แฮนด์ออนอาร์ต ธุรกิจแห่งศิลปะสร้างสรรค์ทั้งกำไร และความรู้

ยุคนี้ผู้ปกครองต่างมุ่งหวังที่จะพัฒนาบุตรหลานตัวเองให้มีความรู้ความสามารถ ดังนั้นเราจึงเห็นวิธีการหาความรู้แบบต่างๆ ทั้งให้ศึกษาจากอินเทอร์เนตและการส่งเข้าศึกษาเพิ่มเติมในสถาบันกวดวิชาต่างๆ อย่างไรก็ตามการพัฒนาในทิศทางดังกล่าวคล้ายกับจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้เด็กเพียงด้านเดียวในทางกลับกันเด็กๆอาจต้องเผชิญกับความกดดันและสะสมความรู้สึกนั้นไว้กับตัวเองแบบไม่รู้ตัว

แฮนด์ออนอาร์ต

เพื่อเป็นการพัฒนาเด็กยุคนี้ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพทั้งร่างกายและจิตใจ www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าศาสตร์แห่งศิลปะเท่านั้นที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ซึ่งแฟรนไชส์ แฮนด์ออนอาร์ต ที่ก่อตั้งธุรกิจนี้มาตั้งแต่ปี 2546 จนถึงตอนนี้กว่า 15 ปี

แฮนด์ออนอาร์ต

ได้ชื่อว่าเป็นสุดยอดแฟรนไชส์ที่มุ่งมั่นและพัฒนาเนื้อหาด้านศิลปะมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้สมบูรณ์ในตัวเองทั้งร่างกายและจิตใจ แฟรนไชส์แฮนด์ออนอาร์ตจึงเป็นการลงทุนที่น่าสนใจซึ่งมีประโยชน์ในการพัฒนาคนให้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไปได้อย่างดี

ศิลปะคือพื้นฐานสำคัญที่แท้จริงในการพัฒนาความรู้

แฮนด์ออนอาร์ตไม่ใช่โรงเรียนสอนศิลปะ แต่เป็นสถาบันที่ฝึกฝนเด็กให้มีคุณภาพทั้งร่างกายและจิตใจ ผ่านการใช้ศิลปะ ที่มีครูผู้สอนเป็นไกด์ให้ความรู้แบบ Facilitator ซึ่งนักวิชาการเองต่างก็ยอมรับว่าศิลปะมีบทบาทยิ่งในการพัฒนาคนให้มีประสิทธิภาพโดยประโยชน์ของศิลปะมีดังนี้

  1. เสริมสร้างพัฒนาการเด็กได้อย่างแนบเนียน เพราะศิลปะต้องใช้สมอง สายตา และทักษะของมือ ถือเป็นการใช้ทักษะทุกอย่างได้เท่าเทียมยิ่งเด็กฝึกศิลปะมากจะยิ่งส่งเสริมไหวพริบเชาว์ปัญญาความคิดก็จะดียิ่งขึ้น
  2. ศิลปะช่วยเสริมความคิดสร้างสรรค์ โดยพบว่าหากฝึก จินตนาการอย่างสร้างสรรค์เพียงวันละ 3 – 5 นาทีทุกวัน จะช่วยลดพฤติกรรมก้าวร้าวในตัวเด็กและทำให้เด็กมี สมาธิในการเรียนดีขึ้น
  3. ศิลปะเป็นสิ่งที่ช่วยระบายอารมณ์ที่ซ่อนเร้น ทำให้เด็กได้ปลดปล่อยความคิดที่ซ่อนอยู่ในตัวเองลดความกดดันภายในจิตใจทำให้มีวุฒิภาวะทางสังคมที่ดีขึ้น
  4. ศิลปะช่วยให้เด็กรู้จักการสังเกต และรู้จักลองผิดลองถูกอย่างเป็นระบบ ช่วยจัดลำดับความคิดในตัวเองให้ดีขึ้นได้

แฮนด์ออนอาร์ต แฟรนไชส์ศิลปะรางวัลมาตรฐานการพัฒนาบุคลากร

การันตีความเป็นสุดยอดแฟรนไชส์ของแฮนด์ออนอาร์ตด้วยรางวัล Thailand Franchise Standard 2017” จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ โดยเป็นแฟรนไชส์ศิลปะแห่งเดียวที่ได้รางวัลดีเด่นด้านมาตรฐานการพัฒนาบุคลากร

ซึ่งรูปแบบการสอนของแฮนด์ออนอาร์ตนั้นเริ่มเรียนได้ตั้งแต่ 3 ขวบ ซึ่งก่อนที่จะเลือกเรียนคอร์สใด ก็ตามครูผู้สอนจะเป็นผู้ประเมินศักยภาพเบื้องต้นของเด็ก เพื่อให้การพัฒนาศักยภาพผ่านศิลปะนั้นเป็นไปได้อย่างเห็นผล

โดยแต่ละคอร์สจะเรียน 12 ครั้ง ครั้งละ 1 ชั่วโมง โดยแฮนด์ออนอาร์ตมีเป้าหมายชัดเจนว่าหลังจบคอร์สแล้วผู้เรียนต้องเกิดสมาธิที่มากขึ้น มีความสมดุลของร่างกายและจิตใจมากขึ้น พร้อมรับกับความรู้ด้านวิชาการใหม่ๆได้เป็นอย่างดี แฮนด์ออนอาร์ตจึงไม่ได้สอนศิลปะเพื่อให้เด็กปันวาดระบายสีให้สวยงามสมจริงและสมใจผู้ใหญ่แต่ต้องการพัฒนาความพร้อมกายและใจให้เด็กก้าวเดินอย่างมั่นใจไปสู่การเรียนรู้ในโลกกว้าง

5 เหตุผลแฟรนไชส์ศิลปะต้อง “แฮนด์ออนอาร์ตเท่านั้น”

  1. คุ้มค่า โดยมีการสอนทั้งการปั้น การวาด การประดิษฐ์ ไม่ว่าเด็กมีความต้องการเรียนแบบไหนอย่างไรก็มีให้เลือก
  2. ลงทุนไม่แพง หลายคนมองว่าเป็นแฟรนไชส์การศึกษาราคาต้องแพงแต่แฮนด์ออนอาร์ต นั้นมีราคาการลงทุนที่สมเหตุผล และเน้นให้ผู้ลงทุนเติบโตไปพร้อมๆกับแฟรนไชส์ได้
  3. ดีต่อผู้เรียนแท้จริง โดยแฮนด์ออนอาร์ตเน้นให้ผู้เรียนมีความสุขและสนุกกับศิลปะ ไม่เน้นให้เด็กกดดัน เครียด เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจอย่างแท้จริง
  4. มาตรฐานไว้ใจได้ โดยครูผู้สอนทุกคนจะต้องจบสาขาด้านศิลปะโดยตรง รวมทั้งผ่านการคัดเลือกจากการสแกนลายนิ้วมือบอกพรสวรรค์ด้วย Dermatoglyphics Analysis
  5. ไม่มีรายจ่ายแอบแฝง หลายคนไม่กล้าตัดสินลงทุนเพราะกลัวว่าจะมีการขายพ่วงอุปกรณ์ต่างๆ ตามมา งานนี้เบาใจได้นอกจากไม่บังคับขายอุปกรณ์ใดๆ ยังเปิดกว้างให้เปิดร่วมกับหลักสูตรอื่นๆ ได้อีกด้วย

รูปแบบการลงทุนมีเงิน 300,000 ก็เริ่มธุรกิจได้

สำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนกับแฮนด์ออนอาร์ตสุดยอดแฟรนไชส์ด้านศิลปะที่มีประโยชน์กับผู้เรียนอย่างแท้จริง งานนี้ไม่จำเป็นต้องกลุ้มใจว่าจะมีต้นทุนที่แพง ค่าแฟรนไชส์ของธุรกิจนี้เพียง 170,000 บาท (ต่อสัญญาทุก 3 ปี)

โดยแบ่งเป็นเงินค้ำประกัน (ได้รับคืนเมื่อครบสัญญา) 30,000 บาท ส่วนที่เหลือคือค่าเฟอร์นิเจอร์สำหรับการตกแต่ง เบ็ดเสร็จใช้เงินทุนเบื้องต้นประมาณ 300,000 บาท นอกจากนี้ยังไม่มีการเก็บค่ารายเดือนตลอดอายุสัญญา

และหากมีทำเลที่เหมาะสม ธุรกิจแฮนด์ออนอาร์ตคืนทุนได้ภายใน 12-18 เดือน และเป็นการลงทุนที่ยั่งยืนมีผลกำไรต่อเนื่องในระยะยาว ด้วยผู้ปกครองยุคใหม่ต่างให้ความสำคัญกับความสุขที่คู่กับความรู้ แฮนด์ออนอาร์ตจึงนับเป็นการลงทุนที่สุดยอดมาก ปัจจุบันสามารถขยายสาขาได้หลายแห่งทั่วประเทศ

ทั้งนี้ในอนาคตแฮนด์ออนอาร์ตก็ยังมุ่งหวังในการพัฒนาเนื้อหาการสอนที่ยังยึดมั่นในแนวทางของศิลปะเพราะเชื่อว่าเป็นศาสตร์ที่สำคัญอันเป็นพื้นฐานก่อนจะนำไปสู่เนื้อหาวิชาการด้านต่าง ๆ เด็กที่เก่งและมีสมดุลในร่างกายและจิตใจเท่านั้นจึงจะได้ชื่อว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จได้อย่างแท้จริง

คุณภาพผู้สอน การันตีจากรางวัล Thailand Franchise Standard 2017”
จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากระทรวงพาณิชย์ 

 

 

ต้องการลงทุนแฟรนไชส์
แฮนด์ออนอาร์ต
โทร. : 065-5046299

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3DuyVhY


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต