ทำไมต้องจดทะเบียนสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า

เครื่องหมายการค้า ถือเป็นทรัพย์สินทางปัญญาที่สำคัญ สามารถสร้างมูลค่าให้กับการประกอบธุรกิจได้มหาศาล แต่ประโยชน์ของเครื่องหมายการค้าจะเกิดขึ้น ก็ต่อเมื่อนำไปใช้ให้ผู้บริโภคได้รู้จักและนิยมใช้สินค้าของคุณ

เมื่อสินค้าเป็นที่รู้จักของผู้บริโภคและจดจำเครื่องหมายการค้านั้นได้ดี โอกาสที่คุณจะขยายธุรกิจออกไปในรูปแบบต่างๆ ก็จะเกิดขึ้นตามมา ระบบการอนุญาตให้คนอื่นใช้เครื่องหมายการค้าของคุณ หรือระบบแฟรนไชส์ จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่น่าสนใจ

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com ขอนำคุณไปทำความรู้จักกับ สัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า ว่ามีความสำคัญต่อระบบแฟรนไชส์อย่างไร และแฟรนไชส์ต้อง จดทะเบียนสัญญา อนุญาตใช้เครื่องหมายการค้า หรือไม่

ความหมายของสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า

จดทะเบียนสัญญา

สัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า คือ หนังสือยินยอมที่เจ้าของเครื่องหมายการค้าที่ได้รับการจดทะเบียนแล้ว อนุญาตให้บุคคลอื่นใช้เครื่องหมายการค้าของตน สำหรับสินค้าที่ได้จดทะเบียนไว้ทั้งหมดหรือบางอย่างก็ได้ โดยมีเงื่อนไขหรือข้อกำหนดในสัญญาที่เจ้าของเครื่องหมายการค้า สามารถควบคุมคุณภาพสินค้าของผู้ได้รับอนุญาตได้อย่างแท้จริง

ต่อไปนี้ เมื่อกล่าวถึงคำว่าการอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า ให้คุณนึกถึงการอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายบริการด้วย ทั้งนี้เพราะผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายนั้น

ตามกฎหมายมีเพียงผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าและผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายบริการเท่านั้น หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า การทำสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายนั้นมีเพียงสองอย่างคือ การทำสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า และการทำสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายบริการ

รูปแบบของสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า

37

1.สัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าโดยไม่เด็ดขาด (non-exclusive licensing agreement)

หมายถึง สัญญาที่เจ้าของเครื่องหมายการค้าอนุญาตให้ผู้อื่นใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้าของตน แต่เจ้าของเครื่องหมายการค้ายังมีสิทธิอนุญาตให้บุคคลอื่นๆ นอกเหนือจากผู้ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิคนก่อนใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้านั้นได้อีก รวมทั้งเจ้าของเครื่องหมายการค้าก็ยังคงมีสิทธิใช้เครื่องหมายการค้านั้นเอง

2.สัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิแต่ผู้เดียว (sole licensing agreement)

หมายถึง สัญญาที่เจ้าของเครื่องหมายการค้าอนุญาตให้ผู้หนึ่งผู้ใดใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้าของตนแต่ผู้เดียวโดยตัดสิทธิเจ้าของเครื่องหมายการค้าที่จะอนุญาตให้บุคคลอื่นๆ ใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้านั้น แต่เจ้าของเครื่องหมายการค้ายังคงมีสิทธิใช้เครื่องหมายการค้านั้นเอง

32

3.สัญญาอนุญาตอนุญาตให้ใช้สิทธิโดยเด็ดขาด (exclusive licensing agreement)

หมายถึง สัญญาที่เจ้าของเครื่องหมายการค้าอนุญาตให้ผู้หนึ่งผู้ใดใช้สิทธิในเครื่องหมายการค้าของตนแต่ผู้เดียวเท่านั้น โดยที่เจ้าของเครื่องหมายการค้าเองก็ไม่มีสิทธิใช้และไม่มีสิทธิอนุญาตให้บุคคลอื่นใช้เครื่องหมายการค้านั้น

โดยเหตุที่กฎหมายเครื่องหมายการค้าได้บัญญัติว่า สัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อนายทะเบียน

ดังนั้น จึงถือว่าเป็นรูปแบบของสัญญาอย่างหนึ่ง ซึ่งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 152 บัญญัติว่า การใดมิได้ทำให้ถูกต้องตามแบบที่กฎหมายบังคับไว้การนั้นเป็นโมฆะ ดังนั้น ถ้าไม่ได้จดทะเบียนสัญญาอนุญาตฯ ต่อนายทะเบียน สัญญาฯ นั้นย่อมตกเป็นโมฆะตามกฎหมาย

33

หากมีผู้อื่นที่มิใช่เจ้าของเครื่องหมายการค้านั้น นำเครื่องหมายการค้าที่ได้รับการจดทะเบียนไว้แล้ว ไปใช้กับสินค้าชนิดเดียวกันหรือมีลักษณะอย่างเดียวกัน ย่อมมีความผิดฐานปลอมหรือแปลงเครื่องหมายการค้าได้

แต่โดยผลการจดทะเบียนสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า ทำให้บุคคลอื่นที่ใช้เครื่องหมายการค้านั้น โดยเจ้าของเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนสัญญาอนุญาตฯ ไว้ จึงสามารถใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าวได้โดยปราศจากความผิดทางอาญาหรือทางแพ่ง

ข้อควรคำนึงในการทำสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า

35

การทำสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า มีลักษณะเหมือนกันกับการทำสัญญาอื่นๆ เพียงแต่โดยลักษณะของการทำสัญญาฯ เป็นการยินยอมให้บุคคลอื่นใช้เครื่องหมาย

โดยได้รับตอบแทนมาในรูปเงินหรือผลประโยชน์อย่างอื่น ซึ่งจะระบุไว้ในสัญญาหรือไม่ ตามกฎหมายและกฎกระทรวงฯ มิได้บังคับว่าคู่สัญญาฯ จะต้องระบุไว้ แต่สิ่งที่คู่สัญญาฯ จะต้องคำนึงไว้ในขณะทำสัญญาอนุญาตฯ มี 3 ประการคือ

  1. ในสัญญาอนุญาตฯ จะต้องระบุสินค้าหรือบริการ ที่จะอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า และโดยปกติก็คือสินค้าหรือบริการที่ได้จดทะเบียนไว้พร้อมกันในวันยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
  2. ในสัญญาอนุญาตฯ จะต้องระบุถึงเงื่อนไขหรือข้อกำหนด ที่ทำให้เจ้าของเครื่องหมายการค้า สามารถควบคุมคุณภาพสินค้าหรือบริการของผู้ได้รับอนุญาตได้อย่างแท้จริง
  3. ในสัญญาอนุญาตฯ จะต้องระบุไว้ด้วยว่า เจ้าของเครื่องหมายการค้ามีสิทธิที่จะอนุญาตให้บุคคลอื่นใด นอกเหนือจากผู้ได้รับอนุญาตนี้ ใช้เครื่องหมายการค้านี้อีกได้หรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อเป็นไปตามที่กฎกระทรวง (พ.ศ.2535) ได้กำหนดไว้

เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ หรือ แฟรนไชส์ซอร์ หากได้ให้แฟรนไชส์ซีใช้เครื่องหมายการค้าแล้ว ถือได้ว่าอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า ดังนั้น ระบบแฟรนไชส์จึงต้องจดทะเบียนสัญญาอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้า อย่าลืมนะครับ


ท่านใดสนใจอยากจดเครื่องหมายการค้าโดยถูกต้องตามหลักกฎหมายแจ้งความประสงค์ได้ที่ 
โทร : 02-1019187, Line : @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3iW0ljD

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช