พลิกชีวิต!จากหนี้ 10ล้าน เปิดร้าน “ขายไก่ย่าง” รายได้ร้อยล้านต่อปี

คนที่จะรวย คนที่จะประสบความสำเร็จมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือไม่จมอยู่กับปัญหา ไม่โทษโชคชะตาว่าทำให้เราไม่เหมือนคนอื่น สิ่งสำคัญคือความตั้งใจ ความพยายาม แม้จะเจออุปสรรคมากมายก็จะพยายามก้าวผ่านมันไปให้ได้

www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าหนึ่งในบุคคลตัวอย่างที่เป็นต้นแบบความสำเร็จได้อย่างดี คือ คุณสุเมธ ต่อสหะกุล เจ้าของร้านพระราม 9 ไก่ย่าง ผู้ที่พลิกชีวิตจากที่เคยเป็นหนี้นับสิบล้าน ลงทุนเปิดร้านขายไก่ย่างริมทางจนวันนี้กลายเป็นตำนานร้านไก่ย่างชื่อดังที่ใครก็รู้จัก และสามารถสร้างรายกว่าร้อยล้านบาทต่อปี

เจ๊งจากธุรกิจรับเหมา! เป็นหนี้กว่าสิบล้าน!

ขายไก่ย่าง

ภาพจาก www.facebook.com/praram9kaiyang

กว่าจะมาเป็น “พระราม 9 ไก่ย่าง” เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ คุณสุเมธ แต่เดิมทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ทำบ้านจัดสรรขาย ซึ่งมีลูกน้องนับร้อยคน แต่มาเจอวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 ลูกค้าหลายคนกู้ธนาคารไม่ผ่าน บ้านที่สร้างไว้ก็ขายไม่ได้จนสุดท้ายคุณสุเมธต้องกลายเป็นหนี้กับธนาคาร ต้องขายที่ดิน ขายทรัพย์สิน เพื่อหาเงินมาชำระหนี้ เมื่อชีวิตเกิดปัญหา จึงพาครอบครัวกลับมาบ้านเกิดที่อุดรธานี เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่องานไม่มี เงินไม่มี จะเรียกว่าสิ้นเนื้อประดาตัวก็ได้

6

ภาพจาก https://bit.ly/3Ml6N3M

เมื่อกลับมาที่อุดรก็ยังไม่มีงานทำ รับจ้างนั่งเป็นหน้าม้าในร้านอาหารให้กับเพื่อนๆ แต่ยอดขายมันก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นอาจเป็นเพราะทำเลเปิดร้านไม่ดีด้วย ตัดสินใจพาเพื่อนตระเวนหาทำเลใหม่ ระหว่างนั้นแวะทานไก่ย่าง แต่รู้สึกว่าทำไมไม่อร่อยเอาซะเลย จากจุดนี้ทำให้มองเห็นโอกาสว่าทำไมเราไม่เปิดร้านขายไก่ย่าง หลังจากคิดได้ก็ไม่รอช้า ติดต่อหาวัตถุดิบคือไก่ย่างในอุดร และหาสูตรหมักไก่จากหลายที่ ผสมผสานจนได้สูตรที่ลงตัว และตัดสินใจกับครอบครัว สู้ชีวิตอีกครั้งด้วยการเปิดร้านขายไก่ย่าง

เปิดร้านวันแรก ขายไก่ได้ 17 ตัว กำไรแค่หลักร้อย

5

ภาพจาก www.facebook.com/praram9kaiyang

การเปิดร้านเริ่มแรกลือกที่จะลงทุนและขายแบบพอเพียง ใช้ประโยชน์จากทุกสิ่งที่มีอยู่ ใช้ที่ดินของเพื่อนที่เคยเป็นจุดทิ้งเศษขยะ เศษกิ่งไม้ เศษดิน เศษปูน พัฒนาให้กลายเป็นจุดขายไก่ย่าง ที่อาศัยร่มเงาของต้นไม้ใหญ่ มีโต๊ะเล็กๆ และเตาย่างไก่เพียง 2 เตา เป็นทำเลย่านปากพระรามเก้า ซ.39 ตอนนั้นป้ายชื่อร้านก็ไม่มี โต๊ะนั่งทานก็ไม่มีลูกค้าช่วงจึงต้องซื้อกลับไปทานที่บ้านอย่างเดียว

4

ภาพจาก https://bit.ly/3Ml6N3M

ในวันแรกขายไก่ย่างได้ 17 ตัวตัวละ 69 บาท รายได้1,173 บาท เหลือกำไรแค่ไม่กี่ร้อยบาท แต่ก็คิดว่ายังดีกว่าไม่มีรายได้สุดท้ายเดินหน้าลุยต่อ ยิ่งขายยิ่งสนุก ยิ่งมีแรงฮึด ขายได้ประมาณ 1 เดือนสังเกตว่าเริ่มมีลูกค้ามากขึ้น จาก 17 ตัวในวันแรก ค่อยๆ เพิ่มเป็น 20 ตัว 50 ตัว บางวันขายได้หลัก 100 ตัวก็มี ซึ่งนอกจากความอร่อย ทำเลที่เปิดร้านก็มีส่วนสำคัญมากแม้จะเป็นร้านเล็กๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น แต่จุดนี้คือปากซอย คนเห็นง่าย รถที่ผ่านเข้าออกเมื่อเห็นมีคนมุง มีคนซื้อของ ก็เริ่มสนใจ ก็ทำให้มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย

จากร้านริมทางสู่ “พระราม 9 ไก่ย่าง” รายได้กว่าร้อยล้านต่อปี

3

ภาพจาก www.facebook.com/praram9kaiyang

เมื่อลูกค้าเริ่มมากขึ้นก็เริ่มมีความต้องการอยากได้เมนูที่หลากหลาย ทำให้คุณสุเมธต้องไปศึกษาการทำเมนูอื่นๆ เพิ่มเติม เมื่อมีเมนูมากขึ้นลูกค้าก็เริ่มมากขึ้น ทำให้ต้องขยายร้านตามไปด้วย สุดท้ายก็ได้เปิดร้าน “พระราม 9 ไก่ย่าง” อย่างเป็นทางการ โดยชื่อนี้ก็มาจากลูกค้าประจำที่ช่วยกันตั้งให้ และเห็นว่าชื่อนี้เป็นศิริมงคลดี จึงใช้ชื่อนี้มาโดยตลอด โดยสาขาแรกก็อยู่ที่เดิมคือถนนพระราม 9 ซ.39 ปัจจุบันอยู่บนเนื้อที่ราว 2 ไร่เศษ รับลูกค้าได้กว่า 600 คน นอกจากนี้เมื่อธุรกิจมีการเติบโตเป็นลำดับจึงได้มีการพัฒนารูปแบบร้าน และขยายสาขาเพิ่มขึ้นถึงตอนนี้รวมกว่า 6 สาขา

2

ภาพจาก https://bit.ly/3Ml6N3M

รายได้ของ “พระราม 9 ไก่ย่าง” ก็พัฒนาขึ้นมาเป็นลำดับจากหลักสิบล้านพัฒนาสูงสุดแตะกว่าร้อยล้านต่อปี แม้ในสถานการณ์โควิดระบาดก็มีการปรับแผนในการขาย และมีการขยายสาขาในช่วงที่ผ่านมาได้อีกด้วย พร้อมกันนี้ก็ยังมีการพัฒนาเมนูใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ชื่อร้านพระราม 9 ไก่ย่าง กลายเป็นตำนานร้านไก่ย่างชื่อดังที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก

คีย์เวิร์ดความสำเร็จ “พระราม 9 ไก่ย่าง”

1

ภาพจาก www.facebook.com/praram9kaiyang

สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนเกี่ยวกับความสำเร็จของ ร้านพระราม 9 ไก่ย่าง ไม่มีคำว่า “โชคช่วย” มีแต่ความตั้งใจและพยายามเป็นสำคัญ โดยมีเคล็ดลับที่แนะนำให้คนอยากประสบความสำเร็จทำตามคือ

  1. ไม่ท้อแท้กับปัญหา >> ไม่ว่าจะเจอกับปัญหาหนักแค่ไหน อย่ายอมแท้ จงลุกขึ้นสู้
  2. ไม่มีคำว่าสายเกินไป >> สิ่งที่เราเคยพลาดต้องมองให้เป็นบทเรียนไม่มีคำว่าสายเกินไปถ้าใจเราสู้
  3. คิดแล้วลงมือทำทันที >> ถ้าเรามั่นใจว่าสิ่งที่เราคิดจะทำ นั้นดีต่อให้เราไม่มีเงินทุน ก็ต้องหาวิธีเริ่มให้ได้ อย่าเอาแต่คิด
  4. เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส >> ในการเริ่มต้นอาจไม่มีอะไรง่าย แต่เราต้องเปลี่ยนจุดด้อยให้เป็นจุดเด่นให้ได้
  5. ลูกค้าคือพระเจ้า >> การค้าขายที่ดีต้องให้ความสำคัญกับลูกค้า เพราะเขาคือคนที่จะทำให้ธุรกิจเราอยู่รอด
  6. ใส่ใจคุณภาพและบริการ >> มาตรฐานสินค้าและบริการคือสิ่งที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจได้
  7. ใส่ใจลูกน้องและทีมงาน >> ธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จได้ไม่อาจเกิดบุคคลเดียว ดังนั้นต้องใส่ใจกับพนักงานและทีมงานด้วย

ถือเป็นอีกหนึ่งธุรกิจตัวอย่างที่ไม่เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบและกว่าจะมีวันนี้ผ่านอุปสรรคและปัญหามากมาย ในยุคที่เศรษฐกิจไม่เติบโตนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่สามารถเริ่มต้นอะไรใหม่ๆได้ ทุกอย่างอยู่ที่แนวคิดและวิธีปฏิบัติ รู้จักพลิกแพลงตามสถานการณ์ อาจเป็นการเริ่มต้นที่ยากลำบาก แต่ถ้ามุ่งมั่นตั้งใจจริง โอกาสประสบความสำเร็จก็มีมากเช่นกัน


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3pqYtWi , https://bit.ly/3KadHah , https://bit.ly/3vshCuE

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3txL1kB

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด