ทุนไม่ดี! เงินไม่มี! ก็เริ่มต้น ทำธุรกิจ ที่ดีได้

เนื้อหาสาระของบทความตอนนี้เหมือนเป็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ให้กับคนที่เคยคิดว่าการลงทุน ทำธุรกิจ สักอย่างต้องเงินดี มีประสบการณ์ ที่สำคัญคือมีคนสร้างมาให้ตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ แต่สำหรับคนที่ขาดสิ่งเหล่านี้บางทีถึงกับฟันธงว่าชาตินี้คงทำธุรกิจที่ดีไม่ได้แน่ๆ

ก่อนที่จะคิดเอนเอียงกันไปใหญ่ www.ThaiSMEsCenter.com จึงขอมาหยุดความคิดเหล่านั้นไว้และบอกได้เลยว่าธุรกิจที่ดี ทุนไม่ดี เงินไม่มี คุณก็สามารถเริ่มต้นการเป็นนักธุรกิจที่ดีได้ เชื่อหรือไม่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเคยคิดว่าสำคัญกับการทำธุรกิจแท้ที่จริงไม่มีสิ่งเหล่านั้นเราก็ยังเริ่มต้นธุรกิจในฝันของเราได้อยู่ดี

โดยมุมมองของ Brian D. Evansนักธุรกิจที่เริ่มต้นเปิดบริษัทแรกของตัวเองตั้งแต่อายุ 16 และปัจจุบันเขาประสบความสำเร็จ โดยดำรงตำแหน่ง CEO ของบริษัทด้านแอพพลิเคชั่นการตลาด

และเจ้าของบล็อก Lionsbrain พูดถึงการเริ่มต้นธุรกิจไว้อย่างน่าสนใจว่า “คุณไม่จำเป็นต้องมีเงินเป็นล้าน หรือแม้กระทั่งไม่จำเป็นต้องมีความคิดที่แปลกแหวกแนว คุณก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองได้” และนี่คือ 6 สิ่งที่ Evans บอกว่าคุณไม่จำเป็นต้องมีเริ่มทำธุรกิจได้

1. ไม่จำเป็นต้องมีความคิดแปลกใหม่

ทำธุรกิจ

ภาพจาก goo.gl/xCM4Sn

ส่วนใหญ่นักธุรกิจมือใหม่มักจะคิดว่า ต้องสร้างสรรค์สิ่งใหม่ และต้องทำให้สมบูรณ์แบบที่สุด แต่จริงๆ แล้วมันคือกับดักที่ทำให้คุณต้องใช้เงินมหาศาล ซึ่งคุณสามารถต่อยอดจากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในท้องตลาดได้

เพียงแค่พัฒนาให้ดีกว่าของเดิมที่มีอยู่ก็พอ และคุณจะประสบความสำเร็จได้ ด้วยงานบริการและการจัดส่งที่รวดเร็ว โดย Evans เผยว่าธุรกิจแรกที่เขาทำนั้นเป็นเพียงธุรกิจเล็กๆ ที่รับมา แล้วก็ขายผ่านออนไลน์เท่านั้น ขณะนั้นเขาคิดว่า “ผมคิดว่าผมทำได้ดีกว่า แล้วทำไมผมถึงไม่ทำ”

2. ไม่จำเป็นต้องมีเงินลงทุนหลักล้าน

uu6

ภาพจาก goo.gl/Ldvh9H

Evans เผยว่า คุณสามารถเริ่มต้นธุรกิจด้วยเงินเพียงเล็กน้อย สิ่งสำคัญคือ การเรียนรู้วิธีดึงดูดคนเข้าเว็บไซต์ และคนกลุ่มนั้นต้องซื้อสินค้า ซึ่งปัจจุบันก็มีหลายวิธีให้เราเลือกใช้ หรืออาจจะใช้วิธีการทำตลาดแบบอาศัยตัวแทนโฆษณา และได้รับผลตอบแทนเป็นค่าคอมมิสชั่นจากเจ้าของเว็บไซต์ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่มีเว็บไซต์ของตัวเอง ถ้าจะพูดให้เห็นภาพคือ เว็บไซต์ Amazon นั่นเอง

3. ไม่จำเป็นต้องรักผลิตภัณฑ์

uu10

ภาพจาก goo.gl/Erv3ft

Evans กล่าวว่า มันไม่สำคัญว่าคุณจะรักสินค้าที่ตัวเองจำหน่ายหรือไม่ สำคัญแค่ว่า คุณรู้วิธีการขายมันหรือไม่ต่างหาก ที่ผ่านมาตัว Evans เองเคยขายผ้าห่ม ซึ่งเขาเป็นเพียงผู้ขายเท่านั้นและเขาคิดแค่ว่าจะทำอย่างไรให้ขายได้มากที่สุด ด้วยเหตุนี้แค่คุณเลือกสินค้าที่มีความโดดเด่น หรือมีนวัตกรรมใหม่ๆ มาขาย และคิดวิธีการขายให้สามารถแข่งขันกับผู้ค้าคนอื่นๆ ได้และแม้ว่า Evans จะไม่ได้รักในสิ่งที่เขาขาย

แต่สิ่งที่เขารักคือ การทำธุรกิจ และการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง Evans กล่าวอีกว่า “มีผู้คนจำนวนมากที่เริ่มต้นทำธุรกิจ และพวกเขาพยายามลองทำในสิ่งที่รักแล้ว แต่ก็ไปไม่รอด และก็ต้องกลับไปทำงานประจำเหมือนเดิม” ซึ่งทุกโปรเจคที่ Evans ทำนั้น จะเป็นงานที่บอกถึงความเป็นและความตายของชีวิตได้เลย

เพราะฉะนั้น เขาต้องแน่ใจว่าสินค้าที่เลือกมาขาย จะต้องขายได้จำนวนมาก Evans กล่าวว่า“ลองค้นหาสิ่งที่ ชี้เป็น ชี้ตายให้ชีวิตของคุณ และคุณจะมีแรงฮึด”

4. ไม่จำเป็นต้องรู้ทฤษฏีในตำราเพียงอย่างเดียว

uu9

ภาพจาก goo.gl/9A2bCH

บางคนหมกมุ่นอยู่กับการอ่านและอ่านอย่างเดียว โดยไม่ลงมือทำอะไรเลย ถ้าทำแบบนั้นจะมีแค่ทฤษฏีแต่คิดวิเคราะห์ไม่เป็น แม้จะอ่านหนังสือเป็นร้อยเล่มก็ไม่ช่วยอะไร สิ่งที่คุณต้องมีคือ สัญชาตญาณ นำความรู้ทั้งหมดที่คิดว่าจะต้องใช้มาเริ่มต้นทำบริษัทของตัวเอง และใช้สัญชาตญาณทำให้ประสบความสำเร็จ

5. ไม่จำเป็นต้องมี Follow ในโลกออนไลน์เยอะๆ

uu7

ภาพจาก goo.gl/noCun4

มีคนจำนวนไม่น้อยที่พยายามสร้างผู้ติดตามใน Social Media ถึงกับต้องจ่ายเงินเพื่อโปรโมทเพจหรือเว็บไซต์ แต่หากลองคิดดูแล้ว วิธีนั้นอาจยากเกินไปที่จะสร้างฐานลูกค้า

คุณอาจจะได้จำนวนผู้ติดตาม หรือปริมาณคนเข้าเว็บไซต์ แต่ไม่ได้ลูกค้าที่มีคุณภาพ วิธีง่ายๆ ที่ Evans เลือกใช้คือ จ้างคนดัง หรือคนที่มีผู้ติดตามเยอะ (สำหรับในประเทศไทยก็อาจหมายถึงบุคคลที่มีชื่อเสียง Net Idol หรือคนที่มีผู้ติดตามเยอะ)

ซึ่งจะใช้เงินไม่เยอะ และถ้าผู้บริโภคสนใจ ก็จะเข้าไปยังเว็บไซต์ของคุณเอง อันที่จริงแล้ว Social Media ถือเป็นเครื่องมือสำหรับธุรกิจออนไลน์โดยตรง แต่ในขณะเดียวกันมันก็ยังไม่ใช่เครื่องมือที่ดีที่สุด คุณต้องหาให้เจอว่าวิธีไหนที่จะขายสินค้าได้ และเหมาะกับคุณที่สุดด้วย

6. ไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง!

uu8

ภาพจาก goo.gl/Ilsgjh

คุณไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องว่าจะทำอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ หรือต้องเป็นคนที่เรียนเก่งที่สุดในห้อง มันไม่ใช่ความรับผิดชอบที่คุณต้องมี เพราะถ้าคุณเก่งเกินไป มันจะทำให้คุณลังเลที่จ้างคนเก่งๆ มาทำงานด้วย เพราะกลัวว่าพวกเขาจะฉลาดกว่าคุณ ให้คุณเลือกจ้างคนที่จะทำให้บริษัทแข็งแกร่งขึ้นดีกว่า เพื่อที่คุณจะได้เรียนรู้บางอย่างจากพวกเขา

โดย Evans เผยว่า คุณไม่จำเป็นต้องรู้ทั้งหมด เพราะส่วนมากผู้ประกอบการที่เพิ่งลงสนามแข่ง มักจะคิดว่า ตัวเองเก่งที่สุด ไม่มีใครเก่งกว่าฉันอีกแล้ว อย่าลืมว่า Richard Branson ผู้ก่อตั้ง Virgin group ก็ไม่ได้รู้ทุกเรื่อง และ Steve Jobs ผู้ล่วงลับ ก็ไม่รู้ทุกอย่างเช่นกัน

ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางที่สอนให้คุณรู้ว่าการทำธุรกิจแท้ที่จริงอยู่ที่ความพร้อมของตัวคุณเองเป็นหลักไม่ใช่ปัจจัยพื้นฐานอันเป็นองค์ประกอบภายนอก นักธุรกิจระดับโลกจำนวนมากเริ่มต้นจากศูนย์ เขายังทำได้ แล้วทำไมคุณจะทำแบบเขาบ้างไม่ได้

ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/pnlkaZ

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด