3 แฟรนไชส์ซีที่รัก

เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาต้องมีความรัก มีความหลงใหลใครคนใดคนหนึ่ง จนกระทั่งอยากจะอยู่ร่วมและใช้ชีวิตไปด้วยกัน สอดคล้องกับธุรกิจในระบบแฟรนไชส์ (แฟรนไชส์ซอร์) ก็ยังต้องการคนรัก คู่ครอง (แฟรนไชส์ซี) ที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปชั่วชีวิต แต่มีธุรกิจแฟรนไชส์หลายแบรนด์เลือกคู่ครองไม่เหมาะสม แต่งงานกันแล้วจึงต้องเลิกรากันในที่สุด

แล้วอยากรู้หรือไม่ว่า ธุรกิจแฟรนไชส์จะเลือกคู่ครองอย่างไร ให้เหมาะสมกับตัวเอง อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง โดยที่แฟรนไชส์ซีได้หลงรักและหลงใหลอย่างหัวปักหัวปำ ตั้งแต่แรกพบ

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะพาไปทำความรู้จักกับ 3 แฟรนไชส์ซีที่รัก ที่แฟรนไชส์ซอร์เลือกให้มาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันจนถึงปัจจุบัน มาดูกันเลย

สูตรไม่แพง คุ้มค่า ปลดหนี้ในพริบตา
“สมเกียรติ โคตะมะ” แฟรนไชส์ซี “ไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำ”

3 แฟรนไชส์ซีที่รัก

จุดเริ่มต้นแห่งความรักแฟรนไชส์ ไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำ

คุณสมเกียรติ เล่าว่า ก่อนจะมาเป็นแฟรนไชส์ซีไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำ เขาเป็นพนักงานในโรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดสระบุรี โดยทำงานในโรงงานแห่งนี้มากว่า 10 ปี พอภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ค่าครองชีพสูงขึ้น เป็นหนี้บัตรเครดิต หมุนเงินไม่ทัน เรียกได้ว่าทำงานไปมีแต่จน ไม่มีเงินเก็บ จึงคิดลาออกจากงานเพื่อหาอาชีพอื่นทำ บังเอิญได้อ่านเจอสูตรไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำของอาจารย์อำไพ จึงมีความคิดอยากขายไก่ทอดขึ้นมาทันที ซึ่งตอนนั้นอาจารย์อำไพยังอยู่เชียงคำ

พอมีไอเดียอยากทำอาชีพขายไก่ทอด จึงได้ติดต่อโทรไปหาอาจารย์อำไพ เพื่อซื้อสูตรแฟรนไชส์ไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำ หลังจากพูดคุยกันเสร็จสรรพ คุณสมเกียรติได้ทำการโอนเงินค่าสูตรจำนวน 2,900 บาท อาจารย์อำไพจึงส่งเอกสารและซีดีวิธีการทำไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำมาให้กับคุณสมเกียรติ เขาได้เปิดซีดีดูวิธีการทำ ลองผิดลองถูกใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเปิดร้านไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำได้ ต้องให้ญาติพี่น้องชิมก่อนว่ารสชาติอร่อยถูกปากหรือเปล่า

พอคุณสมเกียรติมั่นใจในรสชาติไก่ทอดที่ตัวเองทำแล้ว จึงลาออกจากงานทันที โดยระหว่างช่วงการฝึกและทดลองทำไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำอยู่นั้น คุณสมเกียรติไม่ได้ดูวิดีโออย่างเดียว เขาได้มีการโทรหาอาจารย์อำไพเป็นประจำ เพื่อของคำชี้แนะต่างๆ ด้วย ยิ่งไปกว่านี้คุณสมเกียรติเป็นคนโชคดี ที่พ่อแม่ญาติพี่น้องสนับสนุนในเรื่องการค้าขายเป็นอย่างดี

ไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำ สูตรไม่แพง ขายได้คล่อง

ไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำ

คุณสมเกียรติ ได้บอกเหตุผลของการซื้อแฟรนไชส์ไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำ เพราะแฟรนไชส์ไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำ เสียเงินค่าสูตรหรือค่าอบรมน้อยมากเพียง 2,900 บาท เมื่อเทียบกับแฟรนไชส์รายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นหมูปิ้ง หมูทอด หรือแม้กระทั่งสูตรขนมครกที่เขาสนใจ ยังคิดค่าสูตรแพงถึง 6,000 บาท บางแฟรนไชส์แพงถึงหมื่นกว่าบาท

อีกทั้งแฟรนไชส์ไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำ น่าจะขายได้ง่าย มีลูกค้ารองรับ ประกอบกับคุณสมเกียรติเองมีประสบการณ์ในการขายมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และชอบกินไก่เคเอฟซีประจำ เมื่อเปิดร้านตามตลาดนัดแล้ว จะสามารถทำรายได้เป็นอย่างดี

เริ่มต้นจากศูนย์ ด้วยงบการลงทุน 2-3 หมื่นบาท

เริ่มต้นจากศูนย์

สำหรับงบการลงทุนเปิดร้านไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำ คุณสมเกียรติบอกว่า ตัวเขาเองลาออกจากงานประจำโดยไม่เงินทุนติดตัว แถมยังเป็นหนี้หลายอย่าง คุณสมเกียรติเริ่มต้นจากศูนย์ ต้องหยิบยืมเงินจากเพื่อนและญาติพี่น้อง โดยเขาใช้เงินประมาณ 2-3 หมื่นบาท ไปซื้ออุปกรณ์การขายไก่ทอด วัตถุดิบต่าง รวมถึงแผงตั้งร้านค้าตามตลาดนัด ร่ม ฯลฯ

โดยข้อดีของแฟรนไชส์ไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำ คือ ผู้ซื้อแฟรนไชส์ไม่ต้องซื้อไก่และวัตถุดิบจากแฟรนไชส์ซอร์ ไม่เหมือนกับแฟรนไชส์รายอื่นๆ ที่แฟรนไชส์ซีจะต้องซื้อวัตถุดิบจากเจ้าของแฟรนไชส์โดยตรง จึงทำให้คุณสมเกียรติหาซื้อได้ตามท้องตลาดใกล้บ้านได้ แต่ราคาขายก็อาจจะขึ้นอยู่กับราคาวัตถุดิบ ถ้าแพงก็ปรับราคาขายไก่ทอดขึ้นได้

คืนทุนเร็ว ฟันกำไรเหนาะๆ วันละ 1,000 – 2,000 บาท

คืนทุนเร็ว ฟันกำไรเหนาะๆ

เมื่อถามถึงยอดขายในแต่ละวัน คุณสมเกียรติเล่าอย่างภูมิใจว่า ยอดการขายและกำไรในแต่ละวันอาจไม่เท่ากัน บางวันได้น้อย บางวันได้มาก ขึ้นอยู่กับสภาพดินฟ้าอากาศด้วย ถ้าฝนตกคนจะมาเดินตลาดนัดน้อย แต่จริงๆ แล้ว กำไรอย่างต่ำต้องได้ประมาณ 1,000-2,000 บาท ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างมาก ค่าสูตร 2,900 บาท ขายวันเดียวก็คืนทุนได้แล้ว

มีเงินเก็บ หลุดพ้นหนี้สิน ด้วยไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำ

มีเงินเก็บ

หากเปรียบเทียบก่อนซื้อแฟรนไชส์กับหลังซื้อแฟรนไชส์ คุณสมเกียรติบอกว่า ตัวเองได้เสียเวลาไปกับการทำงานในโรงงานเป็นเวลากว่า 10 ปี เพราะช่วงทำงานโรงงานเป็นหนี้เป็นสินมาตลอด ค่าใช้จ่ายไม่พอ แต่พอมาซื้อธุรกิจแฟรนไชส์ไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำ คุณสมเกียรติกลายเป็นเสาหลักของครอบครัว ช่วยเหลือพ่อแม่ได้อย่างสบาย มีเงินเก็บ ไม่เป็นหนี้

ระบบการช่วยเหลือสนับสนุนแฟรนไชส์ดีเลิศ

คุณสมเกียรติเปิดร้านขายไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำในปี 2552 โดยทำเลที่ขายมี 2 แห่ง คือ ตลาดนัดหนองแค (อังคาร เสาร์) และวังน้อย (พุธ ศุกร์ อาทิตย์) โดยจะหยุดพักวันพฤหัสบดีเพื่อเตรียมของขาย

ก่อนเปิดร้านทางเจ้าของแฟรนไชส์โดยอาจารย์อำไพ ได้ให้คำแนะนำคุณสมเกียรติหลายอย่างในการเลือกทำเลค้าขาย รวมถึงสูตรไก่ทอดก็ไม่ต้องอิงตายตัวกับสูตรต้นตำรับมากนัก สามารถปรับรสชาติให้เข้ากับลูกค้าในแต่ละพื้นที่ได้

แต่คำแนะนำของอาจารย์อำไพที่คุณสมเกียรติจดจำมาจนถึงทุกวันนี้ คือ ขยัน อดทน ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ไก่เก่าเหลืออย่าย้อมแมวขายให้ลูกค้า สะอาด สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้ามาอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง

ร้อน เหนื่อย ขยัน อดทน ไม่มีจน

ขยัน อดทน ไม่มีจน

ปัจจุบันคุณสมเกียรติขายไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำกับแฟน 2 คน ไม่มีลูกน้อง โดยเขายึดหลักทำมากได้มาก ทำน้อยได้น้อย ใครขยันก็ทำได้มาก ใครขี้เกียจก็ทำได้น้อย ที่สำคัญคุณสมเกียรติมีสโลแกนเป็นของตัวเอง ในการขายของตามตลาดนัด คือ ร้อน เหนื่อย ขยัน อดทน ไม่มีจน และต้องรู้จักการทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายทุกวัน

คุณสมเกียรติฝากถึงผู้อยากมีอาชีพหรือธุรกิจเป็นของตัวเอง ไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำ เป็นทางเลือกสำหรับทุกคน เพียงแค่เรามีความขยัน อดทน ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ที่สำคัญค่าสูตรในการอบรมไม่แพง สามารถโทรปรึกษาเจ้าของแฟรนไชส์ได้ตลอดเวลา เมื่อได้สูตรไก่ทอดมาแล้ว สามารถนำไปต่อยอดเป็นสูตรหมักหมูทอด หรืออื่นๆ ก็ได้ แล้วแต่ว่าจะนำไปปรับใช้เพื่อให้เข้ากับทำเลการขายและกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ ไม่ต้องไปยึดติดกับสูตรต้นตำรับ สามารถดัดแปลงได้ และต่อยอดได้

ข้อมูลการลงทุนแฟรนไชส์  ไก่ทอดสมุนไพรเชียงคำ

โทร.087-6942461


ผู้นำการให้บริการแบบจุดเดียวจบ ครบทุกบริการ
“กัลยาณี โรจนคีรีสันติ” แฟรนไชส์ซี “ควิก เซอร์วิส”

ควิก เซอร์วิส

คุณกัลยาณี เป็นผู้จัดการร้านควิก เซอร์วิส สาขามีโชคพลาซ่า จังหวัดเชียงใหม่ โดยพี่สาวของเธอ “คุณมลฤดี มากมีธนกุรชร” เป็นผู้ซื้อแฟรนไชส์ควิก เซอร์วิส ร้านสารพัดบริการชุมชน ให้บริการฝากส่งเอกสารและพัสดุด่วน, บริการรับชำระค่าบริการ, บริการโอนเงิน, ศูนย์ถ่ายเอกสาร รับ/ส่งแฟกซ์, บริการรับต่อภาษี พ.ร.บ.และประกันภัย, บริการถ่ายรูปด่วนติดบัตร, บริการจองตั๋วเดินทาง และบริการจุดเติมเงินออนไลน์ ปัจจุบันถือเป็นแฟรนไชส์สารพัดบริการที่มาแรงสุดๆ

จุดเริ่มต้นแห่งความรักแฟรนไชส์ ควิก เซอร์วิส

จุดเริ่มต้น

เหตุผลของการซื้อแฟรนไชส์ ควิก เซอร์วิส คุณกัลยาณี เล่าว่า ก่อนที่จะซื้อแฟรนไชส์ควิก เซอร์วิส เธอและพี่สาวมีความคิดอยากซื้อแฟรนไชส์ไปรษณีย์ไทย แต่ติดปัญหาตรงที่ผู้ซื้อแฟรนไชส์ต้องมีความรู้เกี่ยวกับไปรษณีย์มาก่อน จึงต้องยกเลิกหันมามองแฟรนไชส์ไปรษณีย์เอกชน ซึ่งแฟรนไชส์แรกที่สนใจ ก็คือ ควิก เซอร์วิส เพราะมีบริการครอบคลุม 8 ธุรกิจบริการ

สะดวกสบาย บริการครบวงจร ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

สะดวกสบาย

ความโดดเด่นและความน่าสนใจของแฟรนไชส์ควิก เซอร์วิส ในสายตาของคุณกัลยาณี ก็คือ เป็นแฟรนไชส์ไปรษณีย์เอกชนที่ลงทุนไม่สูงมาก เมื่อเปรียบเทียบกับแฟรนไชส์แบรนด์อื่นๆ

ยิ่งไปกว่านั้น แฟรนไชส์ควิก เซอร์วิส เป็นธุรกิจที่สามารถตอบโจทย์แม่ค้าออนไลน์ได้ดีที่สุด ตั้งเป้าเป็นจุดให้บริการสำหรับ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) แบบครบวงจร ด้วย 5 บริการหลัก อาทิ บริการแพ็คสินค้า (Packing Sevice), บริการจัดส่ง (Delivery Service), จำหน่ายอุปกรณ์สำหรับห่อหุ้ม (Packaging Service), เป็นจุด Drop OFF ให้กับ Lazada, Shopee, Zilingo, 11Street และบริการรับพัสดุถึงบ้าน (Pick up Service)

โดยจับมือกับ 2 พันธมิตร คือ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด Logistic อันดับ 1 ของไทย และ DHL บริษัท Logistic อันดับ 1 ของโลก เปิดให้บริการรับส่งพัสดุทั่วไทยและทั่วโลก ทำให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ไม่ต้องใช้รถวิ่งเอง มีความสะดวกและง่ายขึ้น

ควิก เซอร์วิส ลงทุนง่าย ไม่หลายขั้นตอน

ลงทุนง่าย

คุณกัลยาณี เล่าว่า ขั้นตอนการลงทุนแฟรนไชส์ควิก เซอร์วิส ไม่ยุ่งยาก โดยพี่สาวของเธอเป็นคนติดต่อไปหาคุณชาตรี (เจ้าของแฟรนไชส์) ได้โดยตรง บอกว่าสนใจอยากเปิดร้านไปรษณีย์ให้บริการครบวงจร หลังจากนั้นคุณชาตรีและทีมงานได้ขึ้นไปช่วยทำเลที่ตั้งร้านว่ามีความเหมาะสมกับการตั้งธุรกิจหรือไม่ โดยทำเลที่ตั้งอยู่ที่ห้างมีโชคพลาซ่า เชียงใหม่

หลังจากนั้นไม่นาน ทีมงานได้ช่วยออกแบบและตกแต่งร้านให้ฟรี ฝึกอบรมทักษะการดำเนินงานก่อนเปิดร้าน และส่งเจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือปฏิบัติงานจริงในวันเปิดร้าน ที่สำคัญยังให้การรับประกันและดูแลระบบการทำงานตลอดสัญญา

โดดเด่นเหนือคู่แข่ง ดึงดูดลูกค้าใช้บริการไม่ขาดสาย

โดดเด่นเหนือคู่แข่ง

คุณกัลยาณี บอกว่า แม้พื้นที่ใกล้เคียง ไม่ห่างกันมาก จะมีแบรนด์บริการไปรษณีย์เอกชนคู่แข่ง แต่พอหลังจากที่เธอและพี่สาวเปิดร้านควิก เซอร์วิส ปรากฏว่ามีลูกค้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ไม่เคยขาด แม้จะมีคู่แข่งแบรนด์อื่นๆ ปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าใช้บริการประจำตั้งแต่เปิดร้านมา เพราะการให้บริการดี รวดเร็ว มีบริการครบครัน

เพราะแฟรนไชส์ร้าน ควิก เซอร์วิส ไม่ได้ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่มผู้ค้าออนไลน์เท่านั้น ยังมีบริการเสริมอื่นๆ ที่มาตอบโจทย์ประชาชนทั่วไปที่จะทำธุรกรรมต่างๆ ได้ด้วยตนเอง อาทิ พ.ร.บ.ประกันรถยนต์ ถ่ายเอกสาร ถ่ายรูป ด่วน เคาน์เตอร์เซอร์วิส จ่ายบิล บริการโอนเงินธนาคาร บริการรับชำระค่าบริการต่างๆ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบัตรเครดิต เป็นต้น

ควิก เซอร์วิส ลงทุนง่าย สร้างรายได้ 50,000 – 60,000 บาทต่อเดือน

สร้างรายได้

ควิก เซอร์วิส เป็นแฟรนไชส์ที่ลงทุนง่าย ไม่มีคู่แข่งที่เป็นแฟรนไชส์เดียวกันในพื้นที่ เพราะเจ้าของแฟรนไชส์จะให้รับสิทธิ์เพียง 1 สาขา ต่อ 1 ชุมชน เท่านั้น! ใครสนใจจองก่อน มีสิทธิก่อน ด้วยงบลงทุนเริ่มต้น 200,000 บาท

โดยหลังจากเปิดร้านควิก เซอร์วิสมาได้ปีกว่าๆ คุณกัลยาณีบอกว่า เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่ลงทุนแล้วคุ้มค่า ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เธอและพี่สาวก็กำลังหาทำเลดีๆ เพื่อที่จะเปิดสาขาที่ 2 เพราะควิก เซอร์วิสเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการที่ครบวงจร โดยเฉพาะธุรกิจออนไลน์มีส่วนช่วยให้การใช้บริการไปรษณีย์สูงขึ้น

สำหรับใครที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง มีใจรักในธุรกิจบริการ สามารถติดต่อไปยังคุณชาตรีได้โดยตรง เพื่อแสดงความประสงค์เปิดร้านควิก เซอร์วิส โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านไปรษณีย์มาก่อน เพียงแค่มีทำเลดี มีใจรัก ก็เริ่มนับ 1 กับร้านแฟรนไชส์ควิก เซอร์วิสได้ทันที เพราะเจ้าของจะมีการอบรมก่อนเปิดร้านและให้การสนับสนุนช่วยเหลือตลอด

ข้อมูลการลงทุนแฟรนไชส์ ควิก เซอร์วิส

โทร.02-948-0286 , 063-9656965 , 086-0916872


ธุรกิจเหมาะกับทำเล ลงทุนน้อย เพิ่มเมนูได้ลากหลาย รายได้มหาศาล
“ณัศฐกาญน์ รวมทรัพย์” แฟรนไชส์ซี “กุ้งอบวุ้นเว้นเศรษฐี (เห็ดหอม)”

กุ้งอบวุ้นเว้นเศรษฐี

จุดเริ่มต้นแห่งความรักแฟรนไชส์ กุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐี (เห็ดหอม)

คุณณัศฐกาญน์ หรือ พี่ปุ๊ เล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นในการซื้อแฟรนไชส์กุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐีว่า ก่อนซื้อแฟรนไชส์กุ้งอบวุ้นเว้นเศรษฐี พี่ปุ๊ได้ทำธุรกิจขายป๊อปคอร์นโดยการซื้อแฟรนไชส์ แต่พอลูกๆ ได้ทำงานจึงเลิกขาย

แต่ด้วยความที่พี่ปุ๊อยากหาธุรกิจอะไรทำต่อ จึงได้ศึกษาธุรกิจแฟรนไชส์หลายๆ อย่าง และมาลงเอยที่แฟรนไชส์กุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐี เพราะเป็นธุรกิจที่สามารถทำได้ดีในจังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวของชาวต่างชาติและชาวไทยนอกพื้นที่ ที่สำคัญจังหวัดกระบี่มีทัวร์นักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมาก จึงคิดว่าแฟรนไชส์กุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐีน่าจะเป็นโอกาส

เพิ่มเมนูทะเลหลากหลาย เสริมแกร่งกุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐี

เพิ่มเมนูทะเลหลากหลาย

พี่ปุ๊ เล่าว่า ข้อดีของการซื้อแฟรนไชส์กุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐี คือ เจ้าของแฟรนไชส์ หรือแฟรนไชส์ซอร์ ไม่ได้จำกัดให้ผู้ซื้อแฟรนไชส์ขายเฉพาะเมนูกุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐีอย่างเดียว ด้วยความที่พี่ปุ๊เป็นคนจังหวัดกระบี่ เมืองท่องเที่ยว ได้สัมผัสกับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้รู้ว่าความต้องการของนักท่องเที่ยวว่า อยากกินอาหารทะเล ที่มีความหลากหลาย

หลังจากซื้อแฟรนไชส์กุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐีมาขายได้ประมาณ 1 เดือน จึงได้เพิ่มเมนูอาหารทะเลให้มีความหลากหลายมากขึ้น แต่ก็ยังขายเมนูกุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐี ที่ถือเป็นเมนูหลักอยู่เช่นเดิม เพราะมีลูกค้ามาซื้อเป็นประจำ

โดยทำเลที่ตั้งร้านของพี่ปุ๊อยู่ที่ถนนคนเดิน จังกวัดกระบี่ ขายเฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ปัจจุบันขายมาได้จะขึ้นปีที่ 4 แล้ว ถือว่าประสบนความสำเร็จ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ และคนไทยที่ไปเที่ยวกระบี่

กุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐี ลงทุนเพียงแค่ 38,000 บาท ได้กำไรมหาศาล

ได้กำไรมหาศาล

พี่ปุ๊ ได้เล่าด้วยว่า ได้ใช้เงินในการลงทุนแฟรนไชส์กุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐีเพียงแค่ 38,000 บาท โดยหลังจากติดต่อไปยังเจ้าของแฟรนไชส์ ว่าอยากเปิดร้าน ทางทีมงานแฟรนไชส์ซอร์ก็มาส่งอุปกรณ์และวัตถุดิบในการขายถึงบ้าน แต่พี่ปุ๊มีการดัดแปลงร้านจากรถเข็นเป็นหน้าร้านแบบของตัวเองให้มีขนาดใหญ่ขึ้น

ก่อนเปิดร้านเจ้าของแฟรนไชส์ได้มาสอนการทำกุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐีถึงที่บ้าน เริ่มแรกขายเมนูเดียว พอขายได้ 1 เดือนมีการเพิ่มเมนูซีฟู้ดตอบโจทย์ผู้บริโภค ผลปรากฏได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยยอดขายแต่ละวันอยู่ที่ประมาณ 8,000 บาท ถึง 10,000 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนนักท่องเที่ยว และฝนตก ไม่ตก

กุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐี เพิ่มราคาขายได้ตามต้นทุนวัตถุดิบ

ต้นทุนวัตถุดิบ

ความโดดเด่นของแฟรนไชส์ “กุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐี เห็ดหอม” เป็น “เมนูภัตตาคาร ราคาอาหารตามสั่ง” ด้วยรสชาติความอร่อยที่ทานแล้วต้องบอกต่อ แต่ราคาถูกเพียงหม้อละ 40-50 บาท แต่ด้วยสถานการณ์ต้นทุนราคาอาหารและวัตถุดิบในแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน พี่ปุ๊สามารถเพิ่มราคาอาหารในเมนูต่างๆ ได้ตามต้นทุนวัตถุดิบ ไม่ต้องอิงกับราคาที่เจ้าของแฟรนไชส์เป็นผู้กำหนด แต่รสชาติ คุณภาพมาตรฐานต้องไม่แตกต่างกันมาก ปรุงแต่งได้ตามความต้องการของลูกค้า

ซื้อแฟรนไชส์กุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐี ทำอาหารไม่เป็น ก็เปิดร้านได้

ซื้อแฟรนไชส์

สำหรับเหตุผลของพี่ปุ๊ในการซื้อแฟรนไชส์กุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐี เพราะพี่ปุ๊ไม่อยากเสียเวลาเริ่มต้นธุรกิจใหม่ด้วยตัวเอง อีกทั้งบางครั้งตนเองไม่รู้ว่าจะจับหรือทำธุรกิจอะไรถึงจะสำเร็จในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ที่สำคัญพี่ปุ๊ไม่มีความรู้และทักษะด้านการทำเมนูกุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐีมาก่อน หรือถ้าทำเองอาจไม่อร่อยเท่ากับซื้อแฟรนไชส์มาทำ

ขณะเดียวกัน พี่ปุ๊รู้ดีว่านอกจากเมนูกุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐีที่เป็นอาหารชื่นชอบของทัวร์จีนแล้ว ในจังหวัดกระบี่ยังมีนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกมากมายที่ชอบอาหารซีฟู้ด พี่ปุ๊จึงต่อยอด พัฒนาเมนุอาหารให้หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์และให้เข้ากับทำเลที่ตั้งติดทะและกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พี่ปุ๊อยู่รอดและประสบความสำเร็จในวันนี้

แฟรนไชส์ซอร์สนับสนุนช่วยเหลือดี จำกัดสิทธิ์ให้ 1 คน 1 พื้นที่

แม้ว่าแฟรนไชส์กุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐี (เห็ดหอม) จะไม่บังคับให้แฟรนไชส์ซีซื้อวัตถุดิบจากบริษัท แต่เจ้าของแฟรนไชส์ได้ให้ความช่วยเหลือและการสนับสนุนแฟรนไชส์ซีอย่างต่อเนื่อง ออกตรวจเยี่ยมสาขาแฟรนไชส์แต่ละพื้นที่เป็นประจำ

พร้อมทั้งแฟรนไชส์ซอร์ยังให้การสนับสนุนด้านการทำตลาด ที่สำคัญให้สิทธิแฟรนไชส์ซีที่ซื้อแฟรนไชส์ก่อนในแต่ละจังหวัด โดยให้สิทธิ์จังหวัดละ 1 คน เพื่อป้องกันการแข่งขันแย่งลูกค้า แบ่งรายได้กัน แต่แฟรนไชส์ซีในจังหวัดหรือพื้นที่นั้นๆ สามารถขยายสาขาเพิ่มได้ ถ้ามีทำเลที่ดี ไม่ว่าจะเป็นทำเลตลาดนัด ตลาดโต้รุ่ง ถนนคนเดินตอนเย็นๆ

กุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐี อยู่ในทำเลดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ย้ายตลาดได้ไม่มีข้อผูกมัด

อยู่ในทำเลดี

พี่ปุ๊ ได้บอกถึงเคล็ดลับการเปิดร้านกุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐีให้ประสบความสำเร็จ อย่างแรกคือการหาทำเลที่มีศักยภาพ คนพลุกพล่าน แหล่งนักท่องเที่ยว ที่สำคัญต้องไม่มีคู่แข่งขายอาหารเมนูเดียวกันอยู่ตรงนั้น

สิ่งเหล่านี้ จึงเป็นสาเหตุให้พี่ปุ๊เลือกทำเลการขายบนถนนคนเดิน เพราะเป็นทำเลดีกว่าอื่นๆ มีนักเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก แม้จะมีร้านขายซีฟู้ดมากมาย แต่ไม่มีร้านไหนขายเมนูกุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐี พี่ปุ๊เปิดร้านแค่ 4 เดือนก็ได้ทุนคืน

พี่ปุ๊ฝากถึงคนที่สนใจซื้อธุรกิจแฟรนไชส์ ต้องเลือกแฟรนไชส์ให้ดี โดยเฉพาะแฟรนไชส์ที่เหมาะสมกับพื้นที่หรือทำเลที่ตั้งของผู้ซื้อแฟรนไชส์ อย่างกรณีแฟรนไชส์กุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐีเหมาะสำหรับขายในกระบี่ เพราะกลุ่มลูกค้าเป็นนักทักเที่ยวชาวจีน ชาวต่างชาติอื่นๆ และกุ้งอบวุ้นเว้นสามารถต่อยอดเป็นเมนูซีฟู้ดอื่นๆ ได้ตามความต้องการของลูกค้า ที่สำคัญแฟรนไชส์นั้นต้องแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดด้วย เหมือนกับกุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐี ที่ไม่มีขายบนถนนคนเดิน กระบี่เลย

ข้อมูลการลงทุนแฟรนไชส์ กุ้งอบวุ้นเส้นเศรษฐี (เห็ดหอม)

โทร.062-6546355 , 092-1426395

ทั้งหมดคือ 3 แฟรนไชส์ซีที่รัก โดยเจ้าของแฟรนไชส์หรือแฟรนไชส์ซอร์แต่ละแบรนด์ ได้ให้การช่วยเหลือและสนับสนุนการดำเนินธุรกิจจนประสบนความสำเร็จ เพราะแฟรนไชส์ซอร์และแฟรนไชส์ซีเปรียบเหมือนสามีภรรยากัน เมื่อเกิดการจ้องมอง ทำความรู้จัก แล้วหลงรัก จึงค่อยตกลงใช้ชีวิตและเดินหน้าไปด้วยกัน…แล้วคุณล่ะ กำลังจ้องมองใครอยู่หรือเปล่า!


อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ http://www.thaifranchisecenter.com/home.php                                          เลือกซื้อแฟรนไชส์ที่คุณรักทำธุรกิจ http://www.thaifranchisecenter.com/directory/index.php

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2KWNhiN

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช