รวม 10 เทคนิคเพิ่มยอดขาย ส่งท้ายปลายปี 2563

คาดการณ์ใช้จ่ายปลายปี 2563 จะไม่คึกคักมากกว่าปีที่ผ่านมา น่าจะมีเม็ดเงินสะพัดในช่วงสุดท้ายปลายปีแบบนี้ประมาณ 29,800 ล้านบาท กระจายไปในหลากหลายสินค้าและหลายกิจกรรมที่ประชาชนจะทำในช่วงนี้

โดยเฉพาะการซื้อสินค้าเป็นของขวัญ ของฝาก คาดการณ์ว่ากลุ่มเสื้อผ้าและแฟชั่นจะมียอดขายดีที่สุดประมาณ 24% ตามมาด้วยผลิตภัณฑ์สุขภาพความงามที่ประมาณ 19%

นอกจากนี้กลุ่มอาหาร เครื่องดื่ม ก็ถือว่ามีสัดส่วนตามมาที่ใกล้เคียง สิ่งที่เห็นได้ชัดในช่วงนี้คือภาคธุรกิจพยายามจัดหายุทธวิธีดึงเม็ดเงินออกจากกระเป๋าลูกค้าให้ได้มากที่สุด ซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com ได้รวบรวม 10 เทคนิคเพิ่มยอดขายที่เชื่อว่าเดือนธันวาคมนี้คงจะได้เห็นในทุกทำเลค้าขาย

รวม 10 เทคนิคเพิ่มยอดขาย

1.ดึงดูดลูกค้าด้วยคำว่า “ซื้อทันที” “ฟรี”

“ซื้อทันที” “ฟรี” เป็นคำที่ทรงพลังมากที่สุดที่จะกระตุ้นลูกค้าได้ ไม่เชื่อลองเดินผ่านร้านค้าสัก 2-3 ร้าน ถ้าไม่มีป้ายที่ว่านี้เขียนอยู่ส่วนใหญ่จะเดินผ่าน แต่ถ้าเจอป้ายเหล่านี้ ปักอยู่ที่หน้าร้านเมื่อไหร่ สมองจะสั่งการให้เราอยากรู้ทันทีว่า “ฟรี” อะไร “ซื้อทันที” แล้วดียังไง

การจะให้ได้ผลมากขึ้นคำเหล่านี้เหมาะกับสินค้าที่มีความคุ้มค่าหรือสินค้านั้นมีความต้องการเป็นพิเศษ ยิ่งถ้าสินค้าที่เราวางจำหน่ายมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นวิธีนี้ก็จะยิ่งได้ผลมากขึ้น คำว่า “ซื้อทันที” เป็นผลทางจิตวิทยาประเภทหนึ่งที่ทำให้คนรู้สึกว่าเป็นสินค้าที่ดี ที่สำคัญและควรรีบซื้อไว้ก่อนที่สินค้าจะหมด ยิ่งคำว่า “ฟรี” ยุคนี้ใครๆก็ชอบ ดังนั้นถือเป็นเทคนิคการขายที่ปลายปีแบบนี้ต้องรีบเอามาใช้

2.ระบุ “เวลาจัดส่ง” ให้ชัดเจน

สินค้าหลายชนิดจำเป็นต้องมีการจัดส่ง เช่น โทรทัศน์ เครื่องซักผ้า เตียงนอน ตู้เสื้อผ้า ฯลฯ สินค้าเหล่านี้ถ้าใช้กลยุทธ์ลดราคา หรือแจกแถมอย่างเดียวอาจยังไม่พอ ต้องระบุเวลาในการจัดส่งให้ชัดเจน

เหตุผลคือเพื่อสร้างความเชื่อมั่นเชื่อใจให้กับลูกค้าว่าจะได้รับสินค้าเหล่านี้ทันเวลาใช้งาน การที่ลูกค้าซื้อสินค้าแล้วไม่รู้เลยว่าทางร้านจะจัดส่งให้เมื่อไหร่ เป็นการรอคอยที่ทำให้ลูกค้าไม่ประทับใจ ในยุคที่มีการแข่งขันกันสูง ใครที่บริการดี เอาใจลูกค้าได้เก่งกว่า ก็สามารถสร้างยอดขายได้มากกว่าเช่นกัน

64

3.พลังของ “ริบบิ้น”

ริบบิ้นเป็นตัวแทนของเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ได้อย่างดี การที่เราจัดและตกแต่งสินค้าด้วย “ริบบิ้น” หลากสี จะทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความพิเศษ มีความรู้สึกว่า “นี่แหละคือเทศกาล” เป็นผลทางจิตวิทยาที่ทำให้ลูกค้ามีอารมณ์ร่วม

บางครั้งลูกค้าอาจไม่ได้อยากจะซื้อสินค้าแต่เมื่อเห็นสินค้าจัดแต่งอย่างสวยงาม อาจมีความคิดที่เปลี่ยนไป ยิ่งหากเป็นสินค้าที่ลูกค้ากำลังมองหาหรือกำลังจะตัดสินใจซื้อ การใช้ “ริบบิ้น” ดึงดูดลูกค้าอาจทำให้ตัดสินใจซื้อได้ในทันที

4.กระจาย “โปรโมชั่น” ไปในทุกช่องทาง

ปัจจุบันเราอยู่ในยุคโซเชี่ยลไม่ว่าจะเฟสบุ๊ค ยูทูป อินสตราแกรม หรือแม้แต่ ไลน์ สามารถใช้เป็นช่องทางในการเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น คนส่วนใหญ่มักซื้อสินค้าตามช่วงเวลา “จัดโปรโมชั่น” ดังนั้นหากต้องการขายดีในช่วงปลายปีแบบนี้

อย่าลืมมีโปรโมชั่นให้กับลูกค้า แต่การตั้งโปรโมชั่นที่ดีแสนดีก็ไม่ควรเก็บเงียบเอาไว้ ประกาศออกไปให้ได้รับรู้ในวงกว้างอาจจะต้องลงทุนโฆษณาเพิ่มเติมสักหน่อยแต่เชื่อว่าผลรับที่ตามมาจะคุ้มค่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

63

5.ลงทุน “แต่งร้าน” ตามธีมของเทศกาล

ช่วงปลายปีแบบนี้หากจะกระตุ้นยอดขายต้องทำให้ลูกค้ามีอารมณร่วมได้มากที่สุด สีที่ควรนำมาใช้ในการแต่งร้านปลายปีแบบนี้ควรเน้น สีแดง-เขียว ที่เป็นสัญลักษณ์ของวันคริสต์มาสต์-ปีใหม่ และหากเป็นไปได้นอกจากแต่งร้านสวยงาม

ถ้าเปิดเพลงเกี่ยวกับคริสต์มาสหรือปีใหม่ได้ด้วยจะเพิ่มบรรยากาศให้น่าสนใจได้อีกมาก ในแง่ของจิตวิทยาการที่คนจะตัดสินใจซื้อสินค้าใด ๆ ไม่ได้เกิดจากความต้องการอย่างเดียว บางครั้งการได้เจอสิ่งเร้าที่ถูกใจก็ทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้อย่างไม่รู้ตัวเช่นกัน

6.มีรางวัลพิเศษให้กับลูกค้าที่ซื้อสินค้า

นอกจากการลด แลก เรื่องของการแจกและแถมก็สำคัญมาก ลูกค้าแทบทุกคนต่างหวังที่จะได้อะไรที่พิเศษจากการซื้อสินค่วงนี้ยิ่งมูลค่าสูงการคาดหวังก็ยิ่งมาก ทางที่ดีผู้ประกอบการอาจจัดเกมส์หรือกิจกรรมสนุกๆให้ลูกค้าได้ร่วมชิงรางวัล

อาจจะไม่ต้องเป็นรางวัลใหญ่แค่ตุ๊กตา กิ๊ฟเซต หรือว่าชุดของขวัญเล็กๆ ก็น่าจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเป็นการคืนกำไร และที่สำคัญกิจกรรมเหล่านี้หากน่าสนใจจริงๆ ลูกค้านี่แหละที่จะเป็นคนแชร์ให้คนอื่นได้รู้ เท่ากับช่วยโปรโมทธุรกิจของเราได้แบบไม่ต้องลงทุนค่าโฆษณาแม้แต่น้อย

61

7.เล่นกับคำว่า “Happy New Year” ให้เกิดประโยชน์

ในต่างประเทศเรื่องนี้สำคัญมากคำพูดดีๆ ทั้งก่อนเข้าร้านและหลังออกจากร้านถือเป็นมารยาทที่ควรทักทายให้ถูกต้อง แนะนำว่าให้มองข้ามคริสต์มาสไปและใช้คำอวยพรที่ลูกค้าอยากได้ยินมากกว่า นั้นคือ “Season’s Greetings” หรือไม่ก็ “Happy New Year” การทักทายแบบนี้เป็นเสมือนห้วงเวลาพิเศษที่ทำให้การจับจ่ายดูง่ายขึ้นถ้าลูกค้ารู้สึกว่ากำลังอยู่ในเทศกาลแห่งความสุข

8.จัดสินค้าแนะนำช่วงเทศกาลเทศกาลกันไปเลย

สินค้าตัวไหน ที่ร้านค้าของเราคิดว่าเป็นสินค้าที่ขายดีหรือเป็นสินค้าที่เข้ากับเทศกาล จัดแนะนำขึ้นมาเลยพร้อมเตรียมสต๊อกสินค้าไว้ด้วย เพราะสินค้าที่เราแนะนำมักจะเป็นสินค้าที่ทำให้ได้ยอดขายมากที่สุดและยิ่งเป็นสินค้าที่เข้ากับเทศกาลแล้วด้วย ยิ่งง่ายต่อการขายยิ่งขึ้น

60

9.เมนูใหม่เอาใจลูกค้าช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่

เป็นทีเด็ดของร้านค้าร้านอาหารหลายแห่งที่ช่วงนี้จะจัดเมนูใหม่เอาใจลูกค้าไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มสีสันสดใส หรือว่าเมนูอาหารที่เข้ากับเทศกาล ต่างๆ โดยเฉพาะบรรดาเครื่องดื่มที่ถือว่าคิดเมนูใหม่ได้ง่ายที่สุด ช่วงนี้แถวร้านชานม กาแฟ อาจจะได้เห็นชื่อเมนูแปลกๆ สีสันสดใส เป็นการช่วยเพิ่มยอดขายได้เป็นอย่างดี และเมื่อผ่านเทศกาลปีใหม่ไปแล้วก็ค่อยมาคิดอีกทีว่าเมนูสำหรับเทศกาลต่อไปจะเป็นอะไรดี

10.เพิ่มยอดขายด้วยการ “Live สด”

ยุคนี้ขายหน้าร้านอย่างเดียวไม่เพียงพอ ถ้ามีความสามารถพอขอแนะนำให้ “Live สด” ร่วมด้วยเราจะเห็นหลายธุรกิจที่เริ่มหันมาใช้วิธีนี้ ข้อดีของการ “Live สด” คือทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้มากขึ้น ได้ฟังข้อมูลและโปรโมชั่นที่เราจัดให้ และการ “Live สด” ส่วนใหญ่มักจะเต็มไปด้วยสีสัน สนุกสนาน ลูกค้าที่ได้ฟังส่วนใหญ่จะมีอารมณ์คล้อยตาม ก่อให้เกิดอำนาจในการซื้อที่เพิ่มขึ้นด้วย

ในช่วงที่ประชาชนส่วนใหญ่กังวลกับรายได้ การจับจ่ายใช้สอยปลายปี 2563 อาจไม่คึกคักเท่าปีที่ผ่านมา แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ พลังของเทศกาลก็จะกระตุ้นให้คนออกมาจับจ่ายใช้สอย ก็ขึ้นอยู่กับสินค้าเองว่าจะดึงดูดลูกค้าได้น่าสนใจแค่ไหน แต่ละวิธีอาจไม่ได้เหมาะกับทุกธุรกิจแต่ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มยอดขายให้ได้มากที่สุดในช่วงนี้


ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/33JUlWL , https://bit.ly/3my3jxm , https://bit.ly/3qmeTxV

 

อ้างอิงจาก https://bit.ly/2VuDDpF

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด