5 เทคนิคลงทุน SMEs ไม่ต้องกลัวเจ๊งในปี 2018

ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า SMEs มีอัตราการอยู่รอดเพียง 50 % ในระยะเวลา 5 ปีนั้นหมายถึงว่าSMEs เกินกว่าครึ่งที่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน และจากข้อมูลในปีที่ผ่านมามี SMEs เกิดใหม่กว่า 3 ล้านราย แต่มีการจดทะเบียนอยู่ในระบบเพียงแค่ 600,000 กว่าราย

ซึ่งในกลุ่มที่จดทะเบียนนี้ก็เป็นผู้ประกอบการรายเดียวมากถึง 80 % นั้นเป็นภาพรวมว่าการลงทุนในปี 2018 เองก็ยังมีความน่าเป็นห่วงอยู่มากด้วยเหตุนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จึงได้เอา5เทคนิคการลงทุนของSMEs ในปี2018มาฝากกันเผื่อว่าใครอยากเริ่มต้นลงทุนจะได้มีแนวทางเพื่อการสร้างกำไรแบบไม่เจ๊ง

1.AI ใช้ให้ดีมีประโยชน์มาก

5 เทคนิคลงทุน

นับแต่มีเทคโนโลยีอย่าง AI เปิดตัวขึ้นมาก็เกิดการถกเถียงอย่างกว้างขวางว่านี่คือหายนะของการจ้างงานมนุษย์ แต่ไม่ว่าอย่างไรในปี 2018 นี้ AI จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการทำธุรกิจยิ่งธุรกิจขนาดเล็กยิ่งต้องการ AI มาก

เพราะเป็นส่วนเสริมสำคัญในการแข่งขันทางการตลาดเช่นเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าได้อย่างแม่นยำ มีงานวิจัยศึกษาด้าน AI กับธุรกิจขนาดเล็กกว่า 87% ระบุว่า AI จะยังคงเป็นเครื่องมือที่สำคัญของธุรกิจไปอย่างน้อยอีก 5 ปีนับจากนี้

2. การจ้างงานแบบฟรีแลนด์จะเพิ่มมากขึ้น

w2

ธุรกิจยุคดั้งเดิมจะมองเรื่องการจ้างงานประจำแต่ธุรกิจยุคใหม่ การจ้างงานประจำไม่ใช่ความจำเป็นหลักเนื่องด้วยสามารถทดแทนด้วยเทคโนโลยีได้ในบางครั้ง การทำธุรกิจยุคใหม่หากต้องการยืดหยุ่นวิธีการจ้างงานจะเน้นที่ฟรีแลนด์เป็นหลัก

ข้อมูลน่าสนใจระบุว่ากว่า 42% ของธุรกิจขนาดเล็กทั่วโลกใช้วิธีการจ้างงานแบบทำเป็นสัญญา ไม่ได้จ้างประจำ เพราะฉะนั้นคาดเดาได้ว่าในปี 2018 เทรนด์นี้จะสูงขึ้น ธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็กที่จะเริ่มต้นในปี 2018 จึงต้องเตรียมจัดการเรื่องนี้ไว้ให้ดี

3.ต้องจับกลุ่มลูกค้าให้ถูกต้องเหมาะสม

w3

ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นไปกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะไม่ใช่แค่ Gen Y หรือพวก Millennials เท่านั้น แต่ยุคนี้จะมี Gen Z หรือคนที่เกิดหลังปี 1998 ขึ้นมาเป็นกำลังซื้อที่น่าสนใจ การตลาดในยุคก่อนเราอาจจะมองข้าม Gen Z เหล่านี้ไปแต่นับแต่นี้การทำตลาดเราต้องโฟกัสให้ถูกกลุ่มว่าจะเจาะตลาดไหนมากกว่ากันระหว่าง Gen Y หรือ Gen Z

ความแตกต่างของคน2กลุ่มนี้คือ Gen Y ความต้องการอาจเป็นรูปแบบของ Niche Market เช่นกาแฟก็ต้องมาจากร้านที่เป็น Local แต่ในกลุ่ม Gen Z จะเปิดกว้างในเรื่องของไอเดียและรับกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ดี

ดังนั้นธุรกิจควรโฟกัสเรื่องพวกนี้ให้ถูกจุดจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ตัวเองได้มากขึ้น ซึ่งสินค้าบางแบรนด์อย่าง Amazon ก็พยายามจับจุดการตลาดทั้งสองกลุ่มด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มตัวเองแต่นั้นคือข้อได้เปรียบของธุรกิจขนาดใหญ่ที่ธุรกิจระดับกลางหรือเล็กอาจทำไม่ได้เช่นนั้น

4. Cashless Society มาแน่

w4

เงินสดคืออดีตของการทำธุรกิจไปแล้ว ส่วนจะทำแค่จ่ายผ่านบัตรเครดิต บัตรเดบิตก็ไม่พอแล้ว เพราะนับตั้งแต่ปี 2012 – 2015 อัตราการโอนเงินแบบไร้เงินสดเพิ่มขึ้น 5.3% ส่วนสำหรับในไทยเอง QR Code ที่ได้รับการรับรองจากภาครัฐเรียบร้อยในปี 2017 ก็คาดเดาได้ว่าในปี 2018

เทรนด์สังคมไร้เงินสดจะเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดสำคัญของความสำเร็จในธุรกิจ ดังนั้นธุรกิจขนาดเล็กจึงจำเป็นต้องก้าวให้ทันโลก ไม่ว่าจะขายอะไรก็ตาม ขอให้มั่นในไว้ก่อนว่า ลูกค้าสามารถชำระเงินให้เราได้แบบไร้เงินสดได้ทุกช่องทาง

5.มีแผนรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน

w5

เมื่อโลกมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้นไม่ใช่แค่สภาพสังคมแต่สภาพอากาศก็เป็นปัจจัยสำคัญในการตั้งอยู่หรือดับไปของธุรกิจได้เช่นกัน ภัยพิบัติทางธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม อัคคีภัย วาตภัย เป็นเหตุการณ์ฉุกเฉินที่มีผลกระทบต่อธุรกิจได้ทั้งสิ้น จากสถิติระบุว่า มีถึง 25% ของธุรกิจขนาดเล็กที่เมื่อเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดเหล่านี้แล้ว

ไม่สามารถกลับมาทำธุรกิจต่อได้ คำแนะนำคือ ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ เพราะส่วนใหญ่ที่หาได้ยากที่สุดในการทำธุรกิจคือ “ข้อมูล” การสำรองไว้บน Cloud หรือสร้างระบบไว้เตรียมพร้อมรับมือจะเป็นหนทางที่ดีที่สุด

ทั้ง 5 วิธีนี้เป็นเทคนิคเบื้องต้นของการลงทุนในปี 2018 เป็นภาพใหญ่ที่ธุรกิจควรคำนึงถึงส่วนในองค์ประกอบปลีกย่อยคือแผนการตลาด การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย การพัฒนาสินค้าและบริการซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน เหนือสิ่งอื่นใดคือการก้าวตามยุคสมัยให้ทันและทำตัวให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคมยุคใหม่ก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การทำธุรกิจได้มากขึ้นด้วย

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมาย ติดตามได้ที่ goo.gl/Io5k2S

ขอบคุณข้อมูลจาก goo.gl/ogmXHp

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด