ส่อง 10 วิธีหาเงินอู้ฟู่! ช่วงปิดเทอม

เย้ๆๆ ปิดเทอมแล้ว! เสียงเด็กๆที่อาจจะดีใจ แต่พ่อแม่บางทีก็กลุ้มใจว่าปิดเทอมใหญ่แบบนี้ จะให้ลูกทำอะไรดี บางทีพ่อแม่ก็ยุ่งวุ่นวายกับการทำงาน ไม่มีเวลาดูแลลูก ต้องฝากเด็กไว้กับญาติพี่น้อง เด็กที่โตหน่อยก็อาจจะดูแลตัวเองได้แต่พ่อแม่ก็ยังอดห่วงไม่ได้ว่าลูกจะแอบไปทำอะไรในช่วงปิดเทอมนี้บ้าง

ยิ่งยุคนี้สื่อยั่วยุมีอยู่รอบตัวดีไม่ดีไปทำอะไรที่มันเลวร้ายจะกลายเป็นปิดเทอมที่ไม่น่าจดจำและเพื่อป้องกันไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น www.ThaiSMEsCenter.com มีทางออก คือ การให้น้องๆ หารายได้ในช่วงปิดเทอมนี้

ข้อดีคือจะได้ไม่ไปทำอะไรนอกลู่นอกทาง แถมยังเป็นการสะสมประสบการณ์และทำให้รู้จักคุณค่าของเงิน ที่สำคัญรายได้ที่มาจากการทำงานปิดเทอมอาจมากพอให้เอาไปใช้จ่ายในตอนเปิดเทอมได้ด้วย

คำว่าปิดเทอมในที่นี้เรารวมทั้งเด็กระดับประถมและมัธยมศึกษาอายุตั้งแต่ 3 -18 ปี ซึ่งแน่นอนว่าความหลากหลายของช่วงอายุที่ต่างกัน งานที่ทำได้ก็ย่อมแตกต่างกันด้วย ตามกฎหมายแรงงานระบุว่าห้ามนายจ้างจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นลูกจ้าง

ส่วนเด็กที่อายุมากกว่า 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี นายจ้างต้องแจ้งต่อพนักงานตรวจแรงงานภายใน 15 วัน นับแต่วันที่เด็กเข้าทำงานและแจ้งการสิ้นสุดการจ้างเด็กนั้นต่อพนักงานตรวจแรงงานภายใน 7 วัน

นับแต่วันที่เด็กออกจากงานซึ่งถ้ามองดูกฏหมายที่เป็นกรอบกำหนดแล้ว 10 อาชีพ ช่วงปิดเทอมยอดฮิตที่เด็กๆทำได้จึงมีผสมกันทั้งแบบต่ำกว่า 15 ปี ทำได้แต่ไม่ใช่การเป็นลูกจ้าง กับแบบที่เป็นลูกจ้างแบบอายุไม่ถึง 18 ปี

1.พนักงานโรงภาพยนตร์

ช่วงปิดเทอม

ภาพจาก goo.gl/images/4C6i6P

เป็นอีกหนึ่งงานพาร์ทไทม์ยอดฮิตแต่ส่วนใหญ่จะเลือกจ้างเด็กที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ที่ถือว่าบรรลุนิติภาวะและสามารถทำงานได้อย่างไร้ข้อจำกัด ซึ่งมีงานหลายแผนกให้ทำ เช่น ขายตั๋ว แนะนำลูกค้า ขายขนม น้ำ และป๊อปคอร์น หรือแผนกฉีกบัตรล้วนแล้วแต่เป็นงานที่ไม่หนักหนาเกินไป

สำหรับเด็กๆ รายได้ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อประมาณ วันละ 250 บาท โดยประมาณ ใช้เวลาทำงานวันละไม่เกิน 6 ชั่วโมง หรือถ้าใครขยันหน่อยจะทำ 8 ชั่วโมงก็ได้ไม่ว่ากัน รายได้ก็มากขึ้น

2.ขายเครื่องสำอาง

m9

ภาพจาก goo.gl/images/MGSarY

สำหรับน้องๆ ผู้หญิงที่อาจจะอยู่ในช่วงมัธยมปลายอายุตั้งแต่ 15-18 ปีสามารถทำอาชีพนี้ได้ ซึ่งอาจจะไม่ใช่แบบการเป็นลูกจ้างแต่เป็นการเปิดร้านขายเอง หรือเลือกขายออนไลน์

ซึ่งไม่ถือว่าเป็นการจ้างจากนายจ้าง และด้วยความน่ารักสดใสของตัวเอง การขายเครื่องสำอางจึงทำให้สินค้าดูน่าสนใจยิ่งขึ้น วิธีการขายเครื่องสำอางเดี๋ยวนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร โดยเฉพาะการขายแบบออนไลน์ที่สามารถสั่งซื้อสินค้าจากร้านเอามาโพสต์ขาย

หรือถ้าไม่อยากสต็อกสินค้าก็ไปติดต่อร้านค้าถ่ายภาพมาโพสต์ เมื่อมีออร์เดอร์ก็ค่อยจัดส่ง หรือจะเลือกขายแบบหน้าร้านตามตลาดนัดร่วมด้วยก็จะเพิ่มช่องทางการขายได้มากขึ้น รายได้จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความขยันของเราเป็นสำคัญ

3.เป็น MC หรือ พิธีกร

m8

ภาพจาก goo.gl/images/Crgsdc

เด็กๆเดี๋ยวนี้หน้าตาดี หุ่นดีมีเยอะแยะ โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงที่ชอบความสวยความงาม หลายคนอาจเริ่มต้นด้วยการส่งโปรไฟต์ตัวเองไปตามโมเดลลิ่งต่างๆ ซึ่งหากได้สังกัดโมเดลลิ่ง แม้เราจะเรียนอยู่แต่ในช่วงปิดเทอมก็สามารถรับงานง่ายๆ อย่างการเป็น MC หรือ พิธีกร

แต่มีข้อแม้ว่าเราต้องใช้ภาษาได้อย่างถูกต้องชัดเจน พูดเก่งๆ และรายได้จากอาชีพนี้ก็ไม่ธรรมดาบางที่ให้เป็นรายชั่วโมงหรือเหมาๆ ทั้งวันก็มีเช่นกันตั้งแต่ 700-2,500 บาท แถมเรายังได้สะสมโปรโฟต์ดีๆ เอาไว้ใช้กับการสมัครงานในอนาคตได้ด้วย

4.ร้านขายของออนไลน์

m7

ภาพจาก goo.gl/images/GE4s3e

สมัยนี้อะไรก็ออนไลน์หมดแล้ว เด็กสมัยใหม่มีทั้ง Facebookและ IG เป็นของตัวเอง แทนที่จะเอามาใช้แชทคุยกับเพื่อนอย่างเดียว ลองมาเปิดหน้าร้านออนไลน์เพิ่มรายได้ก็น่าสนใจ ใครที่ยังไม่เคยเริ่มต้นแนะนำว่า ให้เริ่มที่คนใกล้ๆ ตัวก่อน บอกต่อๆ กันไปว่าเราขายอะไรบ้าง สนใจก็ให้มาดูได้ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า แว่นตา ฯลฯ เท่าที่จะนึกเอาออกมาขายได้สามารถทำได้หมด

หรือถ้าไม่รู้ว่าจะเลือกสินค้าจากไหน เดี๋ยวนี้เขาก็มีระบบขายของออนไลน์ให้เราสมัครใช้งานทั้งพวก Dropship หรือ Pre-order ลองศึกษาดูว่าสะดวกแบบไหน พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์อาจจะเยอะคู่แข่งอาจจะแยะแต่อย่าไปกลัว ขายได้เราก็มีรายได้เข้ากระเป๋าต้นทุนไม่ได้เสียอะไรมากมาย

5.พนักงานตามร้านอาหาร

m6

ภาพจาก goo.gl/images/AH1w1f

อีกหนึ่งงานพาร์ทไทม์ยอดฮิตแต่ส่วนใหญ่จะจำกัดอายุที่ไม่ต่ำกว่า 15 ปี หรือถ้ายังไม่เกิน 18 ปี ต้องมีการแจ้งต่อกรมแรงงาน และหากต่ำกว่า 18 ปีห้ามนายจ้างให้เด็กทำงานระหว่าง 22.00 – 06.00 น. เว้นแต่ได้รับอนุญาติจากอธิบดี

อย่างไรก็ดีร้านฟาสต์ฟู้ดอย่าง แมคโดนัลด์ เคเอฟซี เอ็มเค ที่เด็กๆ ที่อายุได้ตามกำหนดมักชอบไปสมัครทำงานตอนปิดเทอม ในบรรดาร้านอาหารทั้งหลายเดี๋ยวนี้ก็น่าสนใจเพราะสมัครง่ายกว่า ยิ่งมีคนรู้จักแนะนำก็เริ่มทำงานได้เลย

หน้าที่ส่วนใหญ่ก็โบกรถ เสิร์ฟอาหาร ล้างจาน บางที่มีสวัสดิการเป็นอาหารกลางวันฟรี และค่าแรงส่วนใหญ่มักคิดเป็นรายชั่วโมงประมาณ 40-47 บาทต่อชั่วโมง อาจจะมีเวลาพักไม่มาก แค่ก็ไม่ใช่งานที่หนักหนาเกินไป

6.ช่วยพ่อแม่ทำธุรกิจที่บ้าน

m5

ภาพจาก goo.gl/images/16goGx

เด็กสามารถทำได้ตั้งแต่ 3 ขวบระดับอนุบาลไปถึงอายุ 18 ระดับมัธยม ซึ่งการช่วยงานที่บ้านก็ต้องเหมาะสมกับช่วงอายุถือเป็นการฝึกวินัย ความอดทน สำหรับเด็กๆได้เป็นอย่างดี

ที่สำคัญคือโอกาสดีที่จะได้สอนงานลูกๆ สะสมประสบการณ์เอาไว้สำหรับการสืบทอดกิจการในวันข้างหน้า แถมยังใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ดีกว่าปล่อยอยู่บ้านเที่ยวเล่นกับเพื่อน หรือเอาแต่เล่นเกมส์ในโทรศัพท์ เป็นการฝึกลูกให้เป็นคนที่มีคุณภาพได้ดีที่สุด

7.ติวเตอร์

m4

ภาพจาก goo.gl/images/cCaU6q

อาชีพนี้สงวนไว้สำหรับเด็กที่เก่งจริงมีความรู้จริงระดับอายุอย่างน้อยต้อง 15 ปีขึ้นไปเพื่อจะมีวุฒิภาวะในการทำงานมากขึ้นซึ่งไม่ถือเป็นการจ้างงานแต่คือการทำงานด้วยตัวเอง ที่สำคัญคือต้องรู้จักถ่ายทอดความรู้ให้คนอื่นได้ โดยเฉพาะเด็กมัธยมปลายที่นอกจากการสอนวิชาที่ตัวเองถนัดจะทำให้มีรายได้ยังเป็นการได้ฝึกทบทวนความรู้ของตัวเองไปพร้อมกันด้วย

หรือเด็กบางคนที่เรียนโรงเรียนนานาชาติ เป็นลูกครึ่งที่มีความสามารถด้านภาษา อันนี้ยิ่งสบายหากรู้จักการสอนและถ่ายทอดสามารถเป็นติวเตอร์ได้สบาย รายได้ส่วนใหญ่มักคิดเป็นรายชั่วโมงประมาณ 200-400 บาท ตามแต่ระดับความยาก และระดับชั้นของเด็กที่เรียน

8.รับจ้างถ่ายภาพนอกสถานที่

m3

ภาพจาก goo.gl/images/dpoeny

อายุระหว่าง 15-18 ปีกำลังเหมาะกับอาชีพเสริมแบบนี้ ไม่ใช่การจ้างด้วยนายจ้าง จึงไม่ขัดต่อข้อกฎหมาย แต่การเป็นช่างถ่ายภาพเป็นงานที่ต้องพึ่งใจรักอีกงานหนึ่ง เพราะอุปกรณ์ต่างๆ ต้องเตรียมเอง ต้องมีการลงทุนในเรื่องของอุปกรณ์อยู่พอสมควร ถ้าฝีมือดีแล้วถ่ายออกมาได้ดี ก็สามารถคิดอัตราค่าจ้างได้มากพอสมควรเช่นกัน

แต่ก็จะมีงานที่คิดอัตราค่าจ้างแบบครึ่งวัน กับเต็มวันจำพวกงานรับปริญญา งานพวกนี้ ค่าจ้างเฉลี่ยครึ่งวันประมาณ 2,000-3,000 บาท และเต็มวันอยู่ประมาณ 4,000-6,000 บาท แต่ถ้าเป็นงานแต่ง งานบวช งานแฟชั่นอื่นๆ อาจจะได้มากขึ้นเป็นหลักหมื่นเลยก็มี

9.ขายเครื่องดื่ม

m2

ภาพจาก goo.gl/images/UirvYn

ทำได้ตั้งแต่เด็กอายุ 3 ขวบเป็นต้นไป ถือเป็นงานฝึกประสบการณ์ให้น้องๆ ได้รู้จักความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน รู้จักคุณค่าของเงินที่กว่าจะได้มานั้นยากลำบากอาศัยหัวการค้าสักหน่อย ไปซื้อน้ำอัดลมเย็นๆ จากแมคโครหรือร้านขายส่งทีละมากๆ จะได้ราคาต่อขวดถูกลง

เอามาตั้งโต๊ะขายหน้าบ้าน ตักน้ำแข็งใส่แก้ว ใส่น้ำอัดลม ขายแก้วละ 5 บาท หรือจะลองทำเป็นน้ำสมุนไพรต่างๆ เช่น น้ำกระเจี๊ยบ เก๊กฮวย มะตูม ขายในช่วงหน้าร้อนก็ดูจะสร้างรายได้ที่ดีเช่นกัน

10.เปิดท้ายขายของ

m1

ภาพจาก https://goo.gl/GG3pSb

ช่วงปิดเทอมเราจะเห็นเด็กมาขายของตามตลาดนัดอายุส่วนใหญ่ตั้งแต่ 7 ขวบก็สามารถทำได้ บางคนตามพ่อแม่มาลองเปิดร้านเล็กๆฝึกขายของด้วยตัวเอง เป็นการหารายได้ที่ใกล้ตัวและง่ายที่สุด

แนะนำว่าหากเรามีตลาดนัดใกล้บ้านจะยิ่งได้เปรียบ ส่วนสินค้านั้นหากไม่ลงทุนอะไรมากก็ขายเป็นพวกสินค้ามือสอง เช่น เสื้อผ้าที่ยังอยู่ในสภาพดี ของเล่น หนังสือ หรือหากบ้านไหนมีสวนผัก สวนผลไม้ ก็ยิ่งง่ายกับการเก็บผลผลิตไปขายตามตลาดนัด

ซึ่งมีประโยชน์ตามมามากมายที่ไม่ใช่แค่เรื่องรายได้เพียงอย่างเดียว ยังเป็นการได้ฝึกทักษะการทำงานจริง ได้เจอปัญหาจากการทำงานจริงๆ จะทำให้รู้จักจัดกระบวนความคิดในการทำงาน ทำให้เราเป็นคนมีคุณภาพและความรับผิดชอบมากขึ้น

ในความเป็นจริงมีหลายอาชีพที่นอกเหนือจากนี้และเด็กสามารถทำได้ แม้แต่เด็กเล็กชั้นประถมทั้งหลายก็สามารถมีอาชีพสร้างรายได้ให้กับตัวเอง

เช่นการปลูกผักง่ายๆ ขาย หรือการช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน เด็กบางคนเลือกใช้เวลาปิดเทอมหาความรู้ หางานทำ เพิ่มคุณภาพให้ตัวเอง ในขณะที่เด็กบางคนเอาแต่เที่ยวเล่นไม่สนใจทำงาน

อนาคตของเด็กสองกลุ่มนี้รับรองว่าต่างกันคนที่ขยันและรู้จักทำงานอนาคตย่อมไปได้ไกลว่าพวกที่ขี้เกียจไม่ขยันทำงาน แบมือขอเงินพ่อแม่ไปวันๆ แล้ววันไหนที่พ่อแม่ไม่มีเงินจะใช้วันนั้นเด็กพวกนี้จะรู้สึกถึงความสำคัญของการทำงาน


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจแฟรนไชส์และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

01

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ goo.gl/gZFpkG

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3mFY1jS

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด