เปิดใจครั้งแรก “บอส กีรติ” ยูทูปเบอร์ไทยคนแรกโกอินเตอร์

เชื่อว่าในวันนี้ หลายๆ คนในโลกออนไลน์คงรู้จัก “ ยูทูปเบอร์ ” (Youtuber) กันเป็นอย่างดี เพราะเป็นผู้ทำรายการใน Youtube ที่มีผู้คนติดตามและดูเป็นจำนวนมาก

ยูทูปเบอร์

วันนี้ www.ThaiSMesCenter.com จะพามาทำความรู้จักกับ Youtuber ไทยอีกคนหนึ่ง ที่ได้นำเอาความบันเทิง ความรู้ สาระ ข้อคิดมากมาย มาให้ทุกคนได้ชมกันทุกอาทิตย์

ยิ่งถ้าเอ่ยถึงชื่อ Youtuber ไทยคนนี้ เชื่อว่าทุกคนน่าจะรู้จักคุ้นเคยกันดี เพราะเขามีชื่อเสียงโด่งดังบนโลกออนไลน์มาก่อน ตั้งแต่การทำรายการแรกๆ ใน Youtube “แปลเพลงตรงตัว” ในช่อง Bosskerati นั่นก็คือ “บอส กีรติ กีรติชีวนันท์”

ประสบการณ์ชีวิตก่อนมาเป็น Youtuber ชื่อดัง

h1

บอส กีรติ เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนนานาชาติ ไทย-จีน อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เพราะพ่อของเขาเป็นคนจีนแท้ๆ ที่เติบโตในประเทศไทย สมัยนั้นหาที่เรียนยาก จึงอยากให้ลูกได้เรียนภาษาจีน

หลังจากนั้นสอบเข้าเรียนต่อที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถือว่าเรียนเก่งพอสมควร เพราะสอบติดถึง 3 คณะ (คอมดีไซน์ บริหารธุรกิจ นิเทศศาสตร์) แต่ บอส กีรติ เลือกเรียนคณะนิเทศศาสตร์ เกี่ยวกับการบริหารสื่อ เรียกว่าเรียนทุกๆ อย่างในนิเทศศาสตร์

โดยระหว่างที่เรียนอยู่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ช่วงปี 3-4 ทางมหาวิทยาลัยได้มีโครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาในต่างประเทศ ให้นักศึกษาเลือกว่าจะไปที่ไหน

พอบอส กีรติ เห็นว่ามีโครงการดีๆ ก็เลยสมัครและได้รับการคัดเลือกให้ไปเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนที่ RMIT University (Royal Melbourne Institute of Technology University) เป็นสถาบันการศึกษาที่ได้รับความนับถือมากที่สุดแห่งหนึ่งของออสเตรเลีย โดยใช้เวลาเรียนแลกเปลี่ยนประสบการณ์อยู่ที่นั่นประมาณครึ่งปี

h2

แต่ระยะเวลาครึ่งปีที่อยู่ที่นั่น บอส กีรติ ได้ใช้เวลาที่คุ้มค่าอย่างมาก เพราะแทนที่เขาจะเข้าเรียนในห้อง แล้วกลับที่พัก บอส กีรติ กลับใช้เวลาว่างหรือวันหยุด ทำงาน หาเงินส่งเสียตัวเองเรียน เพราะไม่อยากขอเงินจากทางบ้าน ทั้งๆ ที่พ่อแม่พร้อมจะส่งเงินไปให้อยู่แล้ว แต่ บอส กีรติ เลือกที่จะหาประสบการณ์ชีวิตด้วยตนเอง

งานแรกที่เขาเลือกทำในช่วงที่อยู่ออสเตรเลีย ก็คือ พนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารไทย ซึ่งถือเป็นอาชีพยอดฮิตของเด็กนักเรียนไทยเมื่อยามไปอยู่ในต่างแดน ด้วยความตั้งใจและคิดเอาไว้ตั้งแต่แรกของบอส กีรติว่า การทำงานในร้านอาหารไทย น่าจะทำให้เขามีรายได้เยอะ เพราะเขาสามารถพูดได้หลายภาษาทั้งไทย อังกฤษ จีน

แต่ความตั้งใจของเขาก็อยู่ได้ไม่นานหลังจากได้เงินเดือนก้อนแรก เพราะบอส กีรติได้เงินเดือนเท่ากับพนักงานคนอื่นๆ ทั้งที่ตัวเขาเองพูดได้หลายภาษา แต่จริงๆ แล้วทางเจ้าของร้านอาหารไทย ไม่ได้คิดเหมือนกับเขา โดยเจ้าของร้านอ้างว่า ใครที่ทำงานร้านอาหารไทยและพูดภาษาไทยได้ ก็จะได้ค่าแรงเท่ากันหมด ไม่จำเป็นต้องต้องเก่งหลายภาษา

kk

หลังจากนั้น บอส กีรติ ก็ลาออกจากร้านอาหารไทย หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้งานใหม่ที่ดีกว่าเดิม เป็นบาร์เทนเดอร์ในร้านอาหารฝรั่ง ย่านไชน่าทาวน์ประเทศออสเตรเลีย

ซึ่งสาเหตุที่บอส กีรติได้ทำงานในร้านอาหารฝรั่ง ก็เพราะความเป็นคนชอบพบปะพูดคุยกับผู้คนทั่วๆ ไปของเขา ทำให้เขาได้รู้จักกับคุณลุงแก่ๆ ที่ขายซิมอยู่ย่านนั้น และก็แนะนำให้เขาไปทำงานที่นั่น ซึ่งในตอนหลังนั้น ลุงแก่ๆ คนที่บอส กีรติรู้จักและพูดคุยกันเป็นประจำ ก็คือ เจ้าของร้านอาหารฝรั่งแห่งนี้นั่นเอง

หลังจากเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนในประเทศออสเตรเลียครึ่งปี บอส กีรติ ก็ได้กลับมาเมืองไทย โดยก่อนที่จะเรียนจบจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เขาได้ร่วมหุ้นทำธุรกิจเล็กๆ เนื้ออบแห้งกับเพื่อน แต่ก็ทำได้ไม่นาน ประมาณเกือบ 2 ปี เขาก็ได้ปลีกตัวออกจากธุรกิจเป็นผู้ถือหุ้นธรรมดา เพราะแนวความคิดของเขากับเพื่อนไม่สอดคล้องกัน

หลังจากนั้น บอส กีรติ ได้เข้าทำงานในบริษัทเอกชนแห่หนึ่ง เป็นเซลล์ขายเครื่องปรับอากาศ โดยในแต่ละเดือนเขาจะต้องเดินทางต่างประเทศประจำ ไม่ว่าจะเป็น ลาว พม่า เวียดนาม กัมพูชา แต่พอทำงานในตำแหน่งนี้ประมาณ 1-2 ปี ทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองไม่เหมาะกับทำหน้าที่ในการขาย จึงขอเจ้านายย้ายไปทำการตลาด ดูเรื่องของแบรนด์เป็นหลัก

เส้นทางสู่การเป็น Youtuber

s1

ระหว่างที่บอส กีรติ ย้ายตำแหน่งการทำงานใหม่ เขาก็มีโอกาสทำรายการใน Youtube ควบคู่กับการทำงานไปด้วย โดย Content แรกของเขาใน Youtube ก็คือ การแปลเพลงตรงตัว โดยหยิบยกเพลงจากฝั่งตะวันตก เช่น เพลง Lost stars ของ Adam Levine ประกอบในภาพยนตร์เรื่อง Begin Again มาแปลเป็นภาษาไทยและร้อง Cover

แต่เสน่ห์ของการทำคลิปนี้ กลับไม่ได้อยู่ที่เสียงของเขา แต่กลับเป็นการนำเนื้อเพลงภาษาอังกฤษที่เขาแปลเอง แล้วนำเนื้อที่แปลมาใส่ทำนองแล้วร้อง ถือว่าได้สร้างความตลกขบขันบนโลกออนไลน์อย่างมาก

h4

ภาพจาก https://goo.gl/UT2y2h

สำหรับคลิปวิดีโอที่สร้างชื่อให้ บอส กีรติ ก็คือ เพลง Baby ของ Justin bieber ที่แปลตัวตัวเป็นภาษาไทยว่าเพลง “ทารก” ทำให้เขาได้รับความนิยมมากขึ้น กระทั่งเขานำคำว่า “ทารก” มาสกรีนบนเสื้อของเขา และวางขายในโลกออนไลน์อีกด้วย

แม้ว่าคลิปการแปลเพลงตรงตัวจะได้รับความนิยมจากคนดูจำนวนมาก แต่ด้วยลิขสิทธิ์ของเพลงที่เขานำมาประกอบในคลิป ทำให้ต้นทุนการผลิตหายไปด้วย

s2

หลังจากนั้น บอส กีรติ ก็ได้เปลี่ยน Content ใหม่มาเป็น “บอสอ่านข่าว” ที่เขาจะมาเล่าข่าวแปลกๆ รอบโลกที่เกิดขึ้น และนำมาวิเคราะห์ในมุมสนุกๆ จนขยายฐานกลุ่มคนดูได้เพิ่มในวงกว้าง

แต่แม้ว่า Content รายการ “บอสอ่านข่าว” จะได้รับความนิยมจากคนดูอีกเช่นเคย แต่บอส กีรติ ก็อยากที่จะเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอ Content ใหม่ๆ ให้คนดูต่อเนื่อง ประกอบกับเขาขี้เกียจตื่นแต่เช้าตั้งแต่ตี 4 ลุกขึ้นมาอัดคลิปตัวเองอ่านข่าวและวิเคราะห์ข่าวจากเว็บไซต์ต่างๆ ก่อนที่จะไปทำงาน จึงเปลี่ยนรูปแบบนำเสนอสไตล์และตัวตนของตัวเองแทน

Youtuber ไทยคนแรกเข้าแคมป์เรียนตำราต่างประเทศ

g1

หากยังจำได้เมื่อช่วงปลายปี 2016 Youtube ได้ประกาศผล 16 ครีเอเตอร์ ที่ได้รางวัลเป็นเงินทุนกว่า 8 หมื่นบาท เพื่อสนับสนุนด้านอุปกรณ์ผลิตคอนเทนต์ เช่น กล้อง ไฟ ไมโครโฟน เป็นต้น

โดยช่อง BossKerati ของ บอส กีรติ เป็น 1 ใน 16ช่องยูทูปที่ได้รับรางวัล โดยเขาคัดเลือกจากช่องยูทูปที่มียอดคนดูไม่ถึงแสน และมองว่าถ้าได้รับการสนับสนุนจากยูทูปจะสามารถติดปีกบินไปได้ไกล

นอกจากเงินแล้ว ครีเอเตอร์ทั้ง 16 ช่องจะเข้าร่วม NextUp โปรแกรมพัฒนาและเรียนรู้เกี่ยวกับการผลิตวิดีโอสำหรับครีเอเตอร์เต็มสัปดาห์ที่ YouTube Pop-up Space กรุงเทพฯ

สำหรับโปรแกรม NextUp คือ โครงการที่ YouTube ทำเพื่อช่วยสนับสนุนครีเอเตอร์ในการพัฒนาช่องของตัวเอง ทำมาแล้ว 15 ประเทศ ครีเอเตอร์จะได้เข้ามาเรียนรู้การทำคอนเทนต์ สร้างวิดีโอ พื้นฐานการผลิตกับผู้เชี่ยวชาญตลอด 1 สัปดาห์ที่ YouTube Pop-up Space จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต

k3

จะว่าไปแล้ว บอส กีรติ อาจจะเหมาะสำหรับการเป็น Youtuber จริงๆ ก็ได้ เพราะหลังจากนั้นไม่นาน ช่อง Bosskerati ของเขา ก็ได้ถูกคัดเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทยในการเดินทางเข้าแคมป์ Youtube Global Creator Camp NYC 2017! ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา นั่นแสดงว่า บอส กีรติ เป็น Youtuber คนแรกของประเทศไทยที่ได้รับการคัดเลือกเข้าแคมป์นี้

ปัจจุบันช่อง Bosskerati มีจำนวนผู้ติดตาม 699,623 คน ยอดจำนวนคนดู 76,796,361 ครั้ง (ณ วันที่ 9 พฤษภาคม 2561) นั่นแสดงให้เห็นว่า youtuber อย่าง บอส กีรติ ได้นำความรู้หรืออาวุธที่ได้จากการเข้าแคมป์ในต่างประเทศ มาสร้างสรรค์ Content เนื้อหาสาระได้โดนใจคนดูเป็นอย่างดี เพราะรูปแบบ Content ที่เขานำเสนอเปลี่ยนจากการแปลเพลงตรงตัว และบอสอ่านข่าว มาเป็นการนำเสนอแนวคิด ข้อสงสัย ที่ต้องหาคำตอบให้ได้ ซึ่งถือเป็นตัวตนของบอส กีรติอย่างแท้จริง

โดยตัวตนที่แท้จริงของ บอส กีรติ คือ จะเป็นคนที่มีความซุกซน อยากรู้อยากเห็น สนุกสนาน และการเป็นนักเรียนรู้อยู่ข้างใน ปัจจุบันเขาสามารถดึงเอาตัวตนเหล่านี้ ออกมาใช้ใน Content ได้อย่างเต็มที่ เนื้อหาตอบโจทย์กลุ่มคนวัยทำงานอายุ 18-24 ปี ได้กว้างขวางมากขึ้น แต่เขาบอกว่าจะไม่ทิ้งคอนเทนท์อ่านข่าว จะหยิบมาใส่เป็นบางครั้งถ้าน่าสนใจ

การเป็น Youtuber ไม่ใช่เรื่องง่าย!

g3

บอส กีรติ ยังฝากถึงน้องๆ ที่อยากทำรายการใน Youtube ด้วยว่า การเป็นยูทูปเบอร์ ไม่ใช่ว่าใครอยากจะทำก็ทำได้ ต้องอาศัย Passion เยอะมาก ถ้าน้องๆ อยากทำคลิปเพราะอยากดัง แล้วไม่มีอะไรจะพูด เขาไม่แนะนำให้ทำ

เพราะจะทำให้เสียเวลาไปเปล่า ถ้าคลิปแรก หรือ 2-3 คลิปแรก ไม่ดึงดูด ก็ไม่มีใครดูเลย ถ้าพูดไปแล้วไม่มีประเด็นให้ติดตาม คนดูก็จะไม่ให้โอกาสอีกต่อไป ด้วยความที่ทุกวันนี้โลกอินเตอร์เน็ตไปไกลมาก

อาจจะไม่มีโอกาสให้กับ Content ของครีเอเตอร์หน้าใหม่ด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นคลิปแรกต้องทำออกมาชัดเจน นำเสนออะไร และจะพูดอะไร ที่สำคัญต้องเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด

เราจะเห็นได้ว่า บอส กีรติ เป็นคนเก่ง เป็นคนขี้สงสัย แล้วอยากหาข้อมูล อยากเรียนรู้ อยากทดลองนู่นนี่ เพื่อทำให้หายสงสัยตลอดเวลา นั่นคือ ตัวตนที่แท้จริงของ บอส กีรติ ที่ไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ แต่เขาต้องการหาสาระ ให้ความรู้ ปนด้วยความสนุกสนาน เพื่อคลายเครียดให้กับคนดูมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นอนาคตของการเป็น Youtuber แต่เขาก็จะทำวันนี้…ให้ดีที่สุด

อ่านบทความอื่นๆ จากไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ www.thaifranchisecenter.com/home.php
อ่านบทความจดหมายข่าวคนอื่นๆ www.thaifranchisecenter.com/newsletter/index.php

ติดต่อและติดตามผลงาน บอส กีรติ

keratistudio@gmail.com
www.youtube.com/user/bosskerati
www.facebook.com/BossKerati

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2YeDhEW

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช