ธุรกิจแฟรนไชส์ …โตแบบบอนไซ

การเติบโตของ ธุรกิจแฟรนไชส์ ในปัจจุบัน มีการขยายสาขาแฟรนไชส์เข้าไปในทุกทำเลพื้นที่ ไม่ว่าจะในห้างสรรพสินค้า หรือนอกห้าง รวมถึงถนน ริมถนน ตรอก ซอก ซอย ใต้ถุนตึก อาคาร ตลาดนัด ฯลฯ ถือเป็นการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป แทรกซึมเข้าไปในตลาดและทำเลที่ตั้งส่วนต่างๆ ซึ่งการเติบโตลักษณะแบบนี้ ถือเป็นกลยุทธ์ “บอนไซ”

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะนำเสนอกลยุทธ์การเติบโตแบบ “บอนไซ” กับการดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ ว่าทำไมกลยุทธ์แบบนี้ จึงใช้ได้ดีกับธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ในปัจจุบันครับ

บอนไซ…โตแบบแทรกซึม ใช้เงินลงทุนต่ำ

ธุรกิจแฟรนไชส์

การเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์ในลักษณะค่อยๆ เข้าไปแทรกซึมในทำเลที่ตั้งส่วนต่างๆ จะไม่ใช่การรุกเข้าไปเปิดสาขาใหญ่โตในแต่ละพื้นที่ แต่มักเข้าไปเปิดร้านที่มีเนื้อที่ไม่มากนัก

ใช้พนักงานจำนวนไม่มาก สิ่งอำนวยความสะดวกมีจำกัดเท่าที่จำเป็นต่อการให้บริการลูกค้า โดยอาจเป็นลักษณะของ “คีออส” หรือ “เคาน์เตอร์” หรือร้านขนาดย่อส่วนจากร้านเดิม ซึ่งเราจะเรียกการเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์ในลักษณะแบบนี้ว่า “การเติบโตแบบบอนไซ”

ตัวอย่างธุรกิจที่เติบโตอย่างได้ผล เช่น เทสโก้ ยักษ์ค้าปลีกข้ามชาติจากอังกฤษ ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกขนาดใหญ่แบบซูเปอร์เซ็นเตอร์ มีเนื้อที่ใหญ่โต สินค้าหลากหลายมากมาย แต่การที่จะเติบโตเข้าในทุกตลาด ทุกท้องถิ่น แทบจะเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากที่ต่างประเทศรวมถึงเมืองไทย ได้มีกฎระเบียบเรื่องการแบ่งพื้นที่ หรือกฎหมายโซนนิ่ง

a1

ตรงนี้จะทำให้ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ ไม่สามารถเปิดร้านอยู่ในชุมชนชั้นในได้ ถ้าต้องการขยายกิจการ ขยายสาขา รุกเข้ามาในเขตพื้นที่ดังกล่าว ก็จะต้องย่อขนาดให้เล็กลง

เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายที่กำหนดไว้ ค้าปลีกอย่างเทสโก่โลตัส จึงหันมาเปิดร้านค้าขนาดเล็ก นั่นคือ Tesco Metro ที่บุกเข้ามาในตลาดของซูเปอร์มาร์เก็ต ขณะที่ Tesco Express รุกตลาดของร้านค้าสะดวกซื้อ โดยสามารถแทรกซึมเข้าไปในพื้นที่ขนาดเล็กได้

อีกทั้งยังลดต้นทุนได้มาก จุดคุ้มทุนก็ต่ำตามไปด้วย และยังเข้าถึงส่วนแบ่งการตลาดที่เคยถูกยึดครองจากร้านค้าท้องถิ่นที่มีอยู่เดิม นับเป็นกลยุทธ์การขยายตลาดที่ได้ผลดีอีกทางหนึ่ง โดยไม่ต้องไปชนกับยักษ์ใหญ่ธุรกิจเดียวกัน

v22

ปัจจุบันธุรกิจแฟรนไชส์หลายๆ แบรนด์ในประเทศไทย ก็นิยมหันมาใช้กลยุทธ์การเติบโตและขยายสาขาแบบ “บอนไซ” แทรกซึมเข้าไปในทุกพื้นที่ในรูปแบบ “คีออส” และ “เคาน์เตอร์”

เพราะสามารถลดต้นทุนการดำเนินกิจการได้มาก โดยเฉพาะในเรื่องของค่าใช้จ่ายในการออกแบบตกแต่งร้าน จะทำให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์รูปแบบคีออสเสียเงินไม่มากนัก ใช้พื้นที่น้อย เก็บและเคลื่อนย้ายได้สะดวก รวดเร็ว เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น

v23

ธุรกิจแฟรนไชส์ที่เติบโตในลักษณะ “บอนไซ” ใช้คีออส ส่วนมากจะเป็นแฟรนไชส์กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เพราะเป็นกลุ่มแฟรนไชส์ที่ใช้เงินลงทุนไม่สูงมากนัก

อีกทั้งสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้ง่าย ตามชุมชน และพื้นที่คนพลุกพล่าน เช่น ธุรกิจแฟรนไชส์เครื่องดื่มตระกูลชา กาแฟ ลูกชิ้น ไส้กรอก ไก่ปิ้ง ไก่ทอด ขนมปัง เบเกอรี่ ซาลาเปา

24

เห็นแล้วว่า กลยุทธ์การเติบโตของธุรกิจแฟรนไชส์แบบ “บอนไซ” ส่วนใหญ่จะนิยมใช้กับแฟรนไชส์กลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม และเบเกอรี่ เพราะเป็นแฟรนไชส์ที่ใช้เงินลงทุนไม่สูงมากเท่ากับแฟรนไชส์อื่นๆ ที่ต้องใช้พื้นที่ขนาดใหญ่ ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์กลุ่มเหล่านี้ สามารถใช้กลยุทธ์ขยายสาขาด้วยคีออส หรือการเติบโตแบบบอนไซได้

อ่านบทความแฟรนไชส์อื่นๆ goo.gl/Ql4rT1
สนใจซื้อแฟรนไชส์ goo.gl/tpLNZ7


Tips

  1. แฟรนไชส์กลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม เบเกอรี่ มักใช้กลยุทธ์โตแบบบอนไซ
  2. โตแบบบอนไซ ใช้เงินลงทุนต่ำด้วย คีออส และเคาน์เตอร์
  3. เคลื่อนย้ายง่าย เข้าถึงผู้บริโภคได้ดี

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3641LFS

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช