เศรษฐกิจไทย กับการปรับตัวของนักธุรกิจขนาดย่อม

จริงๆแล้วเราเองได้รับบทเรียนราคาแพงมาจากช่วงค่าเงินบาทผันผวนมาแล้ว ความเข้มแข็งของนักธุรกิจรวมถึงวิธีการคิดที่ปรับตัวพร้อมการยืดหยุ่นกับสภาวะนั้นต้องบอกว่า นายแน่มาก พร้อมกับยกหัวแม่โป้งมือให้อย่างนับถือ

จะว่าไปแล้วการพัฒนา เศรษฐกิจของไทย ถือว่าค่อนข้างพัฒนาได้ดีขึ้นกว่าช่วงก่อนวิกฤตการณ์ การได้รับบทเรียนที่ดีทำให้ระบบเศรษฐกิจของเรายืดหยุ่นพอสมควรการกระจายความเข้มแข็งเข้าไปสู่ภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมทำให้ระบบธุรกิจกระจายตัวได้สม่ำเสมอทำให้ในแต่ละปีอย่างน้อย เศรษฐกิจไทย เราก็โต 6-7%

เมื่อธุรกิจขนาดกลางสามารถสร้างตลาดและรองรับธุรกิจขนาดใหญ่และสร้างตลาดพื้นฐานขึ้นมาได้ก็ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจมีระบบป้องกันลดความเสี่ยงหลังจากผ่านวิกฤติการณ์ช่วงนั้นมาได้แล้วเราก็ต้องยอมรับว่าประเทศไทยในช่วง10ปีที่ผ่านมายังเป็นช่วงขาขึ้น(ซึ่งไม่ได้หมายถึงเอาขาขึ้นมาก่ายหน้าผากแทนแขนนะครับ)

เศรษฐกิจไทย

ปัญหาระบบเศรษฐกิจช่วงหลังที่เราคิดกันไม่ใช่เรื่องสร้างหรือแก้ไขระบบเศรษฐกิจแต่เป็นเรื่องที่เราจะต้องรักษาเสถียรภาพ เศรษฐกิจไทย ให้คงความดีไปได้อย่างไร ในขณะที่มีหลายสาเหตุที่ทำให้ความมั่นคงด้านค้าขายของเราผันผวน อย่างเรื่องของค่าเงินที่ไม่เสถียรที่คิดทีไรเสียวสันหลังยังตามมาหลอกหลอน

และในปัจจุบันที่เป็นเรื่องน่าห่วงอย่างมากคือ ความไม่แน่นอนในเรื่องราคาน้ำมัน ทำให้การค้าขายปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนรูปแบบการค้าภาวการณ์แข่งขันก็รุนแรงขึ้น ยิ่งพฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนไปด้วยมีความซับซ้อนยากขึ้น สิริรวมความแล้วเรียกได้ว่า เป็นความเสี่ยงของเศรษฐกิจจะมีมากขึ้น ต้นทุนสูงขึ้น แต่ตรงข้ามที่วิธีการปรับราคาสร้างกำไรเพิ่มโดยปรับภาระสู่ผู้บริโภคเป็นไปได้ยากกว่าอดีตเยอะเลย

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า สิ่งที่พิสูจน์ได้ถึงระบบ เศรษฐกิจของประเทศไทย ที่มั่นคงนั้นกลับเป็นเรื่องที่เป็นเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นที่ผ่านมา ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าค่อนข้างรุนแรงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทั้งเรื่องการที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมารวมทั้งเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่บานขึ้นทันตา หรือจะทวนความจำถึง การเกิดระบาดของโรคซาร์ส ตามด้วยไข้หวัดนก และก็ยังต้องแก้ปัญหาความรุนแรงในภาคใต้

ซึ่งวันนี้ก็ยังเป็นปัญหาที่ยังต้องแก้ต่อไปแล้วก็ซ้ำด้วยปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองเข้าไปอีก ทั้งหมดเป็นเรื่องที่เกิดติดๆกันแต่ก็ยังสามารถรักษาภาพรวมของเศรษฐกิจได้ ถึงแม้ว่าจะต่ำกว่าเป้าที่วางไว้หรืออาจจะบอกว่าเป็นแค่ตัวเลขสวยหรูแต่ความจริงก็ยังพูดได้ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มให้เห็นว่ามีการพัฒนาต่อเนื่องได้ ทั้งๆที่ความเข้มแข็งดังกล่าวไม่มีปัจจัยบวกมาสนับสนุนเท่าไรจึงน่าจะเชื่อได้ว่าถ้าในช่วงปีหลังต่อนี้ไปไม่มีเรื่องราวต่างๆรุนแรงอย่างที่ผ่านมาระบบเศรษฐกิจก็คงสามารถเติบโตได้มากขึ้นแน่นอน

จุดสำคัญของการพัฒนาปรับตัวของพวกเราที่เป็นธุรกิจขนาดเล็กมาถึงจุดที่จะต้องมีการส่งเสริมตามศักยภาพจริงที่เรามี หาทางทำให้เห็นรูปธรรมจากวิธีการพัฒนามากขึ้นทำให้การหมุนของเงินทุนและกำลังซื้อสร้างตลาดขึ้นมาพร้อมๆกันอย่าสร้างภาระมากเกินไป

รวมถึงต้องบอกให้ทุกคนมองด้านบวกของสถานการณ์ให้มากเข้าไว้แต่ต้องติดตามเรื่องราวต่างๆมากขึ้นเพื่อการปรับตัวให้ทันการ สิ่งที่จะเป็นปัจจัยเชิงลบที่ส่งผลกระทบกับธุรกิจในระยะจากนี้ไป 4-5 ปีข้างหน้าไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ภาวะดอกเบี้ยซึ่งคาดว่าจะต้องมีการปรับตัวสูงขึ้น

นอกจากนั้นยังมีบางปัจจัยที่มีความเสี่ยงในระยะสั้น โดยเฉพาะความไม่สมดุลทางการเงินอย่าใช้จ่ายเกินตัวถ้าต้องมีการลงทุนต้องมีความมั่นใจและแผนงานที่ชัดเจนก่อนวางโครงการ ตามมาด้วยเรื่องราคาน้ำมันที่จะต้องมีการปรับตัวสูงขึ้นหาจุดลงตัวยากซึ่งการขึ้นราคาในระดับนี้จะเป็นการขึ้นอย่างถาวรเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

การปรับราคาน้ำมันจะทำให้ต้นทุนทุกด้านโดยเฉพาะการขนส่งมีการปรับสูงขึ้นมากกว่าเท่าตัว ต้องพร้อมในการจัดการเรื่องนี้ไว้แต่เนิ่นๆ เรื่องต่อมาอาจจะเป็นสิ่งไกลตัวขึ้นอีกนิดคือ ระบบการเงินของโลกโชคดีที่ผลการปรับค่าเงินที่ผ่านมาทำให้เราเรียนรู้ถึงความสำคัญของการเปลี่ยนค่าเงินมากขึ้น

r3

ดังนั้นการสังเกตค่าเงินที่เปลี่ยนแปลงก็เท่ากับการสร้างเครื่องป้องกันธุรกิจได้มากขึ้น การป้องกันเรื่องค่าของเงินจึงยังเป็นสิ่งที่สำคัญต่อเนื่องในระยะห้าปีต่อไป สุดท้ายคือเรื่องของปัญหาทางสังคม การเมือง แต่เมื่อไรที่เราสร้างให้ระบบประชาธิปไตยเข้มแข็งได้ มีความโปร่งใส มีความสะอาดบริสุทธิ์ได้จะต้องเกิดจากสังคมที่เข้มแข็ง เป็นสังคมที่สามารถควบคุมรัฐบาลได้

ดังนั้นการเติบโตของระบบธุรกิจยังมีต่อเนื่องถึงอย่างไรการบริโภคและใช้จ่ายของประชาชนคาดการณ์ว่ายังมีการเติบโตต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 10% การเติบโตของระบบเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องนั้นเป็นผลจากการเติบโตของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่สร้างตลาดและการย่อยผลิตภัณฑ์สู่ตลาดระดับมวลชนและสร้างตลาดวงกว้างได้อย่างดีแม้ว่าต้นทุนการจัดการจะสูงขึ้น

การปรับตัวขยายธุรกิจจะต้องระวังผลจากการปรับต้นทุนการประกอบการโดยรวมให้ดีเสียก่อนลงมือทำอะไรเพราะถ้าขยายธุรกิจที่ขาดแผนรองรับ เล่นจะเสี่ยงกับดวงจะต้องบอกว่า ไม่เหมาะกับการขยายลงทุนธุรกิจในระยะนี้

ถ้าเป็นไปได้น่าจะหันมามุ่งเน้นปรับปรุงภายในให้เข้มแข็งขึ้นจะดีกว่า เน้นการสร้างระบบงานมาตรฐานต่างของตัวเองให้มากขึ้น อย่าคิดทำธุรกิจในเชิงระบบเก็งกำไร ซึ่งช่วงนี้จะยังไม่สามารถสร้างผลกำไรได้จริง สู้ธุรกิจที่เป็นพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตจึงจะสร้างตลาดของตัวเองและสร้างกำไรเป็นของจริงมากกว่า หากำไรจากทุนภายในของตัวเองเสี่ยงน้อยกว่าการมุ่งไปหากำไรมาจากภายนอก

พวกเราชาวบ้านร้านค้าคิดให้หนัก เน้นคุณภาพเข้าไว้จะดีกว่า แล้วการปรับตัวอย่างนี้นะครับ การันตีได้ว่า ถึงไม่รุ่งแต่อย่างไรก็ไม่ร่วงหรอกครับ

 

ลิขสิทธิ์รูปภาพโดย ThaiSMEsCenter.com

บทความโดย ดร.พีระพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์ บริษัท บิสิเนส โค้ช แอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด

Email : peerapong@consultant.com