10 ข้อคิดจากการทำงานของ “ วิชัย ศรีวัฒนประภา ”

“ จิ้งจอกสยาม ” เลสเตอร์ ซิตี้ พลิกผันจากทีมลุ้นตกชั้นผงาดขึ้นคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2015-2016 ชนิดเหนือความคาดหมายและสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่ไม่ต่างอะไรจาก “เทพนิยาย” เลยก็ว่าได้

การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของเลสเตอร์ ซิตี้ และการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์สโมสรฟุตบอลดังในคราวนี้ มีที่มาจากหนุ่มใหญ่ผู้หลงใหลกีฬาลูกหนังนามว่า “วิชัย ศรีวัฒนประภา” และลูกชายหัวแก้วหัวแหวน “อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา” ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเลสเตอร์ ซิตี้

และแน่นอนว่า ชั่วโมงนี้ ใครๆ ย่อมต้องการรู้จัก “ตัวตน” ของบุคคลที่สามารถปลุกปั้น “อาณาจักรคิงเพาเวอร์” ให้เติบใหญ่ และสามารถนำพา เลส เตอร์ ซิตี้ ให้ก้าวขึ้นมาเทียบชั้นระดับแนวหน้า

วิชัย ศรีวัฒนประภา

ภาพจาก goo.gl/udlnif

วันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จึงขอนำเสนอข้อคิดที่ได้จากการทำงาน การบริหารธุรกิจ การสร้างอาณาจักรธุรกิจขายสินค้าปลอดภาษี สร้างทีมฟุตบอลขึ้นมาอันดับหนึ่งของอังกฤษ ของคุณวิชัย ศรีวัฒนประภา มาฝากนักธุรกิจรุ่นใหม่ พ่อค้าแม่ค้า เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจค้าขายของตนเอง มาดูกันเลยครับ

ll4

ภาพจาก goo.gl/8uwVDP

1.คอนเน็คชั่นคือใบเบิกทาง

คุณวิชัยสามารถประสบความสำเร็จในธุรกิจต่างๆ เพราะรู้จักสร้างคอนเน็คชั่นกับผู้หลักผู้ใหญ่ และผู้มีอำนาจทางด้านการเมืองและธุรกิจ โดยเฉพาะรัฐมนตรีที่มีอำนาจดูแลท่าอากาศยานต่างๆ และการท่องเที่ยว จนได้ชื่อว่า “King of Connection Power” พูดง่ายๆ คือ ใครใหญ่กว่าก็เข้าไปหา ทั้งเจ้าของสินค้าแบรนด์เนม เจ้าของสถานที่

นอกจาก อาณาจักรธุรกิจดิวตี้ฟรี คิง เพาเวอร์ และกิจการอื่น ที่มีมูลค่าทรัพย์สินกว่า 8.3 หมื่นล้านบาท ตามรายงานการจัดอันดับมหาเศรษฐีไทยในปี 2558 ของนิตยสารฟอร์บส์ ไทยแลนด์ เขาโด่งดังไปไกลถึงอังกฤษ ในฐานะเจ้าของทีมฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ที่ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งในพรีเมียร์ลีก และเป็นเจ้าของสนาม คิง เพาเวอร์ บิลลิ่ง แบร์ โปโล พาร์ค ด้วย

2.ทำอะไรต้องมีความสุข

คุณวิชัยแปลกกว่าคนอื่น ตรงที่ใช้ชีวิตด้วยความสุขเป็นตัวขับเคลื่อน ตั้งแต่เล็ก ถ้าจะทำอะไรต้องมีความสุข ถ้าไม่มีความสุขก็ไม่คิดว่าจะลงมือทำ ฉะนั้น ไม่ว่าจะแพง ถูก ไม่ใช่เหตุผลสำคัญ อยู่ที่ความชอบ เขาเป็นคนชอบอะไรก็มักจะเต็มที่ แบบสุดขั้ว ไม่คิดหรอกว่า สิ่งที่ชอบจะมีต้นทุนมากน้อยเท่าไหร่

ll5

ภาพจาก goo.gl/kwNfb9

3.โอกาสมา ต้องรีบคว้า

แม้ว่าต้องเสียเงินกว่า 300 กว่าล้านบาท เป็นค่าลัดคิวในการซื้อเครื่องบินเจ็ทรุ่นใหม่ของอเมริกา ชื่อรุ่น G650 มีเทคโนโลยีทันสมัยที่สุด ห้องโดยสารจะปล่อยออกซิเจนออกมาทุกๆ 2 นาที ทำให้อากาศในนั้นเหมือนอยู่บนภาคพื้นดิน ซึ่งจะไม่ทำให้รู้สึกเหนื่อย หรือเจ็ทเล็ก เพราะต้องรอคิวเครื่องบินนานกว่า 4 ปี เขารอไม่ไหว เพราะอายุมากแล้ว

นานๆ ทีจะมีโอกาสมาถึงสักครั้ง ไม่ใช่ว่าใครมีเงิน จะสามารถซื้อได้ ถ้ารอไม่รู้จะได้ใช้หรือเปล่า จึงตัดสินใจให้คนโทรหาเอเจนซี่ บอกไปว่าใครซื้อคิวให้เขาได้ มาคุยกัน ในที่สุดก็มีคนขายคิวให้

4.เป็นเศรษฐีต้องกล้าใช้เงิน

โลกเรามีเศรษฐีเยอะ แต่เศรษฐีที่ไม่กล้าใช้เงิน อาจเป็นเพราะเขาคิดเป็นห่วง และต้องการเก็บไว้ให้ลูกหลาน ถ้าเป็นลูกหลานคุณวิชัยยาก เขาไม่ใช่คนแบบทำกำไร 100 ใช้ 10 ให้ลูกหลาน 90 กลับกันเขาใช้ 90 ให้ 10 ก็ดีแล้ว

อย่างคุณวิชัยชอบซื้อไวน์ ซึ่งไวน์ดีๆ บางขวดก็หลายแสน คนบอกดีๆ ซื้อเก็บไว้ แต่เขาดื่มหมด ดื่มทุกวัน เพราะมีความรู้สึกว่าเก็บไว้แล้ว เมื่อตายจะให้เขาจุดธูปให้ ขอไม่เอา ขอดื่มตอนนี้ จะได้รู้ว่าเป็นอย่างไร มีสตางค์แล้วต้องกล้าใช้ ชีวิตจะได้มีความสุข

ll6

ภาพจาก goo.gl/GnpMqF

5.ทำธุรกิจที่สนใจ ทุกคนชอบ

เริ่มต้นสมัยคุณวิชัยเรียนไต้หวัน สมัยนั้นไม่มีบินตรง ต้องแวะเปลี่ยนเครื่องที่ฮ่องกง ขาบินกลับไทยตอนปิดเทอมต้องมีคนฝากซื้อของจากร้านปลอดภาษีที่ฮ่องกงทุกครั้ง ทำให้เขามีความคิดว่าทำไมประเทศไทยไม่มีร้านปลอดภาษีแบบฮ่องกงบ้าง นั่นเป็นความคิดที่ติดอยู่ในใจเขามาตลอด พอโตขึ้นยิ่งเดินทางบ่อย ทำให้เห็นธุรกิจดิวตี้ฟรีจากทั่วโลก พบว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ เป็นสิ่งที่คนเดินทางทุกคนชอบ จึงบอกตัวเองว่าน่าจะทำได้ในประเทศไทย

6.ทำธุรกิจต้องสร้างความเชื่อถือ

การทำธุรกิจให้สำเร็จ นอกจากจะมีคอนเน็คชั่นที่ดีแล้ว ยังต้องทำให้คู้ค่า ลูกค้า เชื่อถือเราก่อน ซึ่งความเชื่อถือนั้นมาจากความจริงใจ ตรงไปตรงมา ไม่เบี้ยว ไม่โกง พูดคำไหนคำนั้น

ll7

ภาพจาก goo.gl/nD3qop

7.มีความเป็นมืออาชีพ

ธุรกิจขายสินค้าปลอดภาษีต้องใช้มืออาชีพทำ ไม่ใช่แค่มีใบอนุญาตแล้วจะทำได้ ต้องมีคอนเน็คชั่น มีความชำนาญ หลังจากที่ธุรกิจดิวตี้ฟรีอยู่ในมือของ ททท. สุดท้ายปีเดียวก็เจ๊ง ททท.ต้องมาขอร้องให้คุณวิชัยเทคโอเวอร์ เป็นจังหวะเดียวกับรัฐบาลเปลี่ยน เขาบอกต้องมีเงื่อนไข ไม่ใช่เปลี่ยนรัฐบาลทีเขาก็โดนที และไม่ทิ้งลูกน้อง

ยิ่งตอนที่ประมูลสัมปทานได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ต้องเร่งลงทุนตกแต่งพื้นที่ทั้งหมดในสุวรรณภูมิ ภายในกำหนดโดยระยะเวลาที่สั้นมาก และต้องสวยที่สุด อีกทั้งยังต้องหาสินค้าแบรนด์ดีที่สุดมาจำหน่าย ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่จะต้องใช้ความเป็นมืออาชีพเท่านั้น ซึ่งคุณวิชัยและทีมงานก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาทำได้

8.รับฟังคนอื่น

สิ่งสำคัญของการคบใครให้ยาว อีกอย่างคือต้องฟังกัน ไม่ใช่คาดหวังให้เขาเห็นเหมือนเราไปเสียหมด อย่างวันนี้ที่ คุณชัยถือสัมปทานทั้งสุวรรณภูมิและดอนเมือง ขนาดเขามีคอนเน็คชั่น รู้จักกับแบรนด์เนมมานานกว่า 20 ปี

แต่ถึงเวลาตัดสินใจ เจ้าของแบรนด์เนมเขาไม่อยากให้สินค้าของเขาเป็นแบรนด์โหล ทั้งชาแนล แอร์เมส ดิออร์ เขาก็ให้คุณวิชัยเลือกเปิดได้ที่เดียว ฉะนั้น ที่คนอื่นเปิดไม่ได้ จึงเป็นเพราะไม่มีแบรนด์ไปลง ไม่ใช่เพราะเขาผมบล็อกไว้

ll9

ภาพจาก goo.gl/gFLKu1

9.มีความอดทน

หน้าที่ของคุณวิชัย คือ การทำให้ใบอนุญาตสัมปทานขายสินค้าปลอดภาษีไม่ให้หลุด แม้ว่าการทำธูรกิจดิวตี้ฟรีอาจถูกกระแทกบ้าง แต่ต้องอดทน มันต้องมีทั้งร้อนทั้งเย็น มีทั้งพายุ วิกฤตที่เขาเจอแต่ละครั้ง ไม่มีคำว่าล้อเล่น ทั้งโรคซาร์ ไข้หวัดนก โดนยึดใบอนุญาต ปิดสนามบิน ทุกคนที่อยู่กับคุณวิชัยล้วนผ่านวิกฤตนั้นมาด้วยกันทั้งหมดแล้ว

แต่เรื่องดีๆ คือพวกเขายังยืนอยู่ข้างคุณวิชัยตลอด ไม่เคยบอกว่าไม่เอาแล้ว ไม่ไหวแล้ว ซึ่งทั้งหมดมาจากคุณวิชัยตรงไปตรงมา ให้ใจ ทำให้เขาเกิดความเชื่อจนรู้สึกผูกพัน เป็นส่วนหนึ่ง เหมือนกับเขาคือพาร์ทเนอร์ คุณวิชัยลงทุน เขาลงแรง

10.มีความเป็นผู้นำ

ธุรกิจคิงเพาเวอร์เริ่มจากมีพนักงานหลักสิบคน จนวันนี้มีแปดพันคน แน่นอนว่าย่อมมีทั้งคนที่พอกินกับไม่พอ แต่บริษัทมีทั้งบอร์ดเล็ก บอร์ดกลาง บอร์ดใหญ่ ถ้าไม่พอ เขาต้องไปซัดกันก่อนที่จะมาถึงคุณวิชัย สุดท้ายก็เป็นเรื่องที่เขาอยู่ไม่ได้เอง

สิ่งสำคัญคือ คุณวิชัยจะต้องทำให้เขาเห็นว่า ไม่ว่าจะยามไหนก็แล้วแต่ คุณวิชัยสามารถเป็นผู้นำเขาได้ เขาต้องเชื่อเรา ไม่ใช่ยามที่เรามีความสุข เขาไม่เห็นเราเลย เช่นกันเวลาเราแย่ก็ต้องบอกเขา เราต้องแชร์กัน

ซึ่งรายละเอียดมันลงไปถึงว่า เราต้องดูว่าเขามีความเป็นอยู่อย่างไร ไม่ใช่เขาคนเดียว ครอบครัวเขาด้วย พนักงานผมต้องมีบ้าน มีรถ มีทุกอย่างให้พอ ผมเชื่อว่าถ้าเขาพอ เขาอิ่ม เขาจะไม่โกงเรา

ทั้ง 10 ข้อคิด ในการทำงานและการใช้ชีวิตของ “คุณวิชัย” ถือเป็นแบบอย่างที่ดี สำหรับนักธุรกิจรุ่นใหม่ ผู้ประกอบการ พ่อค้าแม่ค้า ในการนำไปเป็นแบบอย่างในการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะเรื่องของการสร้างคอนเน็คชั่น ที่จะสามารถช่วยให้ธุรกิจยืนหยัดอยู่รอดได้อย่างมั่นคง แม้มีพายุซัดถาโถมก็ตาม

“ผมยึดหลักว่า ทำธุรกิจอะไรแล้ว ถ้าไม่มีกำไร อย่าทำเลยดีกว่า”…วิชัย ศรีวัฒนประภา

สำหรับคำคม ข้อคิด สร้างแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตและการทำธุรกิจ ของคนเด่น คนดังระดับโลกมากมาย เข้าดูได้ที่ https://goo.gl/Z844ne

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช