“ยาอมโบตัน” สินค้าคู่คนไทยกว่า 82 ปี รายได้รวมกว่าหมื่นล้าน

ยาอมโบตัน แบรนด์สินค้าของบริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) สินค้านี้ทำตลาดในเมืองไทยมานานกว่า 82 ปี แต่ความคลาสสิคของยาอมโบตันที่ดูเหมือนจะตกยุค ไม่ทันเทรนด์ แต่ที่จริงเป็นสินค้าที่ขายดีมาก ซึ่งการจะพาสินค้าที่ดูธรรมดากลายมาเป็นสินค้าระดับตำนานถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย

ซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าวิสัยทัศน์ของผู้บริการ วิธีการทำตลาด และการพัฒนาตัวเองให้สอดคล้องกับความต้องการของคนยุคใหม่ ล้วนแต่เป็นคีเวิร์ดสำคัญที่ทำให้ยาอมโบตันกลายเป็นสินค้าขายดีที่เมื่อรวมกับสินค้าในกลุ่มอื่นของบริษัท สร้างรายได้รวมกว่าหมื่นล้านบาท

ยาอมโบตัน “สินค้าในตำนาน” อายุรวมกว่า 82 ปี

11

ย้อนไปในยุคแรก กับวลีฮิตติดหูในโฆษณาอย่าง “ยา…หย่า…ย่า…ยี…หยี่…ยี่…คุณแม่ซักผ้า คุณยายสระผม ลูกอมโบตัน ยาสีฟันคอลเกต สบู่วิเศษ…ปั๊กกะเป้ายิ้งฉุบ” น่าจะเป็นประโยคที่ถึงทุกวันนี้เราก็ยังจำกันได้ดี จากร้านขายยา “เต๊กเฮงหยู”ในปี 2435 ที่มีสินค้าแจ้งเกิดคือ ยากฤษณากลั่น ที่ยี่ห้อในปัจจุบันนี้คือตรากิเลน ที่ทำให้ร้านยาเต็กเฮงหยู ได้รับความนิยมและใช้ชื่อว่า “โอสถสถานเต็กเฮงหยู”

กระทั่งทายาทรุ่นที่ 2 เข้ามาสานต่อธุรกิจ จึงได้มีการคิดค้นสูตรยาสามัญประจำบ้านอื่น ๆ เพิ่มอีกหลายชนิด เช่น ยาธาตุ 4, ยาอมโบตัน รวมไปถึงการผลิตยาสมัยใหม่สูตรจากอังกฤษ อย่าง ยาทันใจ แต่ถ้ามองดูประวัติของบริษัท ที่มีการพูดถึงความนิยมของลูกอมโบตันมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 ก็เป็นไปได้ว่า อายุของลูกอมโบตัน น่าจะไม่น้อยกว่า 82 ปี

จุดเด่นสินค้าและความน่าสนใจของ “ยาอมโบตัน”

14

ยาอมโบตันแม้เป็นสินค้าหนึ่งของโอสภสภา แต่ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้สินค้าอื่น จุดเด่นของยาอมโบตันคือใช้ส่วนผสมที่เป็นสมุนไพรจริงจากธรรมชาติมาผลิต ไม่ใช่แค่สารสกัด และยังการันตีว่าใช้แหล่งสมุนไพรคุณภาพสูง จึงทำให้ชุ่มคอได้นานกว่า ละลายช้าโดยมี 2 ส่วนผสมที่น่าสนใจมาก คือ รากชะเอมบด และสะระแหน่ ที่ถือว่าเป็นวัตถุดิบระดับพระเอกของยาอมโบตันเลยก็ว่าได้

เมื่อส่วนผสมดี การออกแบบบรรจุภัณฑ์ก็ต้องให้น่าสนใจ ซึ่งต้องยอมรับว่าทำได้ดีมากในจุดนี้ มีการใช้โทนสีที่ส่งเสริมกันให้สินค้าดูเด่นยิ่งขึ้น ทั้งสีแดง สีเหลือง และสีเขียว ซึ่งแต่ละสีก็มีความหมายดีๆ เช่นสีแดงหมายถึงโชคลาภ สีเหลืองหมายถึงแสงสว่าง สีเขียวหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ เป็นต้น

การแจ้งเกิดของยาอมโบตันอาจต้องย้อนประวัติศาสตร์ไปถึงสมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามที่ออกกฎให้คนไทยเลิกกินหมาก จึงทำให้ลูกอมได้เข้ามาแทนที่การเคี้ยวหมาก ทำให้ลูกอมโบตันในยุคแรกๆ ได้รับประโยชน์ในเรื่องนี้อย่างมาก ไม่นับรวมการตลาดในยุคปัจจุบันที่เน้นการสื่อสารในทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น การติดประกาศตามต้นไม้ ท่าน้ำ ร้านค้า ร้านขายยา

12

การใช้กลยุทธ์รถเร่ฉายหนังขายยา ไปจนถึงการแจกสินค้าตัวอย่างให้ทดลองใช้ เป็นสปอนเซอร์สนับสนุนในงานใหญ่ของจังหวัดต่าง ๆ ล้วนแต่มีผลในด้านการตลาดที่ทำให้สินค้าเป็นภาพจำของลูกค้าได้ทั่วประเทศ

นอกจากนี้โอสถสภายังได้มีการหันกลับมาทำตลาดเกี่ยวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ยาโบราณ รวมถึงโบตันเพิ่มมากขึ้น และได้จัดทำพิพิธภัณฑ์ร้านขายยา “กิเลน เต๊กเฮงหยู” ณ ล้ง 1919 ขึ้นมาเมื่อปี 2562 เพื่อรำลึกถึงรากเหง้าต้นกำเนิดของธุรกิจในยุคเริ่มต้นที่ดำเนินมากว่า 129 ปี มีการอิงกับกระแสของละครดังและภาพยนตร์ต่างๆ การนำนักแสดงคนรุ่นใหม่มาช่วยโปรโมตสินค้า ไปจนถึงการผลิตสินค้า Limited Edition และปรับปรุงรูปโฉมใหม่ของผลิตภัณฑ์ขึ้นมาด้วย

การพัฒนาสูตรยาอมโบตันให้ก้าวทันสมัยมากขึ้น

10

อย่างไรก็ดี ยาอมโบตัน ไม่ได้หยุดนิ่งและพอใจกับยอดขายที่มีอยู่ แต่มีการพัฒนาต่อเนื่องอย่างน่าสนใจในส่วนของรสชาติ สำหรับโบตันแบบคลาสสิกนั้น ยังคงรักษาสูตรและคุณภาพไว้เหมือนเดิม ปัจจุบันมีจำหน่ายหลายรูปแบบทั้งแบบซองและแบบตลับโดยโบตันตลับขาว เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบรสชาติดั้งเดิม แต่ต้องการความสะดวกสบายในการพกพา ส่วนตลับเหลือง หรือโบตันพลัส มีการปรับรสชาติให้หวานขึ้นด้วยชะเอม เพื่อให้กินง่าย

รวมถึงการพัฒนาสินค้าอย่าง Botan Mint Ball ด้วยการนำสารเคลือบความหวานที่ไม่ใช่น้ำตาล และความหอมเย็นมาเคลือบไว้ ส่วนด้านในยังคงเป็นโบตันรสดั้งเดิม ที่ได้รับความสนใจแม้หลายคนจะมองว่ารสดั้งเดิมแบบคลาสสิคจะน่าสนใจมากกว่าแต่การปรับรูปแบบใหม่ก็เพื่อให้ลูกค้าเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เรียกว่ามีการพัฒนาไม่หยุดนิ่ง

รายได้รวมไม่ธรรมดาสูงกว่าหมื่นล้านบาท

13

ภาพจาก www.facebook.com/botanfans

ในปี 2564 บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) แม้จะเจอปัญหาการแพร่ระบาดโควิด 19 แต่ภาพรวมก็ยังสามารถทำยอดขาย 26,762 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 3,255 ล้านบาท ซึ่งแน่นอนว่ารายได้ดังกล่าวนับรวมสินค้าในเครือของบริษัท แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายาอมโบตันก็เป็นสินค้าระดับแนวหน้าที่มีส่วนในการดันยอดขายและสร้างรายได้ให้กับบริษัทอย่างมาก และที่สำคัญเป็นแบรนด์สินค้าที่เป็นเหมือนหน้าตา และเป็นสินค้าที่สะท้อนถึงความเป็นโอสภสภาได้อย่างดี แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปแต่จุดเริ่มของโอสถสภาคือมาจากยาสามัญประจำบ้านและยาอมโบตันก็คือตัวแทนของอดีตที่ต่อยอดมาถึงปัจจุบัน จึงเป็นอีกตำนานสินค้าที่น่าสนใจอย่างมาก

เชื่อว่านับจากนี้ยาอมโบตันก็ยังเป็นสินค้าที่จะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ยิ่งมีการบริหารจัดการที่ดี มีการตลาดที่มีประสิทธิภาพ และการพัฒนาสินค้าที่ดีอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่คนรุ่นเก่าเท่านั้นที่จะสนใจสินค้า แม้แต่คนรุ่นใหม่ตอนนี้ชื่อของยาอมโบตันก็เป็นที่รู้จักอย่างดีด้วย


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3PiVw5j , https://bit.ly/3MdWpu3 , https://bit.ly/3wpMuef , https://bit.ly/3sy9zdv

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3lhtZDM

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด