วิธีเลี้ยง “หอยทาก” สร้างรายได้หลักแสน

วิถีเกษตรมีหลายอย่างที่เรานึกไม่ถึงอย่าง “หอยทาก” ที่เมื่อก่อนเกษตรกรมองว่าเป็นศัตรูทางธรรมชาติที่เห็นเมื่อไหร่ต้องกำจัดทิ้งแต่ทุกวันนี้ “หอยทาก” กลายเป็นสัตว์ที่เลี้ยงสร้างรายได้งดงาม

หลายคนสงสัยว่าเลี้ยงหอยทาก “แล้วเอาอะไรจากหอยทากไปขาย” คำตอบคือ “เมือก” โดยกลุ่มวิจัยการตลาด Coherent Market Insights ประเมินว่า ตลาดความงามจากเมือกหอยทากทั่วโลก มีมูลค่าราว 314 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 9,700 ล้านบาท

เพราะเมือกหอยทากมีส่วนประกอบของคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งช่วยให้ “ผิวตึง ลดริ้วรอย” และ “กระตุ้นเซลล์ผิวหนัง ช่วยในการสมานแผล” ซึ่งเมือกหอยทากของไทยมีคุณภาพสูง โดยมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 80,000 บาท และหากสกัดเป็นผงบริสุทธิ์ จะมีราคามากถึงกิโลกรัมละ 1.8 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าทองคำหนัก 1 กิโลกรัม

www.ThaiSMEsCenter.com มองว่านี่คือโอกาสที่น่าสนใจของคนที่อยากลงทุนในวิถีเกษตร ที่หากเรียนรู้เพิ่มเติมสามารถสร้างรายได้ที่งดงามมาก

สายพันธุ์หอยทาก “ที่นิยมเลี้ยง”

13

ภาพจาก Freepik

หอยทากในเมืองไทยมีหลายสายพันธุ์ แต่พันธุ์ที่นิยมคือ “Achatina fulica” หรือที่เรียกกันว่า “อาข่า” สายพันธุ์นี้เข้ามาในเมืองไทยตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จากบรรดาทหารญี่ปุ่นที่เข้ามากินเป็นอาหารในกองทัพ พอสงครามสงบทหารญี่ปุ่นจากไป

แต่หอยทากพันธุ์นี้ถูกทิ้งไว้ให้อยู่ในระบบนิเวศน์ โดยหอยทาก “อาข่า” สามารถวางไข่ได้ทุกตัว (มี 2 เพศในตัวเดียวกัน) แต่ละตัววางไข่ได้ครั้งละประมาณ 1,000 ฟอง อาหารของหอยทากอาข่าคือ ใบไม้ธรรมดาทั่วไปซึ่งในเมืองไทยมีใบไม้ที่เป็นอาหารของหอยทากนี้ได้กว่า 100 ชนิด

นอกจากนี้หอยทากยังกินอาหารอื่นๆได้อีก เช่น ข้าว ผิวเปลือกไม้ พืชผักต่างๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่ในยุคหนึ่งเกษตรกรมองว่า หอยทากคือศัตรูพืชตัวฉกาจที่ประมาณการว่าสร้างความเสียหายให้ภาคการเกษตรปีละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

วิธีเลี้ยง “หอยทาก”

19

ภาพจาก bit.ly/3qbNBKb

การเลี้ยงหอยทากไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด ส่วนใหญ่ใช้สภาพแวดล้อมตามปกติ โดยมีวิธีการเลี้ยงด้วยกัน 3 แบบ คือ

  1. แบบทำกรงให้หอยทากอยู่กับดิน
  2. แบบกรงยกสูงจากพื้น
  3. แบบท่อซีเมนต์

20

ภาพจาก bit.ly/371yqMd

ซึ่งหอยทากสามารถกินพืชได้มากมายอาหารจึงหาง่าย แต่ให้เน้นเป็นพืชผักที่ไม่มีสารเคมีและยาฆ่าแมลง เกษตรกรบางรายใช้วิธีการเพาะถั่วเขียวเพื่อนำเอาต้นถั่วงอกไปเป็นอาหารหอยทาก ซ่งมีต้นทุนน้อย อย่างไรมีอาหารต้องห้ามสำหรับหอยทากเช่นกันเช่น อาหารที่มีเกลือเยอะๆ เพราะอาจทำให้หอยทากตายจากการที่เกลือดูดน้ำจากผิวหอยทากจนหมด หรืออาหารที่เปรี้ยวเกินไป อย่างมะนาว มะเขือเทศเปรี้ยวๆ หรือผลไม้ตระกูลซิตรัส ก็ส่งผลเสียต่อระบบย่อยอาหารของหอยทากได้

อย่างไรก็ดีเกษตรกรบางรายใช้วิธีรับซื้อหอยทากจากชาวบ้านควบคู่กับการเลี้ยง ซึ่งหอยทากที่รับซื้อจากชาวบ้านต้องนำมาทำความสะอาดโดยให้กินกระดาษทิชชู่ในช่วงแรกเพื่อเป็นการดีทอกซ์ภายในให้หอยทากก่อนจะนำหอยทากเข้าสู่สถานที่เลี้ยงต่อไป

การเก็บเมือกหอยทากสร้างรายได้เดือนละกว่า 30,000 บาท

11

ภาพจาก Freepik

การเก็บเมือกหอยทากจะเลือกเก็บจากหอยที่มีอายุ 2 ปีขึ้นไป โดย 1 ตัว จะสามารถเก็บเมือกได้ประมาณ 1-2 ซีซี ทั้งยังเลือกเก็บเมือกที่ถูกเรียกว่า “เมือกความสุข” ซึ่งจะถูกหลั่งออกมาในเวลากลางคืน และจะเก็บเฉพาะเมือกที่ถูกหลั่งมาจากส่วน “แมนเทิล” หรือส่วนที่เป็นเนื้อเยื่อใต้เปลือก เพราะเป็นส่วนที่ดีที่สุด เนื่องจากเป็นเมือกส่วนที่แทบจะไม่มีการปนเปื้อนใดๆ นอกจากนี้ ช่วงหน้าหนาวและหน้าฝนยังเป็นช่วงที่เก็บเมือกได้เยอะที่สุดอีกด้วย

วิธีการเก็บเมือกเริ่มจากใช้น้ำพ่นบริเวณหลังคอหอยทาก ถ้าหากหอยทากหดเข้าไปในกระดองก็พ่นน้ำเข้าไปบริเวณปากกระดอง โดยแต่ละตัวใช้เวลาประมาณ 1 นาที เป็นวิธีการเก็บเมือกหอยทากตรมมาตรฐานสากลที่ใช้ทั่วไปในยุโรป และหอยทากยังมีชีวิตอยู่ได้ จากนั้นต้องนำเมือกหอยทากที่ได้เข้าแช่แข็งในช่องฟรีชทันที

ซึ่งการเก็บเมือกต้องใส่ถุงมือ สวมหมวกและหน้ากากเพื่อให้เมือกที่ได้ไม่มีสิ่งเจือปน หอยทากที่เลี้ยงอย่างดีจะสามารถวางไข่ได้จำนวนมากและโอกาสรอดสูง โดยแต่ละครั้งหอยทากจะวางไข่ประมาณ 1,000 ฟอง และวางไข่ได้ทุกตัว ไม่นานหอยทากจะโตเต็มวัย ส่วนใหญ่เกษตรกรจะใช้วิธีรับซื้อหอยทากจากชาวบ้าน

12

ภาพจาก Freepik

โดยราคาการรับซื้อเมือกหอยทากแบ่งเป็น 3 เกรด คือ เกรดเอ ราคา 15,000 บาท ต่อลิตร เกรดบี ลดหย่อนลงมาที่ 12,000 บาท และเกรดซี 9,000-10,000 บาท เกษตรกรบางรายลงทุนทำฟาร์มหอยทากด้วยงบลงทุน 40,000 บาท มีหอยทากประมาณ 3,000 ตัว สามารถเก็บเมือกหอยทากส่งขายได้รวมกว่า 100,000 บาท

ในแต่ละเดือนหากหอยทากกินอุดมสมบูรณ์ หอยทากแต่ละตัวจะให้เมือกเฉลี่ยคิดเป็นเงินตัวละ 10 บาท ในบางเดือนที่หอยทากให้เมือกเต็มที่สร้างรายได้กว่า 30,000 บาทต่อเดือนได้เลยทีเดียว

อย่างไรก็หากสนใจเพาะเลี้ยงหอยทาก เราจำเป็นต้องไปศึกษาดูงานของเกษตรกรที่เลี้ยงอยู่ก่อนเพื่อศึกษาปัญหา วิธีการเลี้ยง สำคัญที่สุดคือ “ช่องทางการจำหน่าย” หากปัจจัยทุกอย่างครบถ้วนลงตัว การลงทุนเลี้ยงหอยทากก็นับเป็นวิถีเกษตรที่สร้างรายได้เกินคุ้ม


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล
https://bbc.in/2Mp2EBT , https://bit.ly/3txEcir , https://bit.ly/3rpH2Ed , https://bit.ly/3t0hgrG , https://bit.ly/39MOxiq , https://bit.ly/36GJzSj

 

อ้างอิงข้อมูล https://bit.ly/372z8sJ

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด