7 วิธีใช้ EQ ในการพัฒนาธุรกิจ

การแข่งขันเชิงธุรกิจเราต่างมุ่งหวังที่จะอยู่เหนือคู่แข่งด้วยสารพัดวิธีต่าง ๆ การทำธุรกิจทุกคนคิดถึงสิ่งเดียวคือคำว่ากำไร ทั้งนี้การเข้าถึงเป้าหมายที่ตั้งใจนั้นทางการตลาดก็มีหลากหลายกลยุทธ์ที่เจ้าของกิจการต่างก็เรียนรู้กันมามากมาย

แต่สิ่งที่ทุกคนแทบจะมองข้ามนั้นคือเรื่องของวุฒิภาวะทางอารมณ์หรือ EQ (Emotional Quotient)เสาหลักของ EQ มี 4 อย่างคือ การรู้จักตัวเอง การควบคุมตัวเองได้ รู้มารยาทสังคม และสร้างสัมพันธ์ที่ดีเป็น พูดง่าย ๆ ลักษณะของผู้ที่มีอีคิวสูงคือทำให้คนอยากอยู่ใกล้ อยู่ด้วยแล้วสบายใจ

ซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com มองว่าอีคิวนั้นมีพลังเกินกว่าจะเป็นแค่เขาพูดที่สวยงามแต่ในทางปฏิบัติหากนำมาใช้ร่วมกับการทำธุรกิจได้จะเสริมความแข็งแกร่งและเติบโตได้เป็นอย่างดีเช่นกัน

วิธีใช้ EQ

1.ทำธุรกิจต้องไม่รีบร้อน

ไม่รีบร้อนในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเอื่อยเฉื่อยจนไม่ทันคู่แข่ง ในความหมายของ EQ การไม่รีบร้อนคือการไม่ผลีผลามตัดสินใจ ในทางธุรกิจเราอาจเห็นสิ่งเร้า ยั่วยุ และอะไรที่กดดันธุรกิจเราได้เสมอๆ และทุกคนก็ต้องคิดหาทางออกกับสิ่งที่เกิดขึ้น

แต่อย่างไรก็ตามเราควรหยุดคิด ไตร่ตรองหาเหตุผล เพื่อสร้างการรับมือกับสถานการณ์นั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด อย่าตัดสินใจทำในขณะที่ยังโกรธ เพราะแทนที่จะแก้ปัญหาอาจเพิ่มปัญหาให้ธุรกิจเราได้อีก

2.ทำธุรกิจต้องไม่กลัวที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ

คนที่ทำธุรกิจมักจะมีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก ที่สำคัญมักไม่คล้อยตามใครและจะใช้ความคิดของตัวเองเป็นหลัก แต่ในทางทฤษฏีการพัฒนา EQ หากมุ่งหวังให้ธุรกิจเดินหน้าได้ดีขึ้น ควรปรับทัศนคติและหันมาใส่ใจกับไอเดียใหม่ๆ ของคนอื่น ความคิดเห็นของคนอื่น เรียกว่าเรียนรู้จากมุมมองคนอื่นบาง และพยายามทำตัวให้เป็นน้ำครึ่งแก้วโดยพร้อมจะเปิดรับความรู้ใหม่ๆเสมอด้วย

oo3

3.อย่าหมกหมุ่นอยู่แต่เรื่องของตัวเอง

ทฤษฏีการพัฒนา EQ เชิงธุรกิจสอนให้เจ้าของธุรกิจเห็นอกเห็นใจผู้อื่นด้วย โดยเฉพาะกับบรรดาพนักงานในสังกัด แม้เราจะได้ชื่อว่าเป็นนายจ้าง แต่เราก็ทำทุกอย่างคนเดียวไม่ได้

พนักงานคือกลจักรสำคัญในการขับเคลื่อนแม้เราจะเป็นผู้นำก็ตาม ดังนั้นควรใส่ใจในความรู้สึกของพนักงาน รู้จักการให้อภัย และไม่ตัดสินคนด้วยความรู้สึกของตัวเองเพียงอย่างเดียว คนที่มี EQ สูงก็จะมี sense of belongings หรือจิตสำนึกของการเป็นเจ้าของร่วมสูงด้วยเช่นกัน

4.หาความสุขจากธุรกิจของตัวเองไม่ต้องกดดันตัวเองมากนัก

ตามผลการวิจัยคนที่ทำธุรกิจมักประสบกับภาวะความเครียดที่สูงมาก ด้วยการแข่งขันด้านการตลาด การพยายามที่จะเป็นหนึ่ง การพยายามจะสร้างกำไรให้ธุรกิจ

หลายเหตุผลที่ทำให้เจ้าของธุรกิจลืมมองเรื่องความสุขจากการทำธุรกิจของตัวเอง เราควรฉุกคิดว่าที่เราทำธุรกิจนี้มันเกิดจากอะไร ใจรัก ทำตามคนอื่น หรือว่าเป็นธุรกิจครอบครัว การจะหาความสุขจากธุรกิจตัวเองควรเป็นธุรกิจที่ตัวเองอยากทำก็จะนำพาความสุขมาได้มากกว่าความทุกข์

oo2

5.รู้จักการใช้จ่ายให้สมดุลกับการทำงาน

ไม่ใช่ว่าเป็นนักธุรกิจมีรายได้ดีแล้วเราจะเลือกใช้จ่ายอย่างไรก็ได้ การใช้จ่ายมากเกินไปก็ทำให้เราเป็นทุกข์ได้ คนที่มีอีคิวดีเขาจะรู้จักการวางแผนการใช้เงินและไม่นิยมการแสวงหาความสุขจากการใช้เงินมากจนเกินไป

เพราะคนที่มีอีคิวจะเข้าใจอะไรง่าย ๆ เข้าใจคนอื่น และเข้าใจตัวเอง สามารถมองข้ามความไม่สมบูรณ์แบบเล็ก ๆ น้อย ๆ และรู้จักเลือกการใช้จ่ายที่ไม่มากแต่ก็ทำให้มีความสุขได้

6.ทำธุรกิจอย่ายึดติดกับอดีตและปัจจุบัน

การไม่ยึดติดคือหนทางของการไม่เกิดทุกข์ ในอดีตเราอาจเป็นธุรกิจที่ไร้คู่แข่ง เป็นธุรกิจชั้นแนวหน้าที่ใครๆก็รู้จักแต่ในปัจจุบันสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปอาจทำให้เราไม่เฟื่องฟูเหมือนเก่า

แต่สิ่งที่เราทำได้คือการพัฒนาตัวเองไปข้างหน้าอย่ามองว่าเราเคยมีเวลาที่สวยงามอย่าจมปลักกับสิ่งที่ผ่านไปแล้วต้องมาเริ่มต้นและพัฒนาธุรกิจเราต่อไปเพื่ออนาคตที่อาจไม่ดีเหมือนเดิมแต่ก็ยังทำให้เรามีความสุขกับธุรกิจได้

oo4

7.EQสูงได้แต่อีโก้อย่าสูงด้วย

ตามหลักของคนที่ EQสูง ก็มักจะมี อีโก้ต่ำเป็นธรรมดา เจ้าของธุรกิจที่มีอีโก้ต่ำนั้นเป็นเรื่องดี เพราะคนเหล่านี้มักเข้าใจกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และจะยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นแม้กระทั่งจากพนักงาน หรือว่าบุคคลทั่วไป คนที่มีอีโก้ต่ำจึงเป็นนักฟังที่ดีร่วมด้วย และก็เป็นหลักพื้นฐานสำคัญที่ทำให้ธุรกิจยังเดินหน้าต่อไปได้

แนวทางของการใช้ EQ ก็เป็นเพียงแนวทางหนึ่งในการปรับอารมณ์ให้เหมาะสมกับการทำธุรกิจ การพูดนั้นง่ายกว่าการลงมือทำเพราะเชื่อว่าในสถานการณ์จริงการใช้ EQ อาจไม่ได้ผลนักเพราะสืบเนื่องจากอารมณ์และตัวแปรในการทำงาน แต่อย่างไรก็ตามหากตั้งสติได้ EQ ก็สามารถเกิดได้และผลดีจากการใช้อีคิวที่ดีก็จะทำให้ธุรกิจแข็งแกร่งได้เช่นกัน

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด