ลด 50 % ! โปรโมชั่นแบบนี้ ทำดีๆธุรกิจก็มีกำไรได้

ยุคสมัยนี้การขายของจำเป็นต้องมี กลยุทธ์การตลาด ลำพังเปิดร้าน รอคนเดินผ่านเข้ามาสนใจนั้นคงไม่พอทำให้ธุรกิจอยู่รอดในภาวการณ์แข่งขันที่สูงขึ้นนี้ได้ การตลาดที่ดีคือการช่วงชิงความสนใจของลูกค้าประการแรกคือทำอย่างไรให้เดินเข้ามาที่ร้าน

ประการที่สองเมื่อเดินเข้ามาจะทำให้ลูกค้าสนใจและอยากซื้อได้อย่างไร เหล่านี้คือโจทย์ที่นักการตลาดต้องคิดให้หนักและหนึ่งในวิธีที่นิยมใช้และดูเหมือนว่าจะได้ผลอย่างดีคือ “โปรโมชั่นSale”

www.ThaiSMEsCenter.com มองว่ายุทธการณ์ Sale ที่ว่านี้แน่นอนว่าคือการลดราคาในรูปแบบหนึ่งที่จัดเอาเปอร์เซ็นต์มาล่อตาล่อใจเช่น ลด 50 % หรือบางห้างร้านกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ลดแหลกลาญถึงกว่า 80-90 % กันเลยทีเดียวทีนี้ในฐานะคนซื้อเห็นป้าย Sale ก็คงนึกสนใจแต่ในใจอีกด้านก็คงอยากรู้เหมือนกันว่า ลดราคากันเหมือนจะแจกฟรีแบบนี้แล้วกำไรทางธุรกิจอยู่ที่ไหน และทำแบบนี้ได้อะไรในทางธุรกิจบ้าง

เทคนิคการลดราคาแบบ “Sale”

กลยุทธ์การตลาด

ในการตั้งป้าย Sale ไม่ใช่คิดจะตั้งเท่าไหร่ก็ทำได้ ในทางธุรกิจเขาก็มีหลักคิดเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรนัก โดยทั่วไปใช้หลักที่ว่า “ขายของที่ผลิตออกมาให้หมดในแต่ละล็อต” แม้จะดูเหมือนไม่มีอะไรในกอไผ่แต่ในความจริงการขายของให้หมดล็อตนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย คนทำธุรกิจต้องทุ่มเทใช้เวลา ใช้ช่องทางการจัดจำหน่ายเป็นอย่างมาก รวมถึงจำเป็นต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จัก แต่บางครั้งก็ยังขายสินค้าในล็อตนั้นไม่หมดอยู่ดี

ดังนั้นกลยุทธ์ Sale จึงออกแบบมาเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะลองยกตัวอย่างให้เห็นภาพจากธุรกิจเสื้อผ้าที่นิยมการใช้ป้าย Sale มากระตุ้นยอดขายสมมุติว่าเสื้อผ้ายี่ห้อหนึ่งผลิตเสื้อผ้าในล็อตนั้นออกมา 10,000 ตัว มีต้นทุนรวมต่อตัวอยู่ที่ 500 บาท และตั้งราคาขายปลีกไว้ที่ตัวละ 1,200 บาท

ด้วยเหตุนี้ ต้นทุนรวมของเสื้อผ้าล็อตนี้คือ 10,000 x 500 = 5,000,000 บาท และการขายปลีกในราคา 1,200 บาท จะได้เงินจากสินค้านี้ 12,000,000 บาท และจุดคุ้มทุนของสินค้าคือ 4,166 ตัวที่จะทำให้โรงงานไม่ขาดทุน ในความเป็นจริงโรงงานผู้ผลิตอาจขายได้มากกว่าจุดคุ้มทุนที่ตั้งไว้ แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีเสื้อผ้าที่ยังคงเหลือในล็อตนั้นอยู่บางส่วนเช่นกัน

และเสื้อผ้าส่วนที่เหลือนี้เองถ้าโรงงานไม่มีกลยุทธ์ใดๆมาบริหารจัดการก็จะกลายเป็นต้นทุนจม และเพื่อกระตุ้นการขายป้ายSale จึงถูกนำมาใช้ ซึ่งการที่ขายได้มากหรือน้อยสุดท้ายก็ยังเป็นส่วนของกำไรสำหรับผู้ผลิตอยู่ดี

รู้จักการเลือกจังหวะ Sale ที่ถูกต้องจะกระตุ้นการซื้อได้มาก

ui4

การลดราคาด้วยป้ายSale นั้นไม่ใช่จะทำเมื่อไหร่ตอนไหนก็ได้ต้องมีจังหวะเวลาที่ถูกที่ควร ส่วนใหญ่จะเป็นการจัดในช่วงเทศกาลหยุดยาวเช่นส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ สงกรานต์ เป็นต้น

เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่ประชาชนจะเตรียมตัวกลับบ้านหรือออกมาจับจ่ายใช้สอยเป็นการเฉลิมฉลองก่อให้เกิดบรรยากาศที่ส่งเสริมการขายได้ง่ายขึ้น รวมถึงช่วงเวลาย่อยๆอย่างปลายเดือนที่พนักงานประจำจะได้รับเงินเดือนก็ถือเป็นจังหวะเวลาที่น่าสนใจเช่นกัน

ข้อดีข้อเสียของกลยุทธ์ Sale

ui2

ในการ Sale นั้นช่วยให้สามารถระบายสินค้าในสต็อคได้มากขึ้นและอาจทำให้มีกำไรได้มากขึ้นด้วยเช่นกันรวมถึงยังสามารถเรียกลูกค้ากลุ่มใหม่ๆให้เข้าร้านอาจกลายเป็นการเปิดลูกค้ารายใหม่ได้ในอนาคตด้วย

แต่ถึงกระนั้นวิธีนี้ก็ไม่แนะนำให้ใช้พร่ำเพรื่อจะทำให้ภาพลักษณ์สินค้าลดน้อยลงไป และไม่ควรทำให้ลูกค้ารู้สึกว่ารอลดราคาค่อยซื้อซึ่งจะสุ่มเสี่ยงต่อการขายที่ไม่ได้แม้กระทั่งจุดคุ้มทุนของการผลิต

ประเภทสินค้าที่นิยมการ Sale

ui3

กลยุทธ์ Sale นี้ใช้ได้ดีกับสินค้าอุปโภคทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า หรือข้าวของเครื่องใช้อื่นๆ ซึ่งสินค้าเหล่านี้มีสิ่งที่คล้ายคลึงกันอยู่หลายประการเช่น

แม้จะลดราคาแต่ก็เป็นสินค้าคุณภาพดี ใช้งานได้นาน และส่วนใหญ่จะมีการติดแบรนด์ที่รู้จักอย่างดีและสถานที่จัดจำหน่ายในลักษณะนี้ได้ผลมากกับบริเวณห้างสรรพสินค้าเพราะภาพลักษณ์ของสถานที่เหล่านี้หลายคนก็หาจังหวะเวลาในการหาของ Sale เสมอๆ

อย่างไรก็ตามในเทคนิคการขายนั้นไม่ได้มีแต่กลยุทธ์ Sale ที่ใช้ได้ผลมีการตลาดแนวใหม่อีกมากที่เป็นไอเดียดีๆพร้อมให้ทุกคนได้เอาไปใช้เพิ่มประสิทธิภาพการขายซึ่งแต่ละเทคนิคก็มีวิธีการแตกต่างแต่เป้าหมายเดียวกันคือเพิ่มยอดขายให้ได้มากที่สุดผู้ประกอบการจึงควรจะเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสินค้านั้นๆก็จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากยิ่งขึ้น


SMEs Tips (กลยุทธ์ Sale ดีต่อธุรกิจอย่างไร)

  • ทำให้สินค้าในขายสินค้าในสต็อคได้มากขึ้น มีกำไรมากขึ้น
  • เป็นการเปิดลูกค้ารายใหม่ในอนาคต
  • เป็นการสร้างความสัมพันธ์ทางการตลาดที่ดี
  • ทำให้ลูกค้าจดจำและอยากใช้สินค้ามากขึ้น

ทั้งนี้หากใครยังนึกไม่ออกและมองการตลาดแบบเน้นเทคนิคไม่เห็นภาพสามารถหาข้อมูลดีๆจากบทความน่าสนใจในเรื่องการทำธุรกิจที่เรารวบรวมมาไว้จำนวนมากเลือกอ่านเลือกใช้กันได้ตามความเหมาะสม

ดูรายละเอียดที่ goo.gl/PAovJL

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด