ขั้นตอนการเป็นพ่อค้าแม่ค้ารถเร่

ปัจจุบันต้องยอมรับว่าการออกไป จับจ่ายใช้สอย ซื้อสินค้า อาหารการกินต่างๆ ต้องใช้เวลา เป็นเรื่องยุ่งยากมากของผู้บริโภคในแถบกรุงเทพฯ ชานเมือง ปริมณฑล รวมถึงต่างจังหวัด นอกจากเสียเวลา ยังไม่มีความสะดวก ต้องเร่งรีบส่งลูกและไปทำงาน ดังนั้นการที่มีคนนำเอาสิ่งของและสินค้าเหล่านี้ไปเร่ขายถึงหมู่บ้าน หน้าบ้าน เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องการอยู่แล้ว

ดังนั้น การประกอบอาชีพ พ่อค้าแม่ค้ารถเร่ ขายของเคลื่อนที่ จึงนับว่ามีบทบาทสำคัญอย่างมาก ในยุคที่ผู้คนในสังคมมีความเร่งรีบ ต้องการความสะดวกสบาย ที่สำคัญสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้โดยตรง ถึงหน้าบ้าน

ใครสนใจอาชีพ พ่อค้าแม่ค้ารถเร่ เชิญทางนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีขั้นตอนการเป็นพ่อค้าแม่ค้ารถเร่ขายของเคลื่อนที่ รวมถึงข้อเสนอแนะในการขายของเคลื่อนที่ให้รวย มาฝากผู้ที่อยากประกอบอาชีพรถเร่ มาดูกันเลยครับ

วัสดุ / อุปกรณ์

  • รถยนต์
  • ตาชั่ง
  • ถังแช่แข็ง
  • อาหารการกิน ขนม ของใช้ รวมถึงของสด ของแห้งต่างๆ หาซื้อได้ตามตลาดสดทั่วๆ ไป

พ่อค้าแม่ค้ารถเร่
ภาพจาก goo.gl/deJfiw

ขั้นตอนการดำเนินการ

  • ต้องสำรวจเส้นทางขายของ ว่ามีผู้ประกอบอาชีพเช่นเดียวกันมาบริการแล้วหรือยัง หากมีแล้วต้องตัดสินใจว่าจะเข้าไปเสริมรอบเช้าหรือบ่ายก็ได้
  • ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปซื้อสินค้าสดๆ จากตลาดใหญ่
  • ขายผลไม้ ให้ดูผลไม้ตามฤดูกาล และความต้องการของลูกค้า เลือกชนิดที่ราคาไม่แพงนัก เช่น กล้วย ฝรั่ง ส้ม มะพร้าว มะละกอ พุทรา มะม่วง โดยจัดที่วางขายให้เหมาะสม
  • ขายกับข้าวทั้งสดและแห้ง ประเภทเนื้อสัตว์ (หมู เนื้อ ปลา กุ้ง ลูกชิ้น) ใส่ตู้แช่วางไว้บริเวณท้ายรถ จะสะดวกต่อการ ซื้อ – ขาย
  • ประเภทผักสด ต้องวางไว้ให้พ้นแสงแดด เพราะผักจะเฉาและเหี่ยวง่ายหรือมีผ้าคลุมไว้ ประเภทของแห้งเครื่องปรุง เครื่องเทศ ผงชูรส พริกไทย แขวนตามซี่ตารงลูกกรง ให้อยู่บริเวณใกล้ ๆ กัน เพื่อสะดวกในการเลือกซื้อ

ข้อเสนอแนะ

  • การประกอบอาชีพนี้เหนื่อยมาก ต้องอดทน เพราะต้องขับรถเองต้องพูดจาไพเราะ มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี ต้องมีใจรักบริการ มีลดราคา – แถม ลูกค้าจะติดใจ และขายตามหมู่บ้านรายได้ดี
  • สินค้าที่ซื้อมาจำหน่าย ต้องหลากหลาย มีสินค้าทุกความต้องการ และต้องพิถีพิถันกันในการเลือกซื้อสินค้าที่สดๆ บางครั้ง
  • เหมามา ราคาถูก ก็ต้องนำมาจัดแต่งผัก บรรจุถุงให้สวยงาม
  • ผลไม้ที่เหลือจากขายบางอย่างนำมาแปรรูป เช่น กวน เชื่อม เป็นสินค้าใหม่ขายได้อีก
  • พยายามขายสินค้าทุกชนิดในราคาตามท้องตลาด หากขายแพงจะไม่มีลูกค้าประจำ

พ่อค้าแม่ค้ารถเร่

ภาพจาก goo.gl/6y0GGm

คู่มือการลงทุน

การลงทุน

  • ประมาณ 250,000 บาท (รถกระบะเก่ามือ 2 สภาพดี, ค่าน้ำมันรถ, โทรโข่ง, ไมโครโฟน-ลำโพง, ถังแช่ของสด, ตาชั่ง, ตะกร้าใส่ผัก, ถุงพลาสติก) ทุนหมุนเวียนในการซื้อสินค้ามาขาย ขั้นต่ำประมาณ 2,000 – 4,000 บาท
  • รายได้ ประมาณ 3,000-4,000 บาทขึ้นไป หรือมากกว่านี้

ได้เห็นแล้วว่า การเป็นพ่อค้าแม่ค้ารถเร่ขายของเคลื่อนที่ ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด ต้องศึกษาเส้นทางการขาย ตามหมู่บ้าน ตามที่พักอาศัยของลูกค้า

รู้จักคัดเลือกสินค้าที่ดี มีคุณภาพ เป็นที่ต้องการของลูกค้ามาขาย ลด แลก แจก แถม พูดจาดี เท่านี้คุณก็รวยได้ ยิ่งถ้าไม่ไปขายสักวัน เชื่อว่าลูกค้าต้องคิดถึงหน้าคุณเป็นแน่

ใครสนใจอยากประกอบอาชีพ พ่อค้าแม่ค้ารถเร่ ขายของเคลื่อนที่ และอยากรู้เคล็ดลับการทำธุรกิจรถเร่ขายของให้รวย! เข้าดูบทความรวยด้วยรถเร่ขายของ เพิ่มเติมได้ที่ https://citly.me/dW7NT

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจติดตามได้ที่ https://bit.ly/335phDi
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


8 ขั้นตอน การพัฒนาระบบแฟรนไชส์

1. การวางแผนธุรกิจ ก่อนทำแฟรนไชส์

  • กำหนดรูปแบบธุรกิจ (Business Model) ให้มีความชัดเจน โดนใจลูกค้า
  • ชื่อกิจการ (Brand)
  • การสร้างผลการดำเนินธุรกิจที่ดี ได้ผลกำไร มีความมั่นคง (Good ROI)
  • การสร้างแบรนด์ ตราสินค้า ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักผู้บริโภค
  • การพัฒนาสินค้าบริการ ให้มีคุณภาพมาตรฐาน และระบบการจัดการที่เป็นมาตรฐาน
  • การพัฒนาระบบบริการจัดการ จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • วางโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมถึงการพัฒนาบุคลากร ทีมงาน สนับสนุนระบบแฟรนไชส์
  • การวางแผน และกำหนดเป้าหมายการขยายธุรกิจ การขยายสาขา ทั้งในและต่างประเทศ
  • การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจ ทำเลที่ตั้ง และรูปแบบของร้านค้า
  • การเลือกใช้สื่อต่างๆ ช่องทางต่างๆ ในการจัดกิจกรรม เพื่อสร้างแบรนด์แฟรนไชส์

2. การรวบรวมข้อมูลธุรกิจ

  • ระบบการปฏิบัติงาน วิธีการบริหารจัดการธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ
  • ระบบการเงิน การบัญชี
  • งบประมาณในการลงทุนธุรกิจ การขยายสาขา
  • รูปแบบของร้านค้า รูปแบบของตราสินค้า ที่เป็นเอกลักษณ์
  • ระบบการสต็อกสินค้า จัดส่งสินค้า วัตถุดิบ
  • แผนงานการตลาด การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • กระบวนการพัฒนาบุคลากร ทีมงานด้านต่างๆ

3. การวิเคราะห์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • ธุรกิจเปิดมานานหลายปี จำนวนไม่น้อยกว่า 1สาขา
  • แบรนด์มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคในวงกว้าง
  • สินค้าและบริการ มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ต้องการของตลาด
  • เป็นธุรกิจที่มีความมั่นคง ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ มีผลกำไร ต่อเนื่อง เป็นที่น่าพอใจ
  • มีระบบการทำงาน การปฏิบัติงาน แผนการทำงานที่ชัดเจน สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้
  • มีระบบการพัฒนาบุคลากร และสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง เป็นมาตรฐาน
  • ประสบความสำเร็จทางด้านการตลาด การสร้างแบรนด์ การส่งเสริมการขายต่างๆ
  • แผนกลยุทธ์การขยายสาขา และเติบโตต่อเนื่อง เป็นรายเดือน หรือ รายปี

4. การวางโครงสร้างของระบบแฟรนไชส์

  • กลยุทธ์การสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของผู้บริโภค
  • การสร้างองค์ความรู้ ระบบปฏิบัติงานต่างๆ ที่พร้อมถ่ายทอดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • วางระบบการปฏิบัติงานของแต่ละขั้นตอนธุรกิจ ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ง่าย
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย แต่ละแผนกให้ชัดเจน รวมถึงขั้นตอนการอบรม ระบบตรวจสอบ เพื่อสร้างมาตรฐานธุรกิจแฟรนไชส์
  • สร้างระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซี หรือผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • การกำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ ในการขยายสาขาแฟรนไชส์ ให้เป็นที่ยอมรับของลูกค้า (ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์)
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงแก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ช่วงเริ่มต้นได้
  • เงื่อนไขการเปิดสาขาในด้านต่างๆ

5. การวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายแฟรนไชส์
  • ระบบการเงิน
  • ค่าธรรมเนียมต่างๆ
  • ข้อเสนอแฟรนไชส์ซี
  • การจดทะเบียนแฟรนไชส์
  • เรื่องกฎหมาย อายุสัญญาแฟรนไชส์
  • ระบบปฏิบัติงาน รูปแบบการให้สิทธิ
  • การตลาด การโฆษณาประชาสัมพันธ์
  • แพ็คเกจต่างๆ ระบบการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง
  • การจัดทำคู่มือแฟรนไชส์ หรือโปรแกรมแฟรนไชส์
  • การจัดทำสัญญาแฟรนไชส์ รวมถึงเครื่องหมายการค้า

6. การวางแผนเพื่อขยายสาขาธุรกิจแฟรนไชส์

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ เจ้าของแฟรนไชส์จะบริหารจัดการเองทุกอย่าง เพื่อสร้างความโดดเด่น สร้างความเด่นชัดให้แก่นักลงทุน ได้เห็นภาพของร้านที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การลงทุนเปิดสาขาแฟรนไชส์ในภายหลัง
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟนไชส์ คือ เมื่อสาขาแรกมีความแข็งแกร่ง มั่นคง มีผลกำไรต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับของลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ แล้ว ก็ทดลองขยายสาขาเพิ่มอีก เพื่อทดสอบสาขาที่ 2 เป็นอย่างไร โดยนำเอาระบบการปฏิบัติงานทุกอย่างของร้านสาขาแรกมาปฏิบัติ ถ้าประสบความสำเร็จ ก็ค่อยขยายสาขาตัวเองเพิ่มอีก 2-3 สาขา ถ้าประสบความสำเร็จเหมือนสาขาแรก ก็ค่อยคิดขายแฟรนไชส์ให้กับคนอื่น

7. กระบวนการพัฒนาและปรับปรุงระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น (ระบบการบริหารจัดการในร้าน ขั้นตอนการปฏิบัติงาน)วิเคราะห์ระบบการเงิน การลงทุน ในแต่ละสาขาที่เปิดทดลอง
  • พิจารณาปรับปรุงระบบงาน ระบบการทำงานต่างๆ ให้เหมาะสม
  • ระบบการพัฒนาทีมงานรองรับการขยายงาน ขยายสาขา
  • การวางแผนงานขยายสาขาแฟรนไชส์
  • เก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ กลุ่มลูกค้า ผลประกอบการ การดำเนินงาน ของสาขาแรก หรือสาขาต้นแบบ เพื่อนำมาปรับปรุงและพัฒนาให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ก่อนเปิดสาขาที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และขายแฟรนไชส์
  • จัดวางงบประมาณ ค่าธรรมเนียมต่างๆ ในการขยายธุรกิจแฟรนไชส์

8. แผนการตลาดของธุรกิจแฟรนไชส์

  • การจัดทำคู่มือต่างๆ เพื่อแนะนำธุรกิจแฟรนไชส์
  • กระบวนการขายแฟรนไชส์ การคัดเลือกผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • กระบวนการติดตามลูกค้าเป้าหมาย
  • การนำเสนอธุรกิจแฟรนไชส์ในงานแสดงธุรกิจแฟรนไชส์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • การจัดงาน สัมมนาการขายธุรกิจ แฟรนไชส์
  • การเปิดเยี่ยมชมธุรกิจ ร้านต้นแบบแฟรนไชส์
  • กระบวนการคัดเลือกแฟรนไชส์ซีที่เหมาะสม ตามหลักมาตรฐานแฟรนไชส์สากล
  • กระบวนการถ่ายทอดความรู้ การอบรม และให้คำปรึกษาแก่แฟรนไชส์ซี

สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช