เจาะกลยุทธ์ เปิดสาขาชนสาขา แย่งลูกค้ากันเอง หรือ เพิ่มยอดขาย?

การตั้งสาขาของธุรกิจเดียวกันในพื้นที่จำกัด หรือที่เรียกว่า cannibalization zones เป็นกลยุทธ์ที่ใช้กันมากในอุตสาหกรรมค้าปลีก เพื่อครองตลาด ป้องกันคู่แข่ง และเพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า แต่ก็อาจนำไปสู่การแย่งลูกค้ากันเองระหว่างสาขา

แต่ในอีกมุมหนึ่งก็เป็นผลดีกับบริษัทแม่ที่จะทำให้มีรายได้เพิ่มจากลูกค้าที่เฉลี่ยเข้าในแต่ละสาขายกตัวอย่างที่เห็นภาพชัดเจนคือ

  • 7-Eleven หากนับเฉพาะในกรุงเทพฯ มีสาขากว่า 6,000 แห่ง เฉพาะย่านสยามสแควร์ในรัศมี 2 กม. มีสาขา 7-Eleven รวมกว่า 100 แห่ง ยอดขายต่อสาขาประมาณ 76,000 บาท/วัน
  • Starbucks มีอยู่ประมาณ 200 สาขาในกรุงเทพฯ หนาแน่นมากสุดคือตามห้าง อย่างที่ Central World มี 5 สาขาในอาคารเดียว ยอดขายเติบโต 12% โดยเฉพาะจากเดลิเวอรี่
  • McDonald’s มีประมาณ 150 สาขาที่อยู่ในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะย่านสีลมมีประมาณ 20 สาขาในรัศมี 5 กม.

ยิ่งมีหลายสาขา ยอดขายโดยรวมของธุรกิจก็ยิ่งเพิ่ม

เจาะกลยุทธ์ เปิดสาขาชนสาขา แย่งลูกค้ากันเอง หรือ เพิ่มยอดขาย?

การเพิ่มสาขาในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่และเพิ่มรายได้มากขึ้นและยังมีอีกหลายปัจจัยที่เป็นด้านบวกได้แก่

  1. เพิ่มการเข้าถึง เพราะสาขาใหม่ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าหรือบริการได้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ยังไม่มีคู่แข่งครอบคลุม
  2. เป็นการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง เนื่องจากการมีสาขาหลายแห่งช่วยเพิ่มการมองเห็น (visibility) และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
  3. กระจายความเสี่ยงได้ดีกว่า เพราะหากสาขาหนึ่งเผชิญปัญหา เช่น เศรษฐกิจในพื้นที่ซบเซา สาขาอื่นยังสามารถทำกำไรได้

ยกตัวอย่าง Starbucks ที่มีสาขากว่า 470 สาขาในประเทศไทยการขยายสาขาในห้างสรรพสินค้าและย่านชุมชน เช่น สยามสแควร์ หรือสุขุมวิท ทำให้ Starbucks สามารถดึงดูดลูกค้าที่ต้องการความสะดวกสบายและเพิ่มโอกาสสร้างลูกค้าใหม่

โดยข้อมูลระบุว่าปี 2567 ที่ผ่านมา Starbucks มีส่วนแบ่งตลาดกาแฟร้านค้าในประเทศไทยถึง 28% อันเป็นผลมาจากการขยายสาขาที่ครอบคลุมพื้นที่หลากหลาย ทำให้ รายได้เฉลี่ยต่อสาขาของ Starbucks ในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 15-20 ล้านบาทต่อปี และการเพิ่มสาขาใหม่ในพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของประชากรสูง เช่น กรุงเทพฯ ทำให้ยอดขายรวมเพิ่มขึ้น 12% อีกด้วย

ประเมินปัจจัยเสี่ยงที่สาขาใกล้กันจะแย่งลูกค้ากันเอง

เจาะกลยุทธ์ เปิดสาขาชนสาขา แย่งลูกค้ากันเอง หรือ เพิ่มยอดขาย?

มุมหนึ่งของการมีสาขามากๆ คือการเพิ่มยอดขายที่มาก แต่ในอีกมุมหนึ่งถ้าสาขาใหม่ตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับสาขาเดิม อาจเกิดการแย่งลูกค้ากันเอง ซึ่งส่งผลให้ยอดขายต่อสาขาลดลง แม้ว่ายอดขายรวมของบริษัทอาจเพิ่มขึ้น สถานการณ์นี้มักเกิดขึ้นเมื่อ

  • สาขาอยู่ใกล้กันเกินไป ลูกค้าเลือกสาขาที่สะดวกกว่าแทนที่จะเพิ่มจำนวนลูกค้าใหม่
  • ความแตกต่างไม่ชัดเจน หากสาขาใหม่ไม่นำเสนอประสบการณ์หรือโปรโมชันที่แตกต่าง ลูกค้าอาจไม่เห็นเหตุผลในการเปลี่ยนสาขา
  • ต้นทุนสูงขึ้น การบริหารจัดการหลายสาขาในพื้นที่เดียวกันอาจเพิ่มค่าใช้จ่าย เช่น ค่าพนักงาน ค่าเช่า โดยที่รายได้ไม่เติบโตตาม

ตัวอย่าง เช่นในย่านสาทรหรือสีลม มีสาขา 7-Eleven ห่างกันไม่ถึง 200 เมตร จากข้อมูลพบว่าในพื้นที่ที่มีสาขาหนาแน่นเกินไป ยอดขายต่อสาขาอาจลดลงเฉลี่ย 8-10% เนื่องจากลูกค้าแบ่งออกไปใช้บริการสาขาอื่นในระยะใกล้เคียง แต่กลับทำให้ยอดขายรวมของ 7-Eleven ในประเทศไทยเพิ่มขึ้น 7% ในช่วงเวลาเดียวกัน เนื่องจากจำนวนสาขาที่เพิ่มขึ้น

เคล็ดลับน่ารู้! การขยายสาขาในพื้นที่เดียวกันให้ได้ประโยชน์สูงสุด

เจาะกลยุทธ์ เปิดสาขาชนสาขา แย่งลูกค้ากันเอง หรือ เพิ่มยอดขาย?

การที่ธุรกิจจะดำเนินกลยุทธ์ด้านการตลาดโดยวิธีเปิดสาขาใกล้กัน ซึ่งจะช่วยป้องกันคู่แข่งและเพิ่มยอดขายได้จริงหรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยดังนี้

  1. การเลือกทำเล ต้องวิเคราะห์ความหนาแน่นของประชากรและพฤติกรรมลูกค้า เช่น การตั้งสาขาในย่านที่มีนักท่องเที่ยวหรือพนักงานออฟฟิศจำนวนมากมักได้ผลดี
  2. การตลาดแบบ Micro Market หมายถึง “ตลาดย่อยเฉพาะพื้นที่หรือกลุ่มลูกค้าเฉพาะเจาะจง” เป็นแนวคิดที่ธุรกิจใหญ่ ใช้เพื่อเข้าใจความแตกต่างของลูกค้าแต่ละทำเล แล้วปรับสินค้าและบริการให้ตรงใจที่สุด เช่น Starbucks Reserve หรือ 7-Eleven ที่บางสาขามีพื้นที่นั่งกินอาหาร เป็นต้น
  3. การบริหารต้นทุน การตั้งสาขาใกล้กันอาจเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายมากขึ้น เช่น ค่าเช่าและพนักงาน ซึ่งธุรกิจต้องมั่นใจว่ารายได้ที่เพิ่มขึ้นคุ้มค่ากับต้นทุน

ทั้งนี้การตั้งสาขาใกล้กันสามารถป้องกันคู่แข่งและเพิ่มยอดขายได้จริง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความหนาแน่นของลูกค้าสูงและมีการวางแผนที่ดี

ตัวอย่างเช่น 7-Eleven และ Starbucks แสดงให้เห็นว่ากลยุทธ์นี้ช่วยครองตลาดและเพิ่มรายได้รวมมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากการแย่งลูกค้ากันเองและต้นทุนที่สูงขึ้นต้องได้รับการจัดการอย่างรอบคอบ ธุรกิจควรใช้ข้อมูลวิเคราะห์ทำเลและสร้างความแตกต่างให้แต่ละสาขาเพื่อให้กลยุทธ์นี้ประสบความสำเร็จ – https://www.thaifranchisecenter.com/document/show.php?docuID=9047

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช