2IeI9C2

ไวรัสโควิด-19 จะสร้างปัญหาให้เป็นเศรษฐกิจโลกได้ขนาดไหน บอกได้หนึ่งประโยคว่า “มากกว่า SARS แน่นอน”เพราะ เศรษฐกิจจีนตอนนี้มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกและมีสัดส่วนสูงถึง 19% ของผลิตภัณฑ์มวลรวม (GDP) โลก เทียบกับในช่วงที่โรค SARS ระบาดซึ่งเศรษฐกิจจีนมีสัดส่วนเพียง 8% ของ GDP โลก

ทำให้ไวรัสโควิด-19 สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจได้มากกว่า SARS แน่นอน อีกทั้ง ไวรัสโควิด-19 ระบาดไม่ถึงเดือน มีคนเชื้อ 64,457 ราย เสียชีวิต 1,384 ราย(ข้อมูลวันที่ 14 ก.พ. ) มากกว่า SARS เยอะ

ขณะเดียวกัน Economist Intelligence Unit (EIU) วิเคราะห์ว่า การท่องเที่ยวโลกนี้จะสูญเสียรายได้จากผลกระทบไวรัส COVID-19 ราว 8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.4 ล้านล้านบาท คาดว่าไม่น่าจะฟื้นตัวได้ภายใน 1 ปี และการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวจีนจะไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้จนกว่าจะถึงไตรมาสที่ 2 ของปีหน้าหรือปี 2021

ทั้งนี้ การที่โรงงานในจีนปิดเพราะไวรัสโควิด-19 ระบาด ทำให้ Amazon มีกำลังการผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ ไม่พอต่อการเตรียมออเดอร์ให้ลูกค้าที่จะจัดขึ้นในวัน Prime Day ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่ง Amazon ก็ได้ส่งสัญญาณถึงแหล่ง supply chains ที่ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการ Disruption ธุรกิจนี้ด้วยเช่นกัน

dfgbhgfdjslkjkljkl
ภาพจาก bit.ly/38h4t8J

ด้านนักลงทุน Warren Buffett กล่าวกับ CNBC ว่า เขาไม่กังวลเรื่องไวรัสโควิด-19 ตามสไตล์ของปู่ที่เน้นการลงทุนในหุ้นระยะยาว เขามองว่า โควิด-19 เป็นภัยแค่เพียงระยะสั้น สำหรับธุรกิจที่เขาลงทุนมองกันยาวๆ ยาวไป 20-30 ปีเลย ด้าน Elon Musk ก็สูญเงินนับแสนล้านบาทเช่นกัน ภาวะระบาดของโควิดทำให้แผนการผลิตรถยนต์ Tesla ต้องชะงักตามไปด้วย เพราะโรงงานผลิตในเซี่ยงไฮ้หยุดทำงานมาแล้ว 2 สัปดาห์

ขณะที่บริษัทซอฟท์แวร์อย่าง Microsoft ยังออกมาเตือนนักลงทุนว่า ไตรมาสแรกของปี 2020 อาจจะไม่เป็นไปตามที่คิดไว้เพราะไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อ suppliers และการผลิตคอมพิวเตอร์ในจีน ยังไม่จบแค่นี้ ยังมีมหาเศรษฐีนอกสหรัฐฯ ที่เป็นบิ๊กเนมของวงการแฟชั่นอย่าง Amancio Ortega เจ้าอาณาจักร Zara, Pull and Bear, Stardivarius ฯลฯ และ Bernard Arnault เจ้าของแบรนด์หรู LVMH ก็ได้รับผลกระทบจาก supply chains กันถ้วนหน้า

ธุรกิจไทยพาเหรดลดเงินเดือน-ให้หยุดงานฝ่าวิกฤติ

โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) ลงนามประกาศแจ้งต่อพนักงานว่า เนื่องด้วยสถานการณ์การระบาดอย่างต่อเนื่องของโรคไวรัสโคโรน่า ที่ส่งผลกระทบอย่างหนักกับธุรกิจทั่วโลกและประเทศไทย ส่งผลให้จำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการกับโรงแรมน้อยกว่าปกติดังนั้น บริษัทฯจึงขอความร่วมมือจากเพื่อนร่วมงานทุกท่าน สมัครใจใช้สิทธิ์การลาแบบไม่รับค่าจ้าง ตั้งแต่วันที่ 1-31 มี.ค.2563 เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ

fghnbvgfcjkl
ภาพจาก bit.ly/32LuD2n

บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เจ้าของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กล่าวว่า สืบเนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบันมีภาวะชะลอตัวลง ประกอบกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวและการบิน

บริษัทฯ จึงได้มีการทบทวนแผนธุรกิจและปรับกลยุทธ์ในการดำเนินงานเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ดังกล่าว รวมถึงการออกมาตรการปรับลดค่าใช้จ่ายด้านปฏิบัติการบินและค่าใช้จ่ายด้านบุคคลากร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

โดยมาตรการปรับลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการบินและค่าใช้จ่ายด้านบุคคลากร บริษัทฯ มีแผนดำเนินการ ดังนี้

  • ปรับลดความถี่ของเที่ยวบิน ตลอดจนพิจารณายกเลิกเส้นทางบินในบางเส้นทาง เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการในการเดินทางของผู้โดยสาร ณ ปัจจุบัน
  • ปรับลดเงินเดือนของประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ กรรมการ/รองผู้อำนวยการใหญ่สายงานบริหารกลาง และรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโสสายงานการเงินและบัญชี ลง 50%
  • ยกเลิกการปรับขึ้นเงินเดือนประจำปี 2563 ของผู้บริหารสูงสุดของฝ่าย
  • ปรับลดสวัสดิการของผู้บริหารและพนักงาน
  • ให้นายสถานีและรองนายสถานี ที่ประจำอยู่ ณ สถานีต่างประเทศและสถานีอื่นๆ ในประเทศ ทำการโยกย้ายกลับมาประจำการที่สถานีกรุงเทพฯ
  • ขอความร่วมมือจากผู้บริหารและพนักงาน ในการลางานโดยไม่รับค่าจ้าง (Leave without pay) จำนวน 10-30 วัน

บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) เจ้าของโครงการเลเจนด์ สยาม (Legend Siam) สวนสนุกเชิงวัฒนธรรมแห่งแรกในไทย (Thai cultural theme park) และแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเมืองพัทยา จ.ชลบุรี มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท ลงนามประกาศเมื่อวันที่ 28 ก.พ.2563 เรื่อง ปิดกิจการเพื่อบรับปรุงและป้องกันการแพร่กระจายของโรคระบาด ความว่า

เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยตลอดปี 2562 ที่ผ่านมามีการชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก อีกทั้งปัจจุบัน ได้เกิดถานการณ์ภาวะโรคระบาดโคโรน่า 2019 (Covid-19) เป็นจำนวนมากและมากขึ้นตามลำดับ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ดังที่ปรากฏทั่วไปตามสื่อต่างๆ มีผลทำให้ธุรกิจการท่องที่ยวของประเทศไทยชะลอตัวและลดลงอย่างต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวยกเลิกการเดินทางมาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากกว่าที่คาดคิด โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดชลบุรี

จึงเป็นสาเหตุที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อบริษัท เนื่องจากตั้งอยู่ในพื้นที่เขตท่องเที่ยว ทำให้บริษัทฯไม่สามารถประกอบกิจการได้ตามปกติ อีกทั้งยังเป็นการป้องกันการแพร่กระจายซองโรคระบาดแก่นักทองเที่ยวและเพื่อรักษาสุขภาพของพนักงาน ฝ่ายบริหารจึงเห็นสมควรปิดกิจการเป็นระยะเวลาหนึ่ง เพื่อปรับปรุงและวางแผนกลยุทธ์ใหม่ จึงขอเลิกจ้างพนักงานทุกท่าน ตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.2563 เป็นคันไป

cvbnbvkcjkljlk
ภาพจาก bit.ly/2PHcvkK

บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ออกมาระบุว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบิน ทำให้มีปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารลดลง ฝ่ายบริหารจึงได้ร่วมกันกำหนดแผนการรับมือกับภาวะวิกฤตดังกล่าว โดยได้วิเคราะห์ผลกระทบในทุกสถานการณ์อย่างรอบคอบ ตั้งแต่ผลกระทบระดับน้อยจนถึงมากที่สุด

สำหรับแนวทางการรับมือผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะเริ่มจากการปรับลดค่าใช้จ่ายหลักๆ ที่เกิดจากการปฏิบัติการบิน พร้อมทั้งปรับลดและชะลอการลงทุนที่ไม่จำเป็น การปรับลดแรงงานให้สอดคล้องกับปริมาณงาน เป็นต้น ซึ่งมาตรการเหล่านี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการไปแล้ว

นอกจากนี้ เพื่อเป็นการแสดงความเสียสละของผู้บริหารระดับกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และผู้อำนวยการใหญ่ ได้สมัครใจปรับลดเงินเดือนลง 15-25% และปรับลดค่าพาหนะลง 20-30% เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมนี้ เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้บริษัทฯยังไม่มีมาตรการใดๆ ที่ส่งผลกระทบต่อพนักงาน

คุณผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน

ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

vbnbgvbvf

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ www.thaifranchisecenter.com/document

รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงข้อมูล

 

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/2TY1FrT

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต