ซูกิชิ โคเรียน ชาร์โคล กริล ร้านปิ้งย่างสไตล์เกาหลี-ญี่ปุ่น! ระบบสนับสนุนพร้อมเปิดร้าน ธุรกิจในเครือของ “ซูกิชิ”

“ร้านปิ้งย่าง” เป็นอีกธุรกิจที่ยังเติบโตได้อีกมาก ถ้าดูจากมูลค่าตลาดร้านอาหารในปี 2568 คาดว่าจะมีมูลค่า 572,000 ล้านบาท หรือถ้าโฟกัสเฉพาะร้านปิ้งย่าง ก็มีมูลค่าประมาณ 9,000 ล้านบาท ถึงแม้ความต้องการสินค้าจะมาก แต่การแข่งขันก็สูง

ซูกิชิ โคเรียน ชาร์โคล กริล

หากเริ่มต้นด้วยตัวเอง ต้องสร้างแบรนด์ใหม่ ยุคนี้อาจไม่ทันกับคู่แข่งที่มีฐานลูกค้าตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้นการลงทุนในระบบแฟรนไชส์คือทางลัดสู่ความสำเร็จที่เร็วที่สุด และถ้าจะให้ดีควรเลือกแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและมีความน่าเชื่อถือจะยิ่งเพิ่มโอกาสในการลงทุนที่คุ้มค่ามากขึ้น

วิเคราะห์ตลาด “ปิ้งย่าง” ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจเติบโต

ซูกิชิ โคเรียน ชาร์โคล กริล ร้านปิ้งย่างสไตล์เกาหลี-ญี่ปุ่น
ภาพจาก แฟรนไชส์ซูกิชิ โคเรียน ชาร์โคล กริล
1.สินค้าฮิตไม่มีตกเทรนด์

คำว่า “ร้านอาหารเกาหลี – ญี่ปุ่น” มีเสน่ห์ในทุกยุคสมัย ยิ่งกระแสโซเชี่ยลมาแรงเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้สินค้ากลุ่มนี้ดูมีความน่าสนใจมากขึ้น การทำธุรกิจนี้ให้สำเร็จจึงขึ้นอยู่กับคุณภาพสินค้า + บริการ + ระบบบริหารร้านที่มีประสิทธิภาพ

2.เทรนด์สะดวกกำลังมาแรง

หนึ่งในปัจจัยสู่ความสำเร็จของธุรกิจนี้คือตอบโจทย์เทรนด์สะดวกได้เป็นอย่างดี ลูกค้าอิ่มอร่อยกับเมนูคุณภาพที่จัดเตรียมมาอย่างดีมีทั้งที่ย่างเองหรือบางร้านก็มีบริการย่างให้ลูกค้าด้วย

3.ทำเลดียอดขายก็ยิ่งดี

เป็นเคล็ดลับที่สำคัญมาก การเริ่มต้นในธุรกิจนี้หลายแบรนด์เลือกโฟกัสทำเลที่มีประสิทธิภาพเช่นตามห้างสรรพสินค้าหรือว่าในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว หรือตามจังหวัดใหญ่ๆ ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าจำนวนมาก โอกาสเพิ่มยอดขายก็มากด้วยเช่นกัน

ซูกิชิ โคเรียน ชาร์โคล กริล น่าสนใจอย่างไร? ทำไมควรเลือกลงทุน

ซูกิชิ โคเรียน ชาร์โคล กริล ร้านปิ้งย่างสไตล์เกาหลี-ญี่ปุ่น
ภาพจาก แฟรนไชส์ซูกิชิ โคเรียน ชาร์โคล กริล

โดย ซูกิชิ โคเรียน ชาร์โคล กริล ถือเป็นแบรนด์ร้านอาหารสไตล์เกาหลี – ญี่ปุ่น บริหารงานโดย บริษัท ซูกิชิ อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ก่อตั้งมานานกว่า 24 ปี

ปัจจุบันมี 6 ธุรกิจในเครือได้แก่ Sukishi Korean Charcoal Grill , Woogogi , Wawacha , Suki King , BAR B Q KING และ Bogeul Bogrill

หากวิเคราะห์ถึงความน่าสนใจในส่วนของ ซูกิชิ โคเรียน ชาร์โคล กริล ร้านปิ้งย่างสไตล์เกาหลี-ญี่ปุ่น พบว่ามีจุดเด่นได้แก่

  1. เป็นธุรกิจที่มีภาพลักษณ์แข็งแกร่ง เป็นที่ยอมรับในประเทศไทย ปัจจุบันมี 43 สาขาทั่วประเทศ
  2. เป็นธุรกิจที่ Brand Loyalty สูงและมีการขยายสาขาไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
  3. เน้นคัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมี่ยม เช่น เนื้อวัวลายหินอ่อน , กิมจิสูตรท้องถิ่นจากเกาหลี เป็นต้น
  4. ธุรกิจที่มีเอกลักษณ์ใช้เตาถ่านชาร์โคลช่วยเพิ่มกลิ่นหอมและรสชาติ
  5. บรรยากาศร้าน + บริการร้านที่สร้างความเป็น First Impression ได้อย่างดี
  6. มีความยืดหยุ่นในรูปแบบการให้บริการ มีทั้งแบบบุฟเฟต์ และ A La Carte
  7. ธุรกิจที่เข้าถึงลูกค้าได้หลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่วัยรุ่น ครอบครัว ไปจนถึงนักท่องเที่ยว
  8. มีระบบครัวกลาง ที่ลงทุนมูลค่าราว 1,000 ล้านบาท ช่วยควบคุมคุณภาพและระบบ Supply Chain
  9. เป็นธุรกิจที่สร้าง Cash Return ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  10. ระบบแฟรนไชส์ครบวงจรที่พร้อมสนับสนุนผู้สนใจลงทุนให้เริ่มธุรกิจได้ทันที

แนวคิดของ ซูกิชิ โคเรียน ชาร์โคล กริล คือการนำหัวใจสำคัญของอาหาร ญี่ปุ่นและเกาหลีมารวมกันไว้ในร้านเดียว คือ “ความเป็นอยู่ที่ดี และ การมีสุขภาพชีวิตที่ยืนยาว”

ดังนั้นร้าน ซูกิชิ โคเรียน ชาร์โคล กริล จึงไม่ได้เน้นแค่เรื่องรสชาติ แต่ยังเป็นธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพของลูกค้าเป็นสำคัญด้วย

ค่าแฟรนไชส์ 1 ล้านบาท! โอกาสคืนทุน 46 เดือน

ภาพจาก แฟรนไชส์ซูกิชิ โคเรียน ชาร์โคล กริล

ในส่วนของผู้สนใจลงทุนกับ ซูกิชิ โคเรียน ชาร์โคล กริล ร้านปิ้งย่างสไตล์เกาหลี-ญี่ปุ่น ค่าแฟรนไชส์ 1 ล้านบาท งบในการลงทุน 12.5 ล้านบาทสิ่งที่จะได้รับคือ

  • ให้คำปรึกษาในเรื่องของ Locations คำนวน Feasibility ก่อนการลงทุน และประสานงานกับ Landlord ทั้งก่อนและหลังเปิดการขาย
  • สรรหาบุคลากรให้จนครบตามมาตรฐานของสาขาก่อนเปิดสาขา และ ให้คำปรึกษาเรื่องบุคลากรหลังเปิดสาขา
  • จัดให้มีการฝึกอบรมทั้งก่อน และ หลังเปิดสาขา เพื่อให้มั่นใจว่าพนักงานสามารถทำงานตามมาตรฐานของบริษัทแม่ได้
  • ทีมงานให้คำปรึกษาเรื่องการบริหารร้านตลอดอายุสัญญา
  • มีทีมงานให้คำปรึกษา และคอยประสานงานกับ Landlord ตลอดอายุสัญญา
  • มีทีมงานให้คำปรึกษาเรื่องบุคลากรตลอดอายุสัญญา
  • มีทีมงานตรวจมาตรฐานสาขาและให้คำปรึกษางานในส่วน ฯหน้าร้านตลอดอายุสัญญา
ภาพจาก แฟรนไชส์ซูกิชิ โคเรียน ชาร์โคล กริล

อย่างไรก็ดีสำหรับคนที่อยากลงทุนอาจต้องการเห็นรายละเอียดในส่วนของตัวเลขว่ามีโอกาสคืนทุนได้เร็วแค่ไหน ในที่นี้เราจึงได้คำนวณให้เห็นภาพในเบื้องต้นโดยใช้เกณฑ์ลูกค้าเฉลี่ย 100 คน/วัน, ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 600 บาท/คน

  • รายได้ต่อวัน = 100 x 600 = 60,000 บาท
  • รายได้ต่อเดือน = 60,000 x 30 = 1,800,000 บาท
  • หักต้นทุน (วัตถุดิบ 48%, ค่าเช่าและพนักงาน 30%) = 1,800,000 x 0.22 = 396,000 บาท (กำไรสุทธิต่อเดือน)
  • คืนทุนใน 12.5 ล้าน ÷ 396,000 ≈ 31 เดือน (กรณีบริหารจัดการทั่วไป)

หากอยู่ในทำเลดีและมีลูกค้ามากขึ้น (เช่น 150-200 คน/วัน) ระยะเวลาคืนทุนอาจลดลงเหลือ 16-21 เดือน

ภาพจาก แฟรนไชส์ซูกิชิ โคเรียน ชาร์โคล กริล

นอกจากนี้ กิชิ โคเรียน ชาร์โคล กริล เป็นธุรกิจที่พร้อมสร้าง Cash Return ได้เป็นอย่างดี ซึ่งการที่ธุรกิจมี เงินหมุนเวียน (กระแสเงินสด) รายเดือนช่วยให้ธุรกิจมีสภาพคล่อง และเป็นโอกาสสำคัญที่จะต่อยอดการทำธุรกิจอื่นๆ ได้มากขึ้น

เป้าหมายของ “ซูกิชิ” เน้นคุณภาพ+สร้างธุรกิจรายได้สุดคุ้ม

ภาพจาก แฟรนไชส์ซูกิชิ โคเรียน ชาร์โคล กริล

ด้วยความเป็นผู้นำในตลาดอาหารปิ้งย่างที่มีฐานลูกค้าทั่วประเทศ ซูกิชิ ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนผู้ลงทุนที่ต้องมีโอกาสสร้างรายได้สุดค้ม ควบคู่กับคุณภาพและบริการที่ดี

โดยมีทีมงานสนับสนุนเรื่องทำเล, การก่อสร้าง, การอบรมบุคลากร, การตรวจคุณภาพ และการตลาดตามมาตรฐานสากล ให้ทุกสาขาเป็นมาตรฐานเดียวกัน

ตอกย้ำคุณภาพที่แข็งแกรงและความเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือด้วยรางวัลแฟรนไชส์ไทยขนาดใหญ่ยอดเยี่ยม จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์

ภาพจาก แฟรนไชส์ซูกิชิ โคเรียน ชาร์โคล กริล

และนี่คืออีกหนึ่งแบรนด์แฟรนไชส์ที่เน้นคุณภาพ+ระบบแฟรนไชส์ที่พร้อมให้คนสนใจเริ่มต้นได้ทันที ด้วยความเป็นแบรนด์ระดับประเทศที่มุ่งมั่นและพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง

การลงทุนกับซูกิชิ โคเรียน ชาร์โคล กริล การันตีได้ว่าคุ้มค่าและสร้างรายได้เกินคุ้มให้ผู้ลงทุนได้อย่างแน่นอน สำหรับผู้สนใจลงทุนสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมจากทางแฟรนไชส์ได้

 

ซูกิชิ โคเรียน ชาร์โคล กริล
สนใจลงทุน คลิก
https://citly.me/0Bxpo
โทร. 092-2810851, 092-2810931, 063-2621755

 

สุดยอดแฟรนไชส์ ปี 2568

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด