อยากรวยเชิญทางนี้! เจ วอช ซิสเท็ม จัดให้! เปิดคาร์แคร์รวยได้ทุกคน

สวัสดีปีใหม่ 2564! เชื่อว่าปีนี้หลายคนกำลังมองหาโอกาสและช่องทางในการลงทุน โดยปีนี้คาดว่าธุรกิจสายบริการจะได้รับความนิยม โดยเฉพาะบรรดาคาร์แคร์ต่างๆที่คาดว่าจะมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นจากปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้น

ข้อมูลของกรมการขนส่งทางบกในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2562 พบว่า มีการจดทะเบียนรถใหม่ป้ายแดงรวมทั้งสิ้น1,615,524 คัน ไม่นับรวมกับบรรดารถยนต์ที่มีบนท้องถนนอยู่แล้ว ซึ่งตัวเลขนี้ยืนยันได้ว่ากลุ่มลูกค้า “คาร์แคร์” มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เจ วอช ซิสเท็ม

www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าการลงทุนในธุรกิจดังกล่าว “กำไรชัดเจน” เพียงแต่คนลงทุนต้องเลือกรูปแบบการลงทุนให้เหมาะสม ยุคนี้เป็นยุคที่ลูกค้าต้องการประหยัดทั้งเงินและเวลา การเปิดร้านคาร์แคร์ยุคไหนต้องตอบโจทย์ ด้วยการล้างรถที่รวดเร็ว ทันใจ ราคาไม่แพง

โดย เจ วอช ซิสเท็ม ถือเป็นแฟรนไชส์ที่โดดเด่นในเรื่องนี้ มีประสบการณ์ในธุรกิจมานานกว่า 10 ปีและมี “เครื่องล้างรถอัตโนมัติ” ที่เต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพ เราลองมาดูกันว่า “ลงทุนกับเจ วอช ซิสเท็ม” แล้วดียังไง ทำไมเราถึงกล้ายกให้เป็น “สุดยอดแฟรนไชส์” ให้ทุกคนเลือกลงทุนในปี 2564 นี้

เจวอช ซิสเท็ม ผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้าอุตสาหกรรมระดับประเทศ

เจ วอช ซิสเท็ม

เจวอช ซิสเท็ม ธุรกิจในการดูแลของกลุ่มบริษัท ทีเอ็น กรุ๊ป ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมปั๊มน้ำ มอเตอร์ พัดลมอุตสาหกรรม เป็นธุรกิจที่เปิดดำเนินงานมานานกว่า 50 ปี และมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ จนเป็นที่สนใจของนักธุรกิจจากญี่ปุ่นที่ได้ติดต่อทำสัญญาร่วมกันเป็นพาร์ทเนอร์ในการนำเข้าเทคโนโลยีเครื่องล้างรถมาสู่เมืองไทยภายใต้ชื่อธุรกิจว่า เจ วอช ซิสเต็ม ซึ่งปัญหาแต่เดิมของการนำเข้าเทคโนโลยีเหล่านี้จากต่างประเทศนั้นค่อนข้างมีข้อจำกัดหลายอย่าง

วิธีการที่ดีที่สุดคือการใช้ Know how ของทางญี่ปุ่นมาผลิตเทคโนโลยีเหล่านี้ในเมืองไทย จึงทำให้ เจวอช ซิสเท็ม มีข้อได้เปรียบอันเป็นจุดเด่นสำคัญมาก คือการเรียนรู้ระบบการทำงานของเครื่องล้างรถในทุกจุด ทำให้สามารถดูแลและให้บริการหลังการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นบริษัทเพียงรายเดียวที่มีฐานการผลิตในประเทศ ให้ความมั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพสินค้า และการบริการหลังการขายได้เป็นอย่างดี

ทำธุรกิจคาร์แคร์ด้วย “เครื่องล้างรถอัตโนมัติ” ของเจ วอช ซิสเท็ม ดียังไง!

การเริ่มต้นธุรกิจคาร์แคในยุคใหม่นี้หากจะให้ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้ามากขึ้นก็ต้องคำนึงถึงเรื่องคุณภาพในการล้าง เวลาการล้าง รวมถึงเรื่องต้นทุนของผู้ประกอบการที่ไม่ควรบานปลายจนเกินไปด้วยเหตุนี้เราจึงมี 7 ข้อน่าสนใจที่บอกว่าใครอยากมีธุรกิจคาร์แคร์ ใช้ เจวอช ซิสเท็ม แล้วดีมีกำไรง่ายขึ้น

1. ประหยัดเวลาในการให้บริการกับลูกค้า สามารถรับลูกค้าได้มากขึ้น

ตัวเครื่องล้างรถอัตโนมัติของเจวอชซิสเต็มใช้เวลาในการล้างรถต่อคันประมาณ 3 นาทีครึ่ง โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ที่ลูกค้าใช้บริการเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่การล้างรถด้วยคนสัก 30 คัน/วัน ต้องใช้แรงงานประมาณ 8-9 คน แต่ถ้ามีเครื่องล้างรถนี้จะใช้เวลาน้อยลง เช่นศูนย์คาร์แคร์ของเจวอช ซิสเท็มบางแห่งสามารถรับลูกค้าได้กว่า 100 คัน/วัน ซึ่งถือว่าดีกว่ามากและเงินรายได้ก็มากขึ้นตามจำนวนลูกค้าที่เข้าใช้บริการ

2. ลดปัญหาเรื่องแรงงาน

ปัจจุบันธุรกิจล้างรถแรงงานส่วนใหญ่ไม่ใช่คนไทย กว่าร้อยละ 95 เป็นคนต่างด้าว และตอนนี้กฎหมายก็เข้มงวดในเรื่องแรงงานต่างด้าว การทำคาร์แคร์ด้วยเครื่องล้างรถของเจวอช ใช้คนเพียงแค่ 1 คนในการควบคุมเครื่องเท่านั้น

3. ลดการใช้ทรัพยาการในการล้างรถ

ขั้นตอนสำคัญที่สุดในการล้างรถคือการทำให้รถเปียกกลับมาแห้งสะอาด ดังนั้นกระบวนการนี้แต่เดิมก็ต้องมีการใช้ทั้งแรงงาน อุปกรณ์ต่างๆ เช่นผ้า เครื่องเป่าลม เป็นต้น ซึ่งถือว่าตรงนี้สิ้นเปลืองมากทั้งค่าไฟ ค่าน้ำ การใช้เครื่องล้างรถอัตโนมัติของเจวอช จึงเป็นทางออกที่ง่ายและดีที่สุด

4. มีมาตรฐานในการล้างรถที่ชัดเจนมากขึ้น

การล้างด้วยเครื่องอัตโนมัตินั้นผลงานการล้างจะออกมาเป็นมาตรฐาน เท่าเทียมและเหมือนกันทุกคัน ต่างจากการล้างด้วยคนที่บางครั้งสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง หรือหลงลืมในบางจุด เกิดปัญหาความไม่พอใจ หรือข้อร้องเรียนของลูกค้าได้บ่อยครั้งเช่นกัน

5. เครื่องของ J-WASH มีการพัฒนาโปรแกรมให้ทันสมัยต่อเนื่อง

เจวอช ซิสเต็ม มีการพัฒนาโปรแกรมเครื่องล้างรถอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น โปรแกรมการล้างที่นอกเหนือจากการล้างด้วยชมพู และ Wax ขณะนี้เครื่องล้างรถของเจวอช ยังเพิ่มโปรแกรมการเคลือบแก้วในตัวได้อีกด้วย การใช้งานก็แสนสะดวก เพียงเลือกโปรแกรมการล้าง แล้วกดสตาร์ท เครื่องจะเริ่มการทำงานแบบอัตโนมัติไปจนถึงการเป่าแห้ง ด้วยเซนเซอร์ที่มีมากกว่า 500 จุด สามารถแยกประเภทของรถได้โดยอัตโนมัติ และล้างรถได้ตามรูปทรงของตัวรถที่แตกต่างกัน รวมถึงการเก็บจำนวนการใช้งาน รายโปรแกรม รายวันและรายเดือน เพื่อป้องกันการทุจริตของพนักงานได้อีกด้วย ซึ่งแตกต่างจากเครื่องล้างรถอัตโนมัติยี่ห้ออื่น ๆ ที่มีในปัจจุบัน

6. ใช้พื้นที่ติดตั้งน้อย

ตัวเครื่องล้างรถอัตโนมัติของ เจ วอช ซิสเท็ม ใช้พื้นที่ในการติดตั้งประมาณ 60 ตร.ม. น้ำหนักของเครื่องประมาณ 1,700 กิโลกรัม ใช้พื้นที่ในการเปิดคาร์แคร์ เพียง 180 – 250 ตรม. ใช้เงินลงทุนเบื้องต้น 3,000,000 – 3,500,000 บาท ใช้เงินทุนหมุนเวียนประมาณ 50,000 บาท/เดือน ถ้าเทียบกับการลงทุนเปิดร้านคาร์แคร์ทั่วไปถือว่าเป็นต้นทุนที่ถูกและคุ้มค่าอย่างมาก

7. สามารถคืนทุนได้ภายใน 1-2 ปี (ขึ้นอยู่กับทำเลเป็นสำคัญ)

ปัจจุบันเจวอชซิสเท็มมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีสาขาถึงตอนนี้กว่า 50 แห่ง เจาะพื้นที่ตามความต้องการของลูกค้า ซึ่งทุกสาขาได้รับความนิยมและมีคนสนใจใช้บริการจำนวนมาก โดยสาขาของเจวอชซิสเท็มเหล่านี้ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาด้านการตลาดร่วมกันเป็นอย่างดี มีการพัฒนาโปรแกรมล้างรถรูปแบบใหม่อย่างต่อเนื่อง ให้เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยตลอดเวลา สร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าได้มาก เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่ผู้ลงทุนสามารถมีกำไรได้ภายใน 1-2 ปีหรือเร็วกว่านั้นขึ้นอยู่กับทำเลเป็นสำคัญ

8 ขั้นตอนเริ่มต้นลงทุนกับ เจ วอช ซิสเท็ม

เจ วอช ซิสเท็ม

สำหรับผู้ที่สนใจอยากมีธุรกิจคาร์แคร์เป็นของตัวเอง และต้องการลงทุนกับแฟรนไชส์ที่เป็นมืออาชีพ สามารถเลือกลงทุนกับเจ วอช ซิสเท็มได้โดยมี 8 ขั้นตอนดังนี้

  1. รับเอกสารข้อมูลทางธุรกิจ เพื่อจะได้ศึกษาแนวทางการทำธุรกิจที่ชัดเจนยิ่งขึ้น

  2. ตรวจสอบความพร้อมในการลงทุน โดยใช้เงินลงทุนเบื้องต้น 3,000,000 -3,500,000 บาท และต้องเป็นคนที่มีใจรักในงานบริการ นอกจากนี้ควรมีเงินทุนหมุนเวียนในกิจการประมาณ 50,000บาท/เดือน

  3. ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับ Business Model โดยทางแฟรนไชส์จะไขข้อสงสัยให้คนสนใจร่วมลงทุนได้รับคำตอบที่ถูกต้องชัดเจน

  4. ตรวจสอบ Location ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพราะเจ วอช ซิสเท็ม ต้องการให้ผู้ลงทุนทุกคนมีกำไรจากการลงทุนนี้

  5. เซ็นต์สัญญาแฟรนไชส์และชำระค่าธรรมเนียม โดยแบ่งชำระเป็น 3 ช่วง เริ่มจากวันเซ็นสัญญา 50% และในวันติดตั้งเครื่องอีก 40% ส่วนที่เหลือ 10 % กำหนดจ่ายใน 1 เดือนหลังเปิดดำเนินกิจการ

  6. เตรียมการก่อสร้างและตกแต่งพื้นที่ งบลงทุนในส่วนอาคารและสิ่งปลูกสร้างขนาดเริ่มต้น 200 ตร.ม. ประมาณ 1,000,000 – 1,500,000 บาท

  7. เข้าร่วมการฝึกอบรม Training Program เช่น การฝึกอบรมการใช้งานเครื่องล้างรถ , การฝึกอบรมระดับผู้จัดการ เป็นเวลา 3 วัน ทั้งภาคทฤษฏีและปฏิบัติ , การฝึกอบรมระดับปฏิบัติการ เป็นเวลา 3 วัน , 0n-site Training เป็นเวลา 7 วันเพื่อช่วยจัดระบบการทำงานและเป็นพี่เลี้ยงดูแลอย่างใกล้ชิด

  8. เปิดดำเนินการเริ่มสัญญาแฟรนไชส์ หลังเริ่มกิจการทางแฟรนไชส์ยังสนับสนุนเรื่องการตลาด , การส่งเสริมการขาย รวมถึงมีทีมงานคอยให้คำปรึกษาตลอดอายุสัญญา

“เจ วอช ซิสเท็ม” ธุรกิจกำไรดี! ลูกค้ามีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ธุรกิจคาร์แคร์เป็นสุดยอดการลงทุนที่ “มีกำไรชัดเจน” จากปริมาณรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นทุกวัน สิ่งสำคัญคือ “บริการ” ที่ดี และ “ทำเล” ที่เจาะกลุ่มลูกค้าได้ โดย เจ วอช ซิสเท็มคำนวณระยะเวลาคืนทุนที่ประมาณ 1.5 – 2 ปีจะสามารถคืนทุนได้ทั้งส่วนของราคาเครื่อง

และตัวอาคาร พร้อมกันนี้ธุรกิจคาร์แคร์ยังเป็นตลาดที่ลูกค้ามีความต้องการสูงมาก โดยเฉพาะในรัศมี 3 กิโลเมตร จากแหล่งที่พักอาศัย หากเราสามารถเริ่มต้นธุรกิจนี้ได้ย่อมเป็นช่องทางสร้างรายได้ชนิดที่เรียกว่าดีเกินคาด

การันตีจากสาขาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบันรวมกว่า 50 สาขา ส่วนใหญ่อยู่ในสถานีบริการน้ำมัน ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของรถยนต์จำนวนมาก และอีกหลายสาขาเปิดในทำเลแหล่งชุมชน

การลงทุนกับ เจ วอช ซิสเท็ม ถือว่ามีต้นทุนในการทำธุรกิจน้อยมาก เพราะไม่จำเป็นต้องเสียค่าจ้างพนักงานเป็นจำนวนมาก ใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อย และการที่ล้างรถได้สะอาดรวดเร็วเพียง 3 นาทีครึ่ง/คัน ก็ทำให้รับลูกค้าต่อวันได้มากขึ้น โอกาสในการสร้างรายได้ก็มีมากขึ้น ที่สำคัญเป็นการล้างรถที่ถูกใจลูกค้าเพราะสะดวกรวดเร็วสมกับเป็นธุรกิจในยุคใหม่

นอกจากนี้ทางเจ วอช ซิสเท็มยังเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์พร้อมดำเนินการธุรกิจได้ทันที โดยมีบริการการเช่าซื้อเครื่องฯ (ลิสซิ่ง) กับทางธนาคารกสิกรไทย, เอสจี แคปิตอล (ซิงเกอร์) อีกด้วย สมกับเป็นสุดยอดแฟรนไชส์ที่เหมาะสมกับการลงทุนในปี 2564 อย่างมาก

 

สนใจลงทุนแฟรนไชส์ เจ วอช ซิสเต็ม
โทร. 02-107-0777-9, 061-417-9966, 085-252-4848

 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

กองบรรณาธิการเว็บไซต์

ยินดีสนับสนุน SMEs ไทยทุกแบรนด์ ที่ต้องการสร้างความเข้มแข็ง อยากเรียนรู้ พัฒนาธุรกิจ ส่งเสริมความเข้าใจในการตลาด มีความคิดสร้างสรรค์ แบ่งปันเพื่อสังคม ต่อยอดธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จในอนาคต