การเพาะเลี้ยงหอยแครง

หอยแครง เป็นสินค้าสัตว์น้ำที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจของประเทศอีกชนิดหนึ่งเป็นที่นิยมบริโภคกันโดยทั่วไป เนื่องจากมีรสชาติดี มีคุณค่าทางอาหารสูงไม่แพ้อาหารโปรตีนชนิดอื่นอาชีพการเลี้ยงหอยแครงในประเทศไทยได้มีมาเป็นเวลานานไม่น้อยกว่า 100 ปี

กระจายตัวนั้นจะเป็นการเลี้ยงอยู่ตามเขตชายฝั่งทั้งอันดามัน อ่าวไทย ไล่ตั้งแต่เพชรบุรีลงไปถึง 14จังหวัดภาคใต้ก็ล้วนแต่มีหอยแครงเป็นสัตว์เศรษฐกิจแทบทั้งนั้น

ราคาการจำหน่ายหอยแครงนั้นจากยุคแรกมาถึงปัจจุบันถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงสูงมากราคาที่เราพบเห็นกันตามท้องตลาดตอนนี้ไม่ต่ำกว่ากิโลละ 100 บาท แน่นอนว่าเมื่อขายจากหน้าฟาร์มราคาก็ใกล้เคียงกันนี้จึงถือได้ว่านี่คืออาชีพที่น่าสนใจ

ซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าถ้ามีความรู้ที่ดีมีที่และเงินสำหรับลงทุนการเพาะเลี้ยงหอยแครงนี้พร้อมทำให้คนไทยลืมตาอ้าปากได้ดีทีเดียว

หอยแครง

ภาพจาก https://goo.gl/5p8Bfi

การเลือกทำเลเลี้ยงหอยแครง

  1. ควรเลือกชายฝั่งที่มีหอยเกิดอยู่ตามธรรมชาติ หรือสามารถหาพันธุ์หอยได้สะดวก
  2. พื้นเป็นโคลนเรียบ ลาดเล็กน้อย
  3. ดินเป็นดินเลน ดินโคลนละเอียด หรือดินเหนียวปนทราย
  4. ความลึกประมาณ 0.5-1 เมตร
  5. ความเค็มของน้ำเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วง 10-30 ส่วนในพัน
  6. ไม่ควรอยู่ติดแหล่งอุตสาหกรรม

วิธีดำเนินการเพาะเลี้ยงหอยแครง

  1. ปรับสภาพบ่อสำหรับเลี้ยงหอยแครง พื้นที่ต้องเรียบไม่มี่ไม้ไม่มีตอ การจับหอยแครงจะง่ายขึ้น เมื่อเตรียมหน้าดินแล้วให้ระบายให้เข้าเต็มที่ เพื่อให้ดินนุ่มฉ่ำเต็มที่
  2. สัดส่วนของพื้นที่ในการเลี้ยงหอยแครง ในพื้นที่ 1 ไร่จะปล่อยลูกหอยแครง ประมาณ 500 กิโลกรัม
  3. อาหารของหอยแครงคือซากแพลงตอน ถ้าไม่มีแพลงตอน สามารถแก้ไขโดยใช้วิธีการบำบัดน้ำ โดยใส่ขี้ไก่ แล้วค่อย ๆ เอาซากแพลงตอนเลี้ยงอีกที
  4. ระยะเวลาที่เลี้ยง ขึ้นอยู่กับพื้นที่ว่าสมบูรณ์และมีอาหารเพียงพอหรือไม่ อายุของหอยแครงที่จับขาย จะมีอายุ 6 – 8 เดือนขึ้นไป

ll21

ภาพจาก https://goo.gl/PDOUHf

รูปแบบของฟาร์มสำหรับการเพาะเลี้ยงหอยแครง

1.การเลี้ยงแบบดั้งเดิม

เป็นการทำฟาร์มขนาดเล็กในครอบครัว เนื้อที่ 5-30 ไร่ต่อครอบครัวหรือรายโดยใช้ไม้ไผ่กั้นคอกล้อมแปลงเลี้ยง ขนาดลูกหอยเริ่มต้นเลี้ยงจะขึ้นกับสายพันธุ์ของลูกหอย

หากเป็นลูกหอยพันธุ์พื้นเมืองของจังหวัดเพชรบุรี จะใช้ลูกหอยขนาดใหญ่ คือ 400-1,200 ตัวต่อกิโลกรัม โดยขนาดที่นิยมหว่านเลี้ยงประมาณ 450 ตัวต่อกิโลกรัม จะมีอัตราการหว่านประมาณ 800-1,500 กิโลกรัม/ไร่ ใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 6-8 เดือนหรือตามขนาดของหอยพันธุ์ที่หว่านลงไป

2.การเลี้ยงแบบบพัฒนา

เป็นการเลี้ยงหอยแครงแบบธุรกิจขนาดใหญ่เนื้อที่ 200-1,000 ไร่/ราย มีการปักเขตเช่นเดียวกับแบบแรก ลูกหอยที่นำมาเลี้ยงจะใช้หอยขนาดเล็ก เพื่อให้ได้น้ำหนักของหอยขณะโตเต็มที่มากขึ้นโดยเลือกใช้พันธุ์หอยตั้งแต่ 1,000-3,000 ตัว/กิโลกรัม การเลี้ยงแบบนี้อาจใช้เวลามากกว่า 1 ปีขึ้นไปแต่ปริมาณการจับก็จะได้น้ำหนักรวมมากขึ้นกว่าการเลี้ยงแบบดั้งเดิม

ll22

ภาพจาก https://goo.gl/EA9ESw

แหล่งขายลูกหอยแครง

  • กรมประมง
  • ชาวบ้านในพื้นที่ใกล้ชายฝั่งทะเล

เงินลงทุน : พื้นที่ 2 ไร่/หอย 1 ตัน ราคาหอยลูกพันธุ์ปัจจุบันประมาณ 50-60 บาท/กก. (หอย 1 ตันต้นทุนประมาณ 50,000-60,000บาท)

รายได้ : ลูกหอย 1 ตันจะได้น้ำหนักเพิ่มประมาณ 2-3เท่าตัว ราคาขายประมาณ 90 บาท รายได้เฉลี่ย180,000บ./ตัน

แหล่งตลาด : มีพ่อค้าหอยแครงมาบริการจับหอยพร้อมส่งจำหน่ายถึงฟาร์มซึ่งเจ้าของฟาร์มสามารถต่อรองราคาที่เหมาะสมได้

ll23

ภาพจาก https://goo.gl/N6zXLn

ข้อแนะนำ

  1. การเลี้ยงหอยแครงถ้าเลี้ยงในบ่อกุ้งเก่า ก็ต้องทำพื้นที่ให้สะอาดก่อน สภาพเลน สมบูรณ์ดี
  2. ศัตรูของหอยแครง หากเลี้ยงในบ่อศัตรูก็คือปลาหมอ
  3. คุณภาพน้ำเป็นสิ่งสำคัญถ้าความเค็มไม่ได้ระดับอาจทำให้เกิดตะไคร้น้ำเหนือผิวดินทำให้หอยแครงเสียหายได้
  4. ทั้งนี้การเลี้ยงหอยแครงในปัจจุบันก็ต้องใช้เงินทุนที่ค่อนข้างมากและต้องมีประสบการณ์ที่ดีพอสมควรแนะนำว่าถ้าเป็นผู้เลี้ยง
  5. รายใหม่ควรเริ่มจากปริมาณน้อยแล้วค่อยขยายเพิ่มขึ้นจะได้ผลและมีความเสี่ยงน้อยกว่านั่นเอง

แต่สำหรับใครสนใจอยากเข้าคอร์สเรียนสร้างอาชีพอื่นๆ น่าสนใจ มีให้เลือกหลากหลาย ดูรายละเอียดการอบรมเพิ่มเติมได้ที่ https://goo.gl/1f3lWV หรือ Add LINE id : @thaiseminar

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2RajClY

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด