อยากลงตู้ขาย ไอศกรีมกูลิโกะ ต้องอ่าน!

ต้องบอกว่ามาแรงแซงทางโค้งจริงๆ สำหรับ “ไอศกรีมกูลิโกะ” แบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นที่ได้เข้ามาบุกตลาดเมืองไทยเป็นครั้งแรก ก่อนหน้าใครจะกินก็ต้องบินไปกินที่ญี่ปุ่นเท่านั้น

ในเวลานี้ใครที่ไม่รู้จัก ไอศกรีมกูลิโกะ ถือว่าไม่ทันสมัย เพราะโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างเกาะกระแสแต่ไอศกรีมตัวนี้ ราคาเท่าไหร่ หาซื้อที่ได้ไหน อยากลองบ้าง ราวกับว่าเป็นสมบัติที่มีค่าหายากที่ต้องออกตามหา ชนิดที่ว่ามีคนตั้งกระทู้ล่าหาลายแทงที่ตั้งและชี้เป้าจุดขายในพันทิปเลยทีเดียว

แต่จากนี้จะไม่ใช่เรื่องยาก เพราะในวันนี้ www.ThaiSMEsCenter.com จะนำข้อมูลและพิกัดจุดขายมาให้ดู รวมถึงขั้นตอนการลงตู้ไอศกรีมกูลิโกะมาฝากท่านที่สนใจ หรือผู้ประกอบการร้านค้าที่อยากจะมีรายได้เพิ่มขึ้น เพราะจากการลงสำรวจพื้นที่ของเราพบว่า หลังจากลงสินค้าเมื่อไหร่จะหมดภายใน 1 ชั่วโมง

ทำความรู้จักกับ ไอศกรีมกูลิโกะ

ไอศกรีมกูลิโกะ

มาดูกันว่า “ไอศกรีมกูลิโกะ” มีดีอย่างไร ทำไมคนถึงได้คลั่งไคล้กันขนาดนี้ ไอศกรีมกูลิโกะเป็นสินค้าในเครือเดียวกันกับ “กูลิโกะ ป๊อกกี้” ที่เราคุ้นเคยนั่นแหละ

โดยบริษัท เอซากิ กูลิโกะ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ในญี่ปุ่น ได้ใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท เปิดตัวบริษัทลูกอย่าง กูลิโกะ โฟรเซ่น (ประเทศไทย) เพื่อทำการผลิตและจำหน่ายไอศกรีมในประเทศไทย โดยเบื้องต้นจ้างคนอื่นผลิตให้ก่อน โดยใช้สูตร กระบวน และขั้นตอนผลิตจากญี่ปุ่น

g3
โดยในตอนนี้มีสินค้าไอศกรีมกูลิโกะวางจำหน่ายในตู้ 4 ยี่ห้อ 8 รสชาติ ให้คนไทยได้ลิ้มลองและฟินกันแบบเต็มแม็กซ์ ได้แก่ พาลิตเต้ (Palitte), ไจแอนท์ โคน (Giant Cone), พาแนปป์ (Panapp) และ เซเว่นทีน ไอซ์ (Seventeen Ice) ราคาตั้งแต่ 20 – 35 บาท ซึ่งถือเป็นราคากลางๆ ที่ไม่ค่อยมีในตลาด รสชาติอร่อย หวานไม่มาก กำลังพอดีๆ

ในช่วงที่ผ่านการทำตลาดของไอศกรีมกูลิโกะถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก ช่วยเพิ่มยอดขายให้กับผู้ประกอบการร้านค้าที่ลงตู้ไอศกรีม เพราะมีลูกค้าเข้าร้านเพิ่มขึ้น จนสินค้าขาดตลาด บางที่เป็นเพียงร้านเสริมสวยและขายกาแฟถึงกับต้องเก็บตู้ไอศกรีมไว้เพื่อรอสินค้าล็อตใหม่ แต่ก็มีลูกค้าเข้าไปถามอย่างต่อเนื่อง

g4
กลยุทธ์การตลาดของไอศกรีมกูลิโกะ ตั้งใจสร้างกระแสผ่านสังคมออนไลน์ ผลิตสินค้าออกมาน้อยๆ จำกัดพื้นที่การขาย เพื่อให้คนตามหา เพราะเขารู้ว่าคนไทยชอบลิ้มลองของที่แปลกใหม่ เมื่อคนหนึ่งได้ชิมแล้ว ก็เกิดกระแสปากต่อปากอะไรแบบนี้ ยิ่งทุกวันนี้กระแสกินแล้วแชร์มาแรง คนที่หาซื้อได้ก็จะถ่ายรูปและโพสต์ในทันที

อยากขายไอศกรีมกูลิโกะ ไม่ยากอย่างที่คิด!

g5

สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ ทั้งโชว์ห่วย ร้านของชำ ร้านเสริมสวย รวมถึงร้านสะดวกซื้อ มินิมาร์ท ที่สนใจอยากจะสร้างรายได้เพิ่มจากการขายไอศกรีมกูลิโกะ (เฉพาะร้านค้าที่ยังไม่มีเซลล์ติดต่อ) มีขั้นตอนง่ายๆ คือ คุณต้องเข้าไปสอบถามหรือโทรแจ้งความจำนงว่า

สนใจลงตู้ไอศกรีมกูลิโกะได้ที่ สำนักงานใหญ่บริษัทกูลิโกะ อาคารเพลินจิตทาวเวอร์ ชั้น 4 เลขที่ 898 ถ.เพลินจิต ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทร. 02 263 0550-1 (ฝ่ายขาย) แจ้งชื่อ ที่อยู่ สถานที่ตั้งร้านค้า ประเภทร้านค้าเอาไว้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายติดต่อกลับมา

g6

โดยไม่ต้องเสียใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นจากการขอลงตู้ไอศกรีมกูลิโกะ ผู้ประกอบการร้านค้าจะมีรายได้จากการขายไอศกรีมชิ้นละประมาณ 20% ในราคาตั้งแต่ 20-35 บาท (สามารถลงกี่ชิ้นก็ได้ ลงน้อยขายน้อย ลงมากขายมาก) มีทั้งตู้ขนาดเล็ก และตู้ขนาดใหญ่

ขอบอกเลยนะว่าธุรกิจนี้น่าสนใจไม่น้อย ไม่ลองไม่รู้นะครับ เพราะจากการลงพื้นที่สำรวจตามร้านค้าที่ลงตู้เอาไว้ของทีมงานของ www.ThaiSMEsCenter.com พบว่ามีแต่ตู้เปล่า สินค้าขายหมดเกลี้ยงเพียงแค่ชั่วโมง ต้องติดป้ายรอสินค้าล็อตใหม่ที่กำลังจะมาในอีกสัปดาห์ หรือไม่ก็ 2-3 วัน

g7
ล่าสุดทีมงานได้ลงสำรวจพื้นที่อีกครั้งและสามารถซื้อไว้ได้ ในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับการลงของในตอนเช้า 9 โมงเช้า ณ แฟมิลี่มาร์ท สาขาซอยอนามัยงามเจริญ ทีมงานได้ซื้อไอศกรีมกูลิโกะ ดังแสดงในรูปภาพพร้อมราคาแสดงในรายการสินค้า ไอศกรีมกูลิโกะ ที่ซื้อมา 4 รสชาติอย่างละ 1 แท่ง พร้อมราคาจำหน่ายปลีกต่อชิ้น

g8
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการท่านใดหรือคนที่สนใจลิ้มลองรสชาติไอศกรีมกูลิโกะ สามารถคลิกเข้าไปดูร้านค้าและพิกัดจุดขายได้แล้วที่ลิงค์นี้

หรือ ต้องการ Download เอกสารเพิ่มเติม คลิก!

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2EA474g

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช