4 เทคนิคที่ SMEs ควรรู้ เพื่อขายสินค้าได้ดีในประเทศจีน

ตลาดเมืองจีน ยังมีความสำคัญในการทำธุรกิจมาก ด้วยขนาดของประเทศที่กว้างใหญ่มีหลายเมืองที่กำลังพัฒนาตัวเอง และพร้อมเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้เข้าไปทำธุรกิจมากขึ้น มูลค่าการลงทุนซื้อขายทางเศรษฐกิจของไทยกับจีนที่ผ่านมาแต่ละปีก็มีไม่ต่ำกว่าหมื่นล้านบาท

และตัวเลขนี้ก็พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องได้อีก เพียงแต่ความท้าทายของตลาดเมืองจีนแม้จะน่าสนใจแต่ก็มีความเสี่ยงจากปัจจัยด้านประเพณี วัฒนธรรม สังคม ที่บางธุรกิจเข้าไปก็ไม่สามารถเติบโตได้อย่างที่ตั้งเป้าไว้

ด้วยเหตุนี้ www.ThaiSMEsCenter.com มี 4 เทคนิคน่าสนใจสำหรับเหล่า SMEs ในการลุยตลาดเมืองจีนที่ส่วนใหญ่มักชิมลางด้วยการนำสินค้าไปแสดงตามการจัดงานต่างๆ เพื่อดูปริมาณความน่าสนใจและมีหลายแบรนด์ที่เริ่มต้นจากจุดนี้แล้วต่อยอดเป็นสินค้าขายดีในเมืองจีนสำหรับคนที่กำลังบุกเบิกตลาดเมืองจีนเทคนิคสำคัญเหล่านี้ควรเรียนรู้ไว้เพราะใช้งานได้จริงๆ

1.การให้ข้อมูลสินค้าที่เป็นภาษาจีนและให้ทดลอง เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

ตลาดเมืองจีน

ควรให้รายละเอียดทั้งตัวสินค้า และตัวผู้ผลิต ตัวผลิตภัณฑ์ควรติดป้ายชื่อและมีคำอธิบายให้ชัดเจน สินค้าประเภทอาหาร สำคัญที่สุดคือ การให้ชิม รสชาติถูกปากถูกใจ ผู้ใหญ่ไม่ชิม เด็กชิม เด็กก็ร้องให้ผู้ใหญ่ซื้อ สินค้าบำรุงสุขภาพ พืชสมุนไพร และออร์กานิกปลอดสารพิษ เป็นสินค้าดาวรุ่งมาแรง หรือสินค้าประเภทช่วยบำบัดและผ่อนคลายความเครียด

เช่น เครื่องหอม หมอนป้องกันไรและฝุ่นที่รองรับน้ำหนักคอได้ดี สินค้าประเภทนี้ก็กำลังได้รับความนิยม เพียงแต่ต้องเขียนบรรยายสรรพคุณสินค้าหรือสมุนไพรไทยให้คนจีนได้รู้จักมากขึ้น

ปัจจุบัน คนจีนรักสุขภาพมากขึ้น ใส่ใจและห่วงชีวิตของลูกหลาน เพราะมีลูกคนเดียว ต้องเลือกสิ่งที่ดีสุด สินค้าประเภทเสื้อผ้าหรือกระเป๋า ควรมีหุ่นใส่เสื้อผ้าโชว์สินค้า ลูกค้าจะชอบมากกว่าแขวนหรือพับวางโชว์ไว้ และควรมีกระจกให้ลูกค้าส่อง

สินค้าสปาที่มีความหอมก็ควรมีตัวทดลองเปิดให้ลูกค้าดม น้ำมันนวดต่าง ๆ ก็ทดลองนวดให้ลูกค้า อาจจะมองว่าเสียเวลา แต่ยิ่งคิวแน่น ยิ่งขายดี อัญมณีและเครื่องประดับ ควรมีตู้กระจกใส่สินค้า (ป้องกันการขโมยไปด้วยในตัว) ที่สำคัญต้องมีไฟส่อง เพื่อให้เกิดความแวววาวเตะตาลูกค้า รวมถึงมีใบประกันคุณภาพพร้อมสรรพ เพื่อให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจ

2.นามบัตรและโบรชัวร์สินค้าเป็นสิ่งสำคัญมาก

ii5

บ่อยครั้งที่ผู้ประกอบการไม่นิยมพกพา และหลายครั้งเช่นกันที่ทำให้พลาดโอกาสทางธุรกิจ นามบัตรหรือโบรชัวร์เปรียบเสมือนการเชื้อเชิญให้เริ่มต้นและมีเนื้อหาในการสนทนาต่อกัน

และเปรียบประดุจบัตรเชิญลูกค้าให้เดินทางมาหาผู้ประกอบการหลังหมดช่วงทดลองตลาด นามบัตรจึงควรให้ข้อมูลผู้ผลิต สถานที่ผลิต เบอร์โทรติดต่อทั้งที่ไทยและที่จีน อีเมล์และเว็บไซต์ เป็นต้น ส่วนโบรชัวร์ก็เพิ่มรายละเอียดสินค้า เรื่องราวของสินค้าที่เด่น ๆ และน่าสนใจ

3.รู้พฤติกรรมผู้บริโภค ประยุกต์ใช้เทคนิคการขายได้ง่ายขึ้น

ii2

มีผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า “หนึ่งมณฑลของจีน เทียบเท่าหนึ่งประเทศ” หากอยากจะขายสินค้าที่จีนในมณฑลไหน จำเป็นต้องศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคของมณฑลนั้นเสียก่อน เช่น คนคุนหมิงชอบของทำสด หรือทำให้เห็น ผู้ประกอบการที่จำหน่ายเครื่องปรุงรสต้มยำกุ้ง กะทิกล่องสำเร็จรูป น้ำปลา และผัดไทเส้นจันท์

สินค้าประเภทนี้ต้องสาธิตการทำให้ดูและสอนวิธีใช้ให้เห็นกับตา เช่น เอาเครื่องต้มยำกุ้งมาทำต้มยำให้เห็นกันตรงนั้น ยิ่งคนมุงก็ยิ่งขายดีมากขึ้นพฤติกรรมส่วนนี้ก็คล้ายกับประเทศไทยที่ต้องใช้กระแสจีนมุงเป็นตัวเร้าอารมณ์ในการขาย

4.ขอให้สินค้าดีมีคุณภาพคนจีนยุคใหม่กล้าซื้อมากขึ้น

ii3

ปัจจุบันนี้คนจีนเองกล้าซื้อ-กล้าลองมากขึ้นอย่างที่รู้ ๆ กันว่ามณฑลทางภาคตะวันตกของจีนมีการพัฒนาเศรษฐกิจที่ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว ประชากรมีกำลังซื้อสูงขึ้น ขอแค่ถูกอกถูกใจ สินค้าคุณภาพดี คนจีนที่มีฐานะก็พร้อมที่จะจับจ่าย รวมไปถึงการเข้าสู่ยุคเครือข่ายอินเตอร์เน็ตและโลกออนไลน์ ทำให้เปิดรับเอาข้อมูลข่าวสารจากต่างประเทศมากขึ้น ส่งผลให้ชาวจีนมีความคิดที่เปิดรับ กล้าลองสินค้าใหม่ ๆ มากขึ้นด้วย

นอกจากนี้การบุกตลาดเมืองจีนไม่ใช่เพียงแค่การชิมลางในเรื่องสินค้าเท่านั้น หากแต่ผู้ประกอบการต้องศึกษาเรื่องกฏหมายที่สำคัญในการลงทุน เรื่องการนำเข้า ส่งออกสินค้า ภาษี ทุกอย่างเราต้องมีข้อมูลที่อัพเดทและเป็นปัจจุบันเพื่อการกำหนดทิศทางการตลาดวางแผนการบริหารเพื่อให้การเจาะตลาดเมืองจีนเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

สำหรับท่านใดที่ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจเรามีรวบรวมบทความมากมายไว้ให้ทุกท่านพิจารณากันตามความเหมาะสม ดูรายละเอียด goo.gl/Io5k2S

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด