เปิดโผ 5 อันดับสินค้าขายดี หน้าร้อนร้อนโคตร!
ช่วงฤดูร้อนถือเป็นนาทีทองของสินค้าหลากหลายชนิดแม้ว่าปกติแล้วจะ ขายดี ก็ตามทีแต่เมื่อถึงเวลาพิเศษนี้ยอดขายมักจะได้สูงกว่าปกติจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เจ้าของธุรกิจเองก็ต้องมองเห็นโอกาสที่ว่าจึงต้องมีการใช้เทคนิคกลยุทธ์และงบประชาสัมพันธ์เพื่อหวังทำกำไรในช่วงเวลาแบบนี้
www.ThaiSMEsCenter.com จึงรวบรวมเอา 5 อันดับสินค้าขายดีมานำเสนอให้เห็นทิศทางและความน่าสนใจเพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนที่มองหาอาชีพ หรือเลือกจับกลุ่มสินค้าเพื่อวางจำหน่ายได้ถูกที่ถูกเวลาเพื่อให้มีกำไรได้มากขึ้นยิ่งกว่าเดิม
1.ไอศกรีม
นี่คือช่วงไฮซีซั่นของไอศกรีมอย่างแท้จริงฤดูร้อน 2-3 เดือนต่อจากนี้คนกลับนึกถึงไอศกรีมมากขึ้นอย่างชัดเจน ดูได้จากมูลค่าการตลาดที่ไม่ต่ำกว่า 15,000 ล้านบาท การแข่งขันเพื่อแย่งส่วนแบ่งนี้จึงมีมากขึ้นตามไปด้วยสำหรับคนที่กำลังมองหาอาชีพขายไอศกรีมในหน้าร้อนนี้จึงเรียกว่าเป็นโอกาสทองที่จะมองเห็นกำไรมากขึ้น
ซึ่งการขายถ้าเป็นไอศกรีมแบบตัก 1 ถังจะตักได้ประมาณ 130 ถ้วย ( ประมาณ 3 ลูก/ถ้วย) ต้นทุนถังละประมาณ 750 บาท เอามาจำหน่ายที่ถ้วยละ 15 บาท จะมีรายได้ 15 x 130 = 1,950 บาท
เมื่อหักต้นทุนออกไปแล้วก็ยังมีกำไรมากกว่าครึ่ง หรือถ้าจะเลือกขายเป็นไอศกรีมแท่งที่มีทั้งแบบเหมาตู้แช่หรือซื้อสินค้ามาแช่ขายเอง ราคาส่งโดยเฉลี่ยแท่งละประมาณ 7 บาท มาจำหน่ายได้ขั้นต่ำแท่งละ 10 บาท มีกำไร 3 บาท/แท่ง ก็ถือเป็นทางเลือกน่าสนใจยิ่งมีทำเลดีๆ รายได้ก็จะยิ่งดีตามไปด้วย
2.น้ำอัดลม
ภาพจาก http://goo.gl/dwRVfE
เป็นสินค้าขายดีตลอดเวลาแต่มากเป็นพิเศษในช่วงฤดูร้อน นี่คือวงการที่แบรนด์ใหญ่ใช้กลยุทธ์สู้กันตลอดเวลา และฤดูร้อนนี้ก็คาดว่าจะดุเดือนเช่นเคยเพราะมีการประเมินไว้ว่าธุรกิจนี้มีโอกาสเติบโตได้อีก 15-20% เลยทีเดียว
และใครที่สนใจอยากมีรายได้ด้วยการขายน้ำอัดลมโดยเฉพาะคนที่มีหน้าร้านจะได้เปรียบมากเพราะเท่ากับเพิ่มทางเลือกให้ตัวเองมีกำไรมากขึ้น ซึ่งการขายน้ำอัดลมทำได้ทั้งการเป็นตัวแทนของบริษัทหรือรับสินค้ามาจากร้านค้าส่งอีกที โดยปกติราคาน้ำอัดลมก็จะแตกต่างกันไปเช่น
- ประเภทขวดแก้ว(ขนาด 330 มล.- 440 มล.) ราคาขายส่งอยู่ที่ 6.6-7 บาท จำหน่ายได้ในราคา 8-10 บาท
- ประเภทขวดพลาสติก ขนาดตั้งแต่ 455 มล.–1.6 ลิตร ราคาส่งตั้งแต่ 9.17 – 20.42 บาท จำหน่ายได้ในราคา 12-25 บาท
- ประเภทกระป๋อง ตั้งแต่ 245 มล. – 325 มล. ราคาขายส่ง 8.75 – 10.25 จำหน่ายได้ในราคา 12-14 บาท
นอกจากนี้ยังอาจมีโปรโมชั่นเสริมรับลมร้อนให้ผู้สนใจสามารถเอามาใช้ร่วมกับการขายก็เป็นช่องทางเพิ่มรายได้ที่น่าสนใจอย่างยิ่งทีเดียว
3.เครื่องดื่มชาเขียว
ภาพจาก http://goo.gl/aKNkHq
นี่คือตลาดที่มีการแข่งขันรุนแรงมาก มูลค่าในตลาดมีไม่ต่ำกว่า 15,700 ล้านบาท ยิ่งมีการอัดโปรโมชั่นมากเท่าไหร่ก็ทำให้สินค้าเป็นที่ต้องการมากยิ่งขึ้นใครที่สนใจอยากเพิ่มรายได้วิธีการก็ไม่ยากและไม่ต่างจากการเอาน้ำอัดลมมาขายคือทำได้ทั้งการสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือซื้อจากร้านขายส่งมาขายต่ออีกที
ซึ่งประเภทของชาเขียวแต่ละยี่ห้อมีหลายรสชาติ แต่ราคาขายส่งโดยประมาณจะอยู่ที่ 12-13 บาท (แต่ถ้าซื้อจำนวนมากราคา/หน่วยก็อาจจะถูกลงได้อีก) การจำหน่ายอ้างอิงจากราคาที่ร้านสะดวกซื้อคือขวดละ 15-16 บาท กำไร/ขวด มี 2-3 บาท เป็นอย่างน้อย
4.น้ำแข็งไส
ภาพจาก http://goo.gl/SIsLIg
ปัจจุบันผู้ประกอบการแฟรนไชส์น้ำแข็งไสหลายแบรนด์ ต่างก็ใช้เทคนิคในการนำเสนอสินค้าให้ดูน่าสนใจโดยเฉพาะการจัดรูปแบบร้านหรือว่าเพิ่มเมนูใหม่ๆไป นี่จึงเป็นธุรกิจที่มีอนาคตสดใสดูได้จากสาขาของผู้ประกอบการแฟรนไชส์ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกๆปี
และการลงทุนในธุรกิจนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากถ้าไม่นับแบบการซื้อแฟรนไชส์อยากจะลงทุนทำเองขายเองก็ยังได้ ต้นทุนสำคัญคือเครื่องไสน้ำแข็ง ราคาประมาณ 3,000 บาท น้ำแข็งประมาณ 1,000 บาท ของหวานประมาณ 1,000 บาท ถ้วยสำหรับใส่ประมาณ 500 บาท เป็นทุนรวมประมาณ ของที่ซื้อมานี้จะทำเป็นน้ำแข็งไสได้ประมาณ 150-200 ถ้วย
ถ้าขายถ้วยละ 20 บาทจะมีรายได้ประมาณ 4,000 บาท ตัดต้นทุนแล้วครั้งแรกอาจจะยังไม่มีกำไรแต่ครั้งต่อไปไม่ต้องลงทุนเครื่องไสน้ำแข็งคราวนี้ก็ทำกำไรคืนทุนไวไม่เกิน 3 วันแน่นอน
5.น้ำผลไม้
ภาพจาก https://goo.gl/CtzTI9
ตลาดของน้ำผลไม้แม้จะมีผลกระทบจากเครื่องดื่มประเภทอื่นแต่ในฤดูร้อนเช่นนี้จะกลับมาร้อนแรงได้ทุกครั้ง ดูได้จากการเปิดตัวเจ้าของธุรกิจรายใหม่หลายรายที่พร้อมทุ่มงบการประชาสัมพันธ์เพื่อแย่งส่วนแบ่งการตลาดที่มีมูลค่าประมาณ 12,000 ล้านบาท ซึ่งโดยรวมถือว่ามีอนาคตสดใสและใครที่อยากลงทุนก็ไม่ใช่เรื่องยากมากนัก
อุปกรณ์การเปิดร้านน้ำผลไม้โดยทั่วไปถ้าไม่นับรวมแบบเป็นแฟรนไชส์ ต้นทุนสำคัญก็เป็นเครื่องคั้นน้ำผลไม้ถ้าเลือกเอาแบบทำธุรกิจก็น่าจะมีราคาเกินกว่าหลักหมื่น ที่เหลือคือต้นทุนน้ำหวานขวดละประมาณ 65 บาท อาจเพิ่มเติมท็อปปิ้งอื่นๆเช่น มะนาวสด นมข้น นมสด ฯ
รวมถึงอุปกรณ์ผสมอย่างกระบอกเชคราคาประมาณ 500-600 บาท และแก้วในรูปทรงสวยงามราคาไม่เกินใบละ 20 บาท การกำหนดราคาขายก็ตามแต่ความยากง่ายของเมนูอย่างน้อยก็เริ่มที่ 25 บาท การคืนทุนนั้นใช้เวลามากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับทำเลเป็นสำคัญด้วย
นี่คือ 5 อันดับแรกของสินค้าขายดีในฤดูร้อนที่เราเลือกมานำเสนอในตอนที่ 1 ใน ตอนต่อไปมาพบกับอีก 5 สินค้าที่ขายได้และขายดีไม่แพ้ 5 อันดับนี้เช่นกัน
แหล่งข้อมูลบทความจาก https://bit.ly/34Q22IC