8 วิธี Landlord เปลี่ยนพื้นที่ว่าง มาสร้างรายได้

หากคุณมีพื้นที่ว่าง ไม่ว่าจะเป็นที่ดินเปล่า บ้าน อาคารพาณิชย์ ฯลฯ ยังไม่อยากขาย แต่ไม่ได้ใช้งานอะไร วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มีไอเดียหรือเคล็ดดีๆ

สำหรับการเปลี่ยนพื้นที่ว่างเปล่าเหล่านั้นให้สามารถทำเงิน สร้างรายได้ สร้างกำไร แบบระยะยาวได้ง่ายๆ มาดูกันว่าวิธีการเปลี่ยนพื้นที่ว่างเปล่า ทำเงินทำอย่างไร

1.ที่จอดรถ

เปลี่ยนพื้นที่ว่าง

พื้นที่ควรมีตั้งแต่ 100 ตารางวาเป็นต้นไป (บางที่ก็ไม่ถึง 100 ตารางวา ก็สามารถปรับมาเป็นที่จอดรถมอเตอร์ไซต์ก็ได้) ลงทุนแค่เพียงปรับพื้นที่ให้เสมอกัน และลงหิน เพื่อเวลาจอดรถจะได้ไม่เป็นดินเละ และทำป้อมสำหรับคนเฝ้าเก็บเงิน เท่านี้ก็สามารถปล่อยให้คนมาเหมาช่วงต่อทำธุรกิจรับฝากรถได้

โดยไม่ต้องลงไปดูแลเอง หรือหากใครอยากจะทำเองเลยก็ได้ เพียงแต่ต้องหาคนมาเฝ้าดูแลเก็บค่าบริการสัก 1-2 คน เพราะสมัยนี้ที่จอดรถหายากเหลือเกิน เวลาจะไปไหนมาไหนก็คิดหนัก บางคนยอมจอดรถไว้ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าต่างๆ แล้วขึ้นบีทีเอส, ใต้ดิน, แอร์พอตลิ้งค์ ไปทำงาน

ยิ่งหากมีทำเลในเมืองใกล้กับแหล่งคนทำงาน แหล่งที่มีอพาร์ทเม้นเยอะๆ หรือทำเลที่เดินทางโดยรถสาธารณะต่อไปได้สะดวกก็ยิ่งดี ยกตัวอย่างเช่น พื้นที่หนึ่งย่านสาทร ขนาด 200-300 ตารางวา ราคาที่ดินร้อยกว่าล้าน เจ้าของเองไม่อยากขาย แล้วก็ไม่อยากทำอะไร เพราะไม่ได้เดือดร้อนเงิน แต่แถวนั้นออฟฟิศเยอะมาก ที่จอดรถที่มีอยู่แล้วก็แพงชั่วโมงละ 50 ขึ้นไป

มีคนติดต่อเจ้าของที่ดิน ขอเช่าทำเป็นที่จอดรถ ซึ่งสามารถจอดได้ 80 คัน ราคาเหมารายเดือน 2,000 บาท กับรายชั่วโมง ลองคำนวณดูว่า หากมีรถที่เหมาจอดประจำ 40 คัน ก็รับไปเลยเดือนละ 80,000 บาท แถมยังมีรายชั่วโมงอีกตลอดทั้งวัน ลงทุนน้อยแต่กำไรไม่ธรรมดา

2.ตลาดนัด

31

ต้องดูทำเลเป็นอันดับแรกว่าเหมาะกับการทำอะไรระหว่างที่จอดรถกับตลาดนัด การลงทุนใช้เงินมากกว่าที่จอดรถ เพราะนอกจากจะต้องปรับพื้นที่ ก็จะต้องมีการเช่าเต้นท์ ค่าจ้างคนดูแลจัดการตลาดนัด คนทำความสะอาด รปภ. ยกตัวอย่างเช่น ที่ดินว่างย่านรัชดา พื้นที่ประมาณ 300 ตารางวา บริเวณนั้นล้อมรอบไปด้วยอพาร์ทเม้น ชุมชนที่มีคนอาศัยหนาแน่น

ค่าเช่าพื้นที่นี้อยู่ที่ 20,000 บาท/เดือน เมื่อซอยพื้นที่แพงเช่าก็ได้ถึง 70 แผง เก็บค่าเช่าวันละ 50 บาท (50x70x30 = 105,000/เดือน) หากจะดูว่าคุ้มค่าหรือไม่ก็ลองเอาเงินต้นทุนที่ต้องลงทั้งหมดมาคำนวณเป็นเวลา 3 ปีว่าจะคุ้มทุนหรือไม่

3.Boutique Hotel

37

ภาพจาก https://bit.ly/2Ne6D20

สิ่งสำคัญที่สุด คือ ความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แตกต่างจากที่อื่นในโลกออนไลน์ เพราะส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวที่เลือกมาพัก Boutique Hotel เพราะสตอรี่ของที่พักมากกว่าทำเลเสียอีก ฉะนั้นหน้าตาของเว็บไซต์ หรือหน้าเพจของที่พัก

เปรียบเสมือนด่านแรกที่คนจะเห็น จะต้องสวย หรือน่าสนใจมีเอกลักษณ์ ที่สำคัญ คือ คอมเมนต์จากผู้ที่เคยเข้าพักจริง ซึ่งการทำลักษณะนี้จะต้องมีการบริหารจัดการที่ดีมากกว่าแบบอื่นๆ แต่หากทำได้คุณก็จะมีชื่อเสียง และมีลูกค้าในระยะยาว

4.Air BNB (BNB = Bed and Breakfast)

36

ภาพจาก https://th.airbnb.com

มีต้นกำเนิดจากยุโรป คือการเปิดห้อง หรือบ้านให้นักท่องเที่ยวมาเช่าอยู่ ส่วนมากนักท่องเที่ยวที่เลือกพักในลักษณะแบบนี้ เพราะไม่อยากนอนโรงแรม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลที่ราคาแพงกว่า ต้องการความเป็นบ้านมากกว่า หรือต้องการความแปลกใหม่ เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละที่มากกว่า ต้องการซึมซับวัฒนธรรมความเป็นอยู่ของแต่ละท้องถิ่นจริงๆ ฯลฯ

ไม่ว่าเหตุผลอะไรก็ตามตอนนี้กำลังได้รับความนิยมมากโดยเฉพาะคนจากแถบยุโรป แค่เข้าไปลงที่พักของคุณในเว็บ www.airbnb.com และยังมีแอพพลิเคชันบนมือถือ ทั้ง iOS และ Android อีกด้วย

5.Co-working Space

35

ภาพจาก https://bit.ly/2ZfjiIk

พื้นที่สำหรับคนทำงานแบบ Freelance และกลุ่ม Startup ที่ในปัจจุบันมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ประกอบกับระยะหลังแทบไม่มีอาคารที่ให้เช่าทำออฟฟิศเปิดใหม่ เพราะนิยมสร้างคอนโดที่สามารถได้ราคาต่อตารางเมตรได้สูงกว่า การทำพื้นที่เปิดให้เช่าเป็นออฟฟิศขนาดย่อมไม่ว่าจะคิดเป็นรายเดือน หรือ รายชั่วโมง

สิ่งสำคัญ คือ การออกแบบให้มีความทันสมัย แสดงถึงความเป็นคนรุ่นใหม่ เรียบง่าย แต่ดูดี น่านั่งทำงาน อาจจะมีอุปกรณ์การทำงานมาให้ด้วย เช่น เครื่องปริ๊น เครื่องถ่ายเอกสาร ไวไฟที่มีความเร็วสูง ปลั๊กไฟ อาจจะแบ่งเป็นห้องประชุมเล็กๆ ไว้ด้วย ส่วนมากจะอยู่ในพื้นที่เดินทางสะดวก มีที่จอดรถ แต่ข้อควรระวังของการทำแบบนี้ คือ ต้นทุนที่ลงไปกับการออกแบบ ดีไซน์ และสิ่งอำนวยความสะดวกภายใน ที่อาจสูงมากไปจนจุดคุ้มทุนอยู่ที่หลายปีเลยทีเดียว

6.ป้ายโฆษณา

34

ภาพจาก https://bit.ly/2H8xSXZ

อาจเรียกได้ว่าเป็นเสือนอนกินเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะหากอยู่นทำเลที่ดี คนสามารถมองเห็นได้มาก ไม่ว่าจะเป็นป้ายไวนิลหน้าอาคาร หรือป้ายโครงเหล็กบนดาดฟ้า อาจจะให้คนที่ทำธุรกิจป้ายโฆษณามาเช่า

โดยเขาจะลงทุนทำโครงเองเพื่อรองรับป้าย แล้วใครอยากลงโฆษณาก็จะติดต่อมาวางป้ายอีกที ยกตัวอย่างเช่น ปล่อยให้เช่าอาคารพาณิชย์ 12,000 บาท/เดือน (ราคาปกติทั่วไป) เพิ่มพื้นที่โฆษณาให้เช่าบนตึกอีก 10,000 บาท/เดือน สรุปคือมีรายได้ 22,000 บาท/เดือน

7.ตู้ ATM

32

หากคุณมีพื้นที่ซึ่งมีคนผ่านไปผ่านมาค่อนข้างมาก อยู่ในชุมชน แหล่งออฟฟิศ โรงเรียน สถานที่ราชการ มหาวิทยาลัย หอพัก จุดเชื่อมต่อการเดินทาง ฯลฯ ทางธนาคารจะยินดีในการจ่ายเงินค่าเช่า ค่าไฟที่ต้องเปิดตลอด 24 ชม.ให้คุณ

หากใกล้ๆกันแถวนั้นมีตู้อยู่แล้วก็ยิ่งดีในการเพิ่มตู้ของธนาคารอื่นที่ยังไม่มี ใช้พื้นที่แค่ไม่เกิน 2 ตารางเมตรเท่านั้น โดยที่คุณไม่ต้องทำอะไรเลย

8.เสาโทรศัพท์ เสาอินเตอร์เน็ต

33

ภาพจาก https://bit.ly/2z97EQI

เหมาะสำหรับอาคารที่สูงตั้งแต่ 6 ชั้นขึ้นไป ให้ดูว่าบริเวณนั้นมีสัญญาณโทรศัพท์เครือข่ายไหนที่อ่อน ก็มีโอกาสติดต่อเครือข่ายนั้นๆ ได้มากขึ้น และในรัศมี 500 เมตร – 1 กิโลเมตร จากอาคารของคุณ ให้ดูว่ามีสัญญาณของเครือข่ายไหนบ้างที่ยังไม่มี

ค่าเช่าวางเสาบนอาคารขึ้นอยู่กับพื้นที่และจังหวัด โดยกรุงเทพฯ ปริมณฑล อยู่ที่ 180,000-200,000 บาท/ปี ต่างจังหวัดอยู่ที่ 80,000-100,000 บาท/ปี โดยมีสัญญาต่อทุก 3 ปี (3+3+3) ปรับค่าเช่าขึ้น 5-10% ทุก 3 ปี

ทั้งหมดเป็น 8 วิธีในการเปลี่ยนพื้นที่ว่างเปล่า มาสร้างรายได้ ใครที่มีพื้นที่ว่างเปล่า ก็สามารถเพิ่มไอเดียในการสร้างรายได้ ดีกว่าปล่อยให้พื้นที่ว่างเปล่าเหล่านั้น ไม่ได้ใช้ประโยชน์ใดๆ ซึ่งแต่ละวิธีนั้นทำได้ไม่ยาก ลองลงมือทำได้เลย กำไรอื้อแน่นอน


ติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

01

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/document
เลือกซื้อแฟรนไชส์ไทยขายดี เปิดร้าน www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

SMEs Tips

  1. ที่จอดรถ
  2. ตลาดนัด
  3. Boutique Hotel
  4. Air BNB (BNB = Bed and Breakfast)
  5. Co-working Space
  6. ป้ายโฆษณา
  7. ตู้ ATM
  8. เสาโทรศัพท์ เสาอินเตอร์เน็ต

แหล่งข้อมูลบทความจาก https://bit.ly/35QGNsS

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช