สูตรและวิธีการทำ หมูโสร่ง

เสน่ห์ของชาติไทยคือการที่มีประเพณีสืบทอดติดต่อกันมายาวนาน จากรุ่นสู่รุ่นโดยเฉพาะเรื่องตำหรับตำราการทำอาหารเรียกว่ามีอาหารไทยอีกหลายชนิดที่คนรุ่นใหม่ไม่เคยรู้จัก

สิ่งเหล่านี้ในทางการตลาดแล้วถือว่ามีคุณค่าเพียงแค่เรารู้จักผสมผสานไอเดียในการนำเสนอทำเรื่องราวให้น่าสนใจชูประเด็นอาหารไทยแท้แต่โบราณ หลายคนอาจเปิดเป็นShop หรือทำเป็นสินค้าขายดีในอินเทอร์เนตก็ล้วนแต่เป็นช่องทางเพิ่มรายได้ที่น่าสนใจแต่

ทั้งนี้เพื่อความน่าสนใจยิ่งขึ้นเราก็ควรจะเรียนรู้สุดยอดเมนูอาหารไทยโบราณเหล่านี้ไว้ให้มาก ยิ่งมากก็ยิ่งน่าสนใจและสร้างรายได้ดีๆให้กับผู้ลงทุนได้แน่นอน

โดยในครั้งนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ขอนำเสนออีกหนึ่งสูตรอาหารโบราณที่หากินได้ยากมากแค่ชื่อหลายคนก็บอกว่าไม่เคยรู้จักมาลองเรียนรู้วิธีการทำ หมูโสร่งกันหน่อยดีกว่า เพราะเมนูนี้ได้ชื่อว่าโบราณมากทีเดียว

หมูโสร่งคืออะไร?

หมูโสร่ง

หมูโสร่งเป็นเมนูอาหารว่างแบบไทยโบราณและเชื่อได้ว่าชื่อเมนูอาหารว่างของไทยชนิดนี้คงจะไม่คุ้นเคยกันซักเท่าไหร่สำหรับคนในยุคนี้ซึ่งหมูโสร่งที่ว่านี้เป็นเมนูที่ทำจากหมูบดละเอียดมาผสมเครื่องปรุงรส พันด้วยเส้นหมี่ซั่ว เหมือนลูกตระกร้อหรือก้อนไหมพรมแล้วนำไปทอดจนเหลืองกรอบ ทานกับน้ำจิ้ม นับได้ว่าเป็นอาหารว่างที่หน้าตาน่ารับประทานและรสชาติยังอร่อยอีกด้วย

วัตถุดิบหมูโสร่ง

jkm1

km1

  1. เนื้อหมูบดละเอียด 200 กรัม
  2. รากผักชี (หั่น-โขลกละเอียด) 2 ช้อนชา
  3. กระเทียม (หั่น-โขลกละเอียด) 2 ช้อนชา
  4. พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
  5. เกลือ 1/4 ช้อนชา
  6. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  7. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  8. น้ำมันสำหรับทอด 3 ถ้วย
  9. เส้นหมี่ซั่วขาว (ชนิดเส้นไม่เค็ม) จุ่มน้ำพอชุ่ม ผึงใส่ตะแกรง คลุมผ้าขาวบาง 100 กรัม

วิธีทำหมูโสร่ง

km2

km6

  1. อ่างใส่หมูบด เครื่องปรุงทั้งหมด คลุกนวดให้เหนียว
  2. เส้นหมี่ซั่ว 4-5 เส้น ใส่หมูเล็กน้อย พันให้เป็นก้อนกลมเหมือนลูกตะกร้อ ก้อนไหมพรม เรียงใส่ถาด คลุมด้วยผ้าขาวบาง
  3. กะทะใส่น้ำมัน ตั้งไฟอ่อนกลาง ใส่ก้อนหมูที่พันเส้นแล้ววางใส่ตะแกรงทอดกดๆ พอให้เต็ม ยกตะแรกงลงทอด ให้น้ำมันท่วม ใช้ตะหลิวตักน้ำมันราดให้ทั่ว ทิ้งไว้ พออยู่ตัวค่อยเกลี่ยออกจะตะแกรง ทอดต่อในกะทะ ดูสีน้ำตาลทองๆ ก่อนเอาขึ้นเร่งไฟอีกครั้งไม่ให้อมน้ำมัน ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน
  4. ทานคู่กับน้ำจิ้มโดยเลือกเป็นน้ำจิ้มปอเปี๊ยะจะได้รสชาติที่เข้ากันดีที่สุด

เคล็ดลับสำคัญ

km3

km4

1.เส้นหมี่ซั่วที่นำมาใช้ต้องเป็นชนิดไม่เค็ม เพราะถ้าชนิดเค็ม หมูโสร่งจะออกมามีรสชาติเค็มมาก กรณีหาเส้นแบบไม่เค็มไม่ได้ให้ลดจำนวนเกลือและน้ำปลาลง

2.ถ้าไม่มีเส้นมี่สั้ว ใช้เส้นบะหมี่เหลืองเส้นเล็กแทนได้ แต่อาจจะมีรสชาติเค็มเล็กน้อย ซึ่งอาจจะต้องใช้แป้งข้าวโพดหรือแป้งมันสำปะหลังมาผสมเล็กน้อย เพื่อเพื่อให้หมูยึดเกาะกันและเมื่อพันเส้นหมี่แล้วให้สอดปลายเข้าด้านในและกดให้ติดกับเนื้อหมู แล้วควรทอดเลยทันที จะช่วย ไม่ให้เส้นหลุดจากเนื้อหมูขณะทอดได้

km8

ดูๆไปแล้วก็เป็นเมนูที่ไม่ยากค่อนข้างจะทำง่ายด้วยซ้ำ สำคัญคือความประณีตในการทำซึ่งเป็นเสน่ห์ของอาหารไทยที่สืบทอดต่อกันมาแต่โบราณ แต่ถ้าใครอยากทำเป็นธุรกิจอาจคิดต่อยอดจากเมนูนี้แล้วนำเสนอในรูปแบบที่เข้ากับยุคสมัย

ก็น่าจะเพิ่มมูลค่าสินค้าได้อย่างน่าสนใจมากขึ้น รวมถึงช่องทางการค้าที่เราสามารถเลือกรูปแบบการขายได้มากมายแต่ที่สำคัญต้องฝึกทำให้ชำนาญและเรียนรู้อาหารไทยโบราณแบบหลากหลายเมนูก็ช่วยเพิ่มสีสันทางธุรกิจของเราได้อีกมาก

ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/O68kKw

ขอบคุณภาพจาก goo.gl/9PFxPW , goo.gl/Nnnqb9

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3caXBxl

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด