การเลี้ยงเป็ดเทศ

เป็ดเทศ เป็นเป็ดพื้นเมืองพันธุ์เนื้อที่เลี้ยงง่าย เติบโตเร็วสามารถใช้อาหารและวัตถุดิบที่มีในท้องถิ่นได้เป็นอย่างดีให้ผลตอบแทนในระยะเวลาอันสั้น สามารถจำหน่ายได้ง่าย

ทั้งที่เป็นเป็ดมีชีวิตและเนื้อเป็ดชำแหละเนื้อเป็นที่นิยมสำหรับผู้บริโภคในท้องถิ่นโดยทั่วไป จึงสามารถจำหน่ายได้ง่ายเป็นตลาดท้องถิ่น เกษตรกรสามารถเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมร่วมกับอาชีพอี่น ๆ ได้ด้วย

แต่ทั้งนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าผู้ที่สนใจในการเลี้ยงเป็ดเทศนั้นจำเป็นที่ต้องมีตลาดรองรับที่ชัดเจน รวมถึงควรมองหาแหล่งวัตถุดิบอาหารสัตว์ราคาถูก ที่สำคัญคือเทคโนโลยีของการใช้ตู้ฟักซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในการผลิตลูกเป็ดเทศ

เป็ดเทศ

อุปกรณ์สำคัญที่ต้องจัดเตรียม

โรงเรือน(ควรทำจากไม้หรือวัสดุที่หาง่ายในท้องถิ่น หลังคามุงด้วยจาก หญ้าคา หรือแฝก) เล้าเลี้ยงลูกเป็ด หลอดไฟให้ความอบอุ่น รางใส่อาหาร รางใส่น้ำ

แนวทางการเลี้ยงเป็ดเทศแบ่งออกเป็น 3 ช่วงสำคัญ

1.ตั้งแต่แรกเกิด – อายุ 3 สัปดาห์

การฟักไข่จะใช้เวลาประมาณ 35 วัน เมื่อลูกเป็ดเทศเกิด นำไปเลี้ยงในเล้า ซึ่งมีผ้าหรือกระสอบป่านตัดเย็บล้อมรอบเล้า เพื่อป้องกันลมโกรกถูกตัวลูกเป็ดพื้นเล้าควรปูด้วยแกลบหรือวัสดุที่สะอาด หนาประมาณ 2-3 นิ้ว จัดวางหลอดไฟให้ความอบอุ่น เตรียมรางใส่อาหาร รางใส่น้ำไว้ในเล้า ให้อาหารเป็ดวันละ 4-5 ครั้ง อุณหภูมิที่เหมาะสมในการกกลูกเป็ด

ควรสังเกตจากปฏิกิริยาของลูกเป็ดด้วย ถ้ามีลูกเป็ดนอนสุมทับกันและมีเสียงร้อง แสดงว่าอุณหภูมิต่ำเกินไป ต้องเพิ่มความอบอุ่นให้ ถ้าลูกเป็ดกระจายอยู่และยืนอ้าปากหอบกางปีก แสดงว่าร้อนเกินไป ต้องลดอุณหภูมิลง ถ้าอุณหภูมิพอเหมาะ ลูกเป็ดจะนอนราบกับพื้นกระจายอยู่ทั่วไป การกกลูกเป็ดควรกกประมาณ 3 สัปดาห์

2.อายุ 4 – 12 สัปดาห์

โรงเรือนสำหรับเลี้ยงเป็ด ควรแห้งสะอาด ไม่มีน้ำขัง ป้องกันแดดและฝนได้ดี รางอาหารควรวางห่างจากรางน้ำ มีผัก หญ้าสด หรือผักตบชวา ให้เป็ดกิน อาหารควรมีโปรตีนประมาณ 16% ถ้าเลี้ยงเป็ดเทศเพื่อจำหน่าย ควรจำหน่ายอายุ 10-12 สัปดาห์

3.อายุประมาณ 13 – 24 สัปดาห์

ช่วงนี้เป็ดจะกินอาหารมากขึ้น การเจริญเติบโตน้อย จึงเลี้ยงด้วยอาหารให้เพียงพอสำหรับรักษาขนาดและน้ำหนักของเป็ดให้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย อาหารที่ให้ช่วงนี้ ควรมีโปรตีนประมาณ 14%

mm31

การเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์เป็ดเทศ

เป็ดที่จะเริ่มไข่เมื่ออายุ 28 สัปดาห์ วันหนึ่งควรให้อาหาร 2 ครั้ง เช้า-เย็น ปริมาณที่ให้แม่พันธุ์ 130-150 กรัม/ตัว/วัน พ่อพันธุ์ 200-250 กรัม/ตัว/วัน อาหารที่ให้ควรมีโปรตีนประมาณ 15-18%

เป็ดเทศปีหนึ่งจะไข่ประมาณ 4-5 ชุด ชุดละ 15-20 ฟอง สามารถไข่ได้ 2 ปี ลักษณะเป็ดเทศที่จะไข่มีขนสีดำเป็นมัน หน้าแดง ร้อง แม่เป็ดชอบไข่ในที่มืดสงบ จึงควรมีรังไข่บุด้วยฟางหรือวัสดุแห้ง ๆ จัดไว้ในมุมมืดของเล้าสำหรับแม่เป็ด

การป้องกันโรค

  • โรคที่สำคัญในเป็ดเทศ ได้แก่ โรคอหิวาต์ และโรคดั๊กเพล็ก จึงต้องมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรค
  • โรคอหิวาต์ ฉีดวัคซีนเมื่อเป็ดอายุ 1-1 เดือน ครึ่ง ปีละ 4 ครั้ง โดยฉีดเข้ากล้ามตัวละ 2 ซีซี
  • โรคดั๊กเพล็ก ฉีดวัคซีนเมื่อเป็ดอายุ 21 วัน ปีละ 2 ครั้ง โดยฉีดเข้ากล้ามตัวละ 1 ซีซี

mm33

ข้อแนะนำที่สำคัญ

ถ้ามีเงินลงทุนน้อย และมีพื้นที่กว้างขวางเป็นที่โล่งใกล้แหล่งน้ำ รวมทั้งเลี้ยงเป็ดจำนวนไม่มาก ก็ไม่จำเป็นต้องปลูกสร้างโรงเรือน แต่ถ้ามีจำนวนเป็ดมาก ก็สร้างโรงเรือนโดยใช้ตาข่ายล้อมรอบ มุงหลังคาด้วยจาก เพื่อเป็นการประหยัด
เป็ดเทศอายุตั้งแต่ 4 สัปดาห์ ขึ้นไป ควรให้กินผัก หญ้าสด หรือผักตบชวา เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิต

เงินลงทุนเบื้องต้น ขึ้นอยู่กับจำนวนของเป็ดที่เลี้ยง โดยแบ่งเป็น

  • ค่าพันธุ์เป็ดเทศ ตัวละประมาณ 6 – 8 บาท (ราคาจำหน่ายของกรมปศุสัตว์)
  • ค่าอาหารเป็ด (เช่น ปลายข้าว รำ กากถั่วเหลือง ปลาป่น เปลือกหอย เป็นต้น) ประมาณ 7 กิโลกรัม/ตัว
  • ค่ายา + ค่าวัคซีน ประมาณ 1 บาท/ตัว
  • ค่าโรงเรือนเลี้ยงเป็ด และวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับจำนวนเป็ด และสภาพพื้นที่ที่เลี้ยงเป็ด

mm34

ราคาจำหน่ายในปัจจุบัน

การจำหน่ายลูกเป็ดเทศที่ผลิตได้ ประมาณ 50 – 60 ตัวต่อตัวต่อปี ซึ่งจะจำหน่ายได้ในราคาตัวละ 20 – 25 บาท คิดเป็นผลตอบแทน 1,200 -1,500 บาท ต่อแม่ต่อปี

การจำหน่ายเป็ดใหญ่ที่เลี้ยงจนโต ขนาดน้ำหนักตัวโดยเฉลี่ยตัวละ 2.5 – 3 กิโลกรัม จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 40 -45 บาท คิดเป็นผลตอบแทนตัวละ 90 – 100 บาท

อย่างไรก็ตามต้นทุนและผลตอบแทนการเลี้ยงสามารถเปลี่ยนแปลงไปตามสภาพการตลาดและแหล่งที่เลี้ยงเป็นสำคัญ

มีปัญหาในการเลี้ยงสามารถติดต่อได้ที่

  • กรมปศุสัตว์ พญาไท กทม. โทร. 653-4550-7 ต่อ 3251-2
  • สำนักงานปศุสัตว์จังหวัด ปศุสัตว์อำเภอ

มองโดยภาพรวมแล้วถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพน่าสนใจที่ทำรายได้ให้กับผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดีทั้งนี้ถ้ายังไม่มีความชำนาญอาจหาประสบการณ์ด้วยการเริ่มต้นที่จำนวนน้อยๆค่อยๆเรียนรู้และเพิ่มจำนวนในภายหลังถ้าขยันหาเทคนิคดีๆ มีการตลาดที่แข็งแกร่งถือเป็นการลงทุนสบายๆที่น่าสนใจอย่างยิ่งทีเดียว

ขอบคุณรูปภาพจาก https://goo.gl/CuF2Vo

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/32lFlxY

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด