รวมทายาทแบรนด์ดังทำ TikTok ต่อยอดธุรกิจ

การทำธุรกิจในยุคนี้ต้องเข้าหาลูกค้ามากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีหลายแพลตฟอร์มที่นำมาใช้ในด้านการตลาด โดยเฉพาะ TikTok ที่มาแรงมากข้อมูลระบุว่าในปีที่ผ่านมามีอัตราเติบโตสูงสุด 11% ด้วยมูลค่า 3,647 ล้านบาท และมีตัวเลขน่าสนใจดังนี้

  • จำนวนผู้ใช้งาน TikTok ในประเทศไทยมีประมาณ 57.5 ล้านคน
  • จำนวนผู้ใช้งาน TikTok แบ่งเป็นผู้ชาย 48% และ ผู้หญิง 52%
  • ผู้ใช้งาน TikTok ส่วนใหญ่อายุอยู่ระหว่าง 25-34 ปี คิดเป็น 36% ของผู้ใช้งานทั้งหมด

ถ้าดูในเชิงการตลาดร่วมด้วยจะพบว่า TikTok มีอิทธิพลต่อการรับรู้และมีผลต่อการตัดสินใจของคนยุคนี้มาก ดูได้จากข้อมูลดังนี้

  • 75% ของผู้ใช้มองว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่ทรงอิทธิพลที่สุดสำหรับผู้บริโภคไทย
  • 60% ของผู้บริโภคระบุว่า “คอนเทนต์รีวิว” มีผลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้า
  • 56% ของผู้ใช้ ตัดสินใจซื้อ โดยไม่เปรียบเทียบราคากับแพลตฟอร์มอื่น

เมื่อเห็นตัวเลขที่มาแรงแบบนี้จึงไม่น่าแปลกใจที่ธุรกิจจะหันมาทุ่มเทการตลาดผ่าน TikTok โดยเฉพาะบรรดาเจ้าของกิจการรุ่นใหม่ ที่มีแนวคิดและไอเดียแบบคนรุ่นใหม่ ต้องการสร้าง personal branding สร้างตัวตน ใส่ความเป็นตัวเอง และสไตล์เข้าไป เพื่อให้แบรนด์สินค้าเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น ซึ่งก็มีหลายแบรนด์น่าสนใจ ได้แก่

1.ตราเด็กสมบูรณ์

รวมทายาทแบรนด์ดังทำ TikTok
ภาพจาก www.facebook.com/Deksomboon.FanPage

หนึ่งในผู้นำในตลาดเครื่องปรุงรสของไทยมากว่า 76 ปี จุดเด่นที่คนรู้จักคือโลโก้เด็กอ้วนบนขวดซีอิ๊วที่เป็นรูปวาดจากจิตรกรชาวจีน ตั้งแต่สมัยที่ยังไม่มีคอมพิวเตอร์หรือ AI ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเป็นธุรกิจที่มีการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ทั้งการต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ การขยายฐานลูกค้าสู่คนรุ่นใหม่ เป็นต้น

หนึ่งในการตลาดที่ผู้บริหารรุ่นใหม่อย่างคุณวสุพล ตั้งสมบัติวิสิทธิ์ ผู้จัดการใหญ่ฝ่ายการตลาดและฝ่ายขายในประเทศ บริษัทหยั่นหว่อหยุ่นคอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด นำมาใช้คือการนำเสนอคอนเทนต์อาหารไทยในช่อง TikTok เน้นการใช้ผลิตภัณฑ์ของตราเด็กสมบูรณ์เป็นส่วนผสมในทุกเมนูอาหาร นับถึงตอนนี้มีผู้ติดตามมากกว่า2.3 แสนคน และมีคนกดถูกใจกว่า 5.7 ล้านครั้ง

2.โรงแรมอลิซาเบธ

ภาพจาก https://bit.ly/3Zh9sUe

อลิซาเบธเป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว ขนาด 272 ห้อง ในย่านประดิพัทธ์ เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2534 ที่ผ่านมาไม่เคยมีการทำประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อโฆษณาใด ๆ เน้นการทำตลาดโดยอาศัยพนักงานขาย มีลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวไทย การจัดประชุม สัมมนา และงานแต่งงานเป็นหลัก

กระทั่งคุณ สุรกิจ เมธานุกิจ กรรมการผู้จัดการโรงแรมอลิซาเบธ ได้เข้ามารับไม้ต่อในการบริหารโรงแรมจากรุ่นพ่อแม่ และหันมาเน้นการตลาดใน TikTok เรื่องที่เด่นมากและทำให้โรงแรมกลายเป็นไวรัลจนลูกค้ามากขึ้น คือการเล่าประวัติราดหน้าโรงแรมอลิซาเบธ นับถึงตอนนี้กลายเป็น TikTok ที่มีคนติดตามมากกว่า 1.4 แสนคน ยอดคนกดไลน์สูงกว่า 6 ล้านครั้ง และทำให้โรงแรมกลายเป็นที่รู้จักมากขึ้น

3.ปฏิทินจีนน่ำเอี้ยง

รวมทายาทแบรนด์ดังทำ TikTok
ภาพจาก www.facebook.com/numeiang

เป็นปฏิทินจีนที่เปิดตัวครั้งแรกในเมืองไทยปี 2518 เพื่อแจกจ่ายให้กับชาวไทยเชื้อสายจีน เพื่อไว้ดูฤกษ์งามยามมงคลในการประกอบกิจต่างๆ ถือเป็นอีกธุรกิจที่ท้าทายความสามารถผู้บริหารในการรักษาธุรกิจนี้ให้คงอยู่ ยิ่งปัจจุบันเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าคนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจในการใช้ปฏิทินสักเท่าไหร่

ด้วยเหตุนี้ คุณกิตติรัช นำพิทักษ์ชัยกุล ทายาทรุ่นใหม่ที่รับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทน่ำเอี้ยง กรุ๊ป จำกัด จึงพัฒนาการตลาดที่หลากหลายให้เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้มากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ TikTok ช่อง numeiang โหราศาสตร์น่ำเอี๊ยง ที่มาพูดถึงเรื่องโหราศาสตร์จีนในมุมมองที่เข้าใจง่าย และกลายเป็นช่องที่ได้รับความนิยมมากมีผู้ติดตามกว่า 1.09 แสนคน และมีคนกดถูกใจกว่า 44,000 ครั้ง

4.ร้านอาหารฮั่วเซ่งฮง

รวมทายาทแบรนด์ดังทำ TikTok
ภาพจาก www.huasenghong.com

ฮั่วเซ่งฮง เป็นร้านอาหารจีนที่มีประวัติยาวนาน เปิดร้านครั้งแรกในย่านเยาวราชเมื่อปี 2510 ฮั่วเซ่งฮง ในภาษาจีนหมายถึง ความรุ่งเรื่อง ความเฟื่องฟู ในปี 2514 ฮั่วเซ่งฮง ได้พัฒนาปรับเปลี่ยนรูปแบบของร้านให้ดูหลากหลายและมีความทันสมัยมากขึ้น และเริ่มเปลี่ยนเป็นภัตตาคารอาหารจีนที่จนเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ มีหลายสาขาในเมืองไทย

อย่างไรก็ดีธุรกิจอาหารที่การแข่งขันสูง คุณเจสและคุณแพน ซึ่งเป็นทายาทผู้บริหารของร้าน ฮั่วเซ่งฮง จึงได้ทำการตลาดผ่าน TikTok เพื่อสื่อสารกับกลุ่ม Gen Z มากขึ้น เนื้อหาภายในช่องเน้นนำเสนอบรรยากาศร้าน เมนูที่หลากหลาย ปัจจุบันมีผู้ติดตามกว่า 2.4 หมื่นคน และคนกดถูกใจกว่า 1.3 หมื่นครั้ง

5.สมุนไพรสุภาภรณ์

รวมทายาทแบรนด์ดังทำ TikTok
ภาพจาก www.facebook.com/Spp.herb

จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ในร้านซาลอนห้องแถวย่านตลาดพลู เริ่มต้นผลิตสินค้าแรกๆคือสมุนไพรขัดหน้าสุภาภรณ์ ที่ยังไม่มีโลโก้และไม่เป็นที่รู้จัก กระทั่งมีสินค้าสร้างชื่อคือ “ขิงผง สุภาภรณ์” ที่ขายดีมากเป็นจุดเปลี่ยนนำมาสู่การก่อตั้งบริษัทสยามเซฟเวย์เทรดดิ้ง จำกัด ก่อนจะเริ่มขยายธุรกิจใหญ่ขึ้นและมีอีกหลายบริษัทในเครือ

อย่างไรก็ดีปัจจุบันนี้การแข่งขันสูงมากสินค้าสมุนไพรก็จำเป็นต้องสื่อสารให้คนรุ่นใหม่รู้จักมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ คุณ ไอศอร สุขตลอดชีพ ที่เป็นทายาทรุ่นใหม่จึงได้ทำการตลาดในช่อง TiKTok เน้นการนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของสุภาภรณ์ วิธีการใช้ สรรพคุณและผลรับที่ได้ กลายเป็นอีกช่องที่ได้รับความนิยมมากมีผู้ติดตามกว่า 27400 คน และคนกดถูกใจกว่า 30000 ครั้ง

นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายแบรนด์ที่ทายาทรุ่นใหม่หันมาใช้ TikTok เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าเช่น ช่อง #beautygems ของคุณ สิริน ศรีอรทัยกุล ทายาทรุ่นที่ 4 ของอาณาจักรบิวตี้เจมส์ ที่ต้องการขับเคลื่อนธุรกิจ ให้พร้อมเผชิญกับโลกแห่งความเปลี่ยนแปลงของยุคนี้

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด