5 วิธีใช้จ่ายช่วงสงกรานต์อย่างปลอดภัย

เป็นธรรมดาของช่วงเทศกาลที่ ยอดการใช้จ่าย จะสูงกว่าปกติ ยิ่งเป็นเทศกาลใหญ่ๆอย่างสงกรานต์ด้วยแล้วบางคนวางแผนการเดินทาง การใช้จ่าย วางแผนการทำกิจกรรมมาตั้งแต่ต้นปี แม้ว่ารายรับของคนไทยจะไม่ดีนักในช่วงนี้แต่การใช้จ่ายก็ยังคงต้องมีอยู่

โดยเฉพาะการเดินทางกลับภูมิลำเนาที่แม้ว่าปีนี้จะไม่สะดวกนักกับมาตรการที่ออกมาของหน่วยงานราชการแต่ก็คงไม่ส่งผลกระทบถึงยอดการใช้จ่ายที่คาดว่าก็น่าจะสูงไม่ต่างจากปีที่ผ่านมา

โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2560 คนกรุงเทพฯ มีการจับจ่ายใช้สอยคิดเป็นเม็ดเงิน 23,000 ล้านบาท เทียบเท่ากับปี 2559 อันเนื่องมาจากปีนี้มีสภาพอากาศที่ร้อนจัดและไม่มีมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐเช่นเดียวกับปีก่อน จึงทำให้บรรยากาศในการจับจ่ายใช้สอยของคนกรุงฯ

ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้อาจจะไม่คึกคักมากนัก สอดรับกับรูปแบบของการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ในปีนี้ที่ยังคงงดกิจกรรมรื่นเริง เน้นรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีไทย เช่น กิจกรรมรดน้ำขอพรผู้สูงอายุ เป็นต้น

แต่ถึงอย่างไรก็ตามพวกเราก็ควรมีการวางแผนการใช้เงินให้เป็นระบบเพื่อให้หลังจากเทศกาลสงกรานต์เราจะได้ไม่ประสบปัญหาทางการเงินมากนัก โดยส่วนใหญ่ช่วงนี้ธุรกิจบัตรเครดิตจะมียอดการใช้ที่เพิ่มสูงมาก

ซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com ก็มี 5 วิธีการวางแผนใช้เงินจากบัตรเครดิตให้ปลอดภัยลองเอาไปประยุกต์ใช้กันดูหลังสงกรานต์กลับมาทำงานจะได้มีความสุขกันได้เต็มที่มากขึ้น

1. แจ้งการเดินทางแก่ธนาคารที่ออกบัตรล่วงหน้า

ยอดการใช้จ่าย

เนื่องจากธนาคารที่ออกบัตรจะสังเกตรูปแบบการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของเราที่เปลี่ยนไปจากเดิม ดังนั้น เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงความกังวลขณะเล่นน้ำสงกรานต์ การให้ข้อมูลกับผู้ดูแลการเงินของเราว่าจะเดินทางไปที่ไหนเมื่อไหร่

จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรปฏิบัติ เพราะหากมีการโจรกรรมข้อมูลทางการเงิน เราจะได้รับการคุ้มครองสูงสุดด้วยนโยบายของบัตรเครดิตแต่ละยี่ห้อ โดยผู้ถือบัตรฯ ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อผลของธุรกรรมอันไม่พึงประสงค์นั้นด้วย

2. ตั้งงบประมาณสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวและนำบัตรเครดิตติดตัวไปเพียงใบเดียวก็พอ

n6

การเดินทางท่องเที่ยวควรมีการตั้งงบในการเดินทางให้ชัดเจนเช่นไปต่างประเทศงบประมาณ 70,000 บาท หรือกลับภูมิลำเนารวมถึงท่องเที่ยวในประเทศตั้งงบไว้ประมาณ 30,000 บาท เป็นต้น

การตั้งงบประมานในการท่องเที่ยวนั้นสำคัญพอๆ กับการวางแผนการท่องเที่ยวเลยและการใช้บัตรเครดิตเพียงใบเดียวจะสามารถช่วยให้เราควบคุมค่าใช้จ่ายในช่วงวันหยุดได้ ทั้งนี้ ร้านค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างมีการรับบัตรเครดิตอย่างแพร่หลาย การพกบัตรเครดิตยังช่วยลดความเสี่ยงในการพกเงินสดติดตัวจำนวนมากอีกด้วย

3. เก็บใบเสร็จและหลักฐานการใช้จ่ายไว้เสมอ

n5

คนไทยขึ้นชื่อว่าชื่นชอบการหาสินค้าและเงื่อนไขพิเศษ จึงอาจทำให้เราหลงลืมงบในกระเป๋าและใช้เงินเกินไปบ้าง โดยเฉพาะเวลาชอปปิ้งตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆไม่ว่าจะในประเทศหรือต่างประเทส

ดังนั้นเราจึงควรเก็บหลักฐานการใช้จ่ายและสเตทเมนต์ทุกชิ้นไว้ เพื่อตรวจสอบกับใบแจ้งยอดบัตรเครดิตหลังกลับมาจากการเดินทาง หากมีรายการการใช้จ่ายผิดปกติก็สามารถร้องเรียนได้ภายใน 30 วัน

4. ปลอดภัยไว้ก่อนสำคัญเสมอ

n8

ภาพจาก goo.gl/P1oqhI

เมื่อจะเดินทางท่องเที่ยวเราควรเขียนข้อมูลบัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ดของเรา โดยทำรายการบัตรที่เราจะนำติดตัวพร้อมหมายเลขบัญชี จากนั้นเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้ในที่ปลอดภัย เช่น ตู้นิรภัยของธนาคาร

ซึ่งอาจจะดูเป็นเรื่องที่ยุ่งยากแต่ก็เรียกว่าเป็นการกันไว้ดีกว่าแก้โดยเฉพาะคนที่มีการวางแผนไปเที่ยวต่างประเทศด้วยแล้วยิ่งต้องใช้วิธีนี้เพื่อให้เกิดความสบายใจมากขึ้น

5. รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรเมื่อบัตรเครดิตสูญหาย

n4

ระหว่างที่กำลังสาดน้ำสงกรานต์อย่างเมามันหรือสนุกสนานไปกับการชอปปิ้ง เราควรเก็บหมายเลขบัญชีธนาคารของเราไว้ในที่ปลอดภัยที่ไม่ใช่กระเป๋าสตางค์ เพราะอาจจะหายไปทั้งกระเป๋าทั้งข้อมูลบัญชีได้

ในกรณีที่บัตรเครดิตสูญหายเราสามารถติดต่อกับธนาคารที่ออกบัตรได้ทันที หากเกิดการสูญหายในต่างประเทศสามารถติดต่อได้ที่เว็บไซต์ ของบัตรเครดิตนั้นๆ เพื่อคุ้มครองเงินในเครดิต

และป้องกันไม่ให้เราเกิดภาวะหนี้จากการทำบัตรเครดิตสูญหายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ยิ่งกว่านั้นข้อดีของบัตรเครดิตที่ไม่ต้องพกมากเหมือนเงินสดแต่ข้อเสียคือขนาดของบัตรที่เล็กและมีใบเดียวก็ย่อมเสี่ยงต่อการสูญหายได้มากขึ้นเช่นกัน

แต่ทว่าในความเป็นจริงใครหลายคนอาจมองว่าการใช้บัตรเครดิตนั้นไม่เหมาะสมกับตัวเองเท่ากับการใช้เงินสด ก็ต้องมาวางแผนการใช้เงินสดให้สมดุลกันอีกทีซึ่งก็มีหลายวิธีเช่น การวางแผนและกำหนดค่าใช้จ่ายล่วงหน้า

การตั้งงบประมาณและใช้จ่ายให้อยู่ในงบดุลนั้น รวมถึงการเลือกรูปแบบการเดินทางและการช็อปปิ้งที่ประหยัดมากขึ้น ก็จะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าได้อีกมาก สิ่งสำคัญคืออย่าลืมและใช้จ่ายเกินตัวมิเช่นนั้นหลังสงกรานต์ต้องมาทำงานใช้หนี้แบบนี้ชีวิตก็ไม่สนุกอย่างแน่นอน

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด