กลยุทธ์การขายจากทฤษฏี การเล่านิทาน แบบเด็ก

ทุกคนต้องเคยเป็นเด็กและเมื่อตอนเด็กทุกคนต้องเคยฟังนิทาน แน่นอนว่าความสนุกของนิทานในวัยเด็กคือสีสันความสนุกที่บอกเล่าผ่านตัวละครต่างๆ เนื้อเรื่องที่ชวนติดตามทำให้เด็กทุกคนต้องหลงใหลไปกับการฟังนิทานมากบ้างน้อยบ้างแต่บอกได้คำว่าว่านิทานกับเด็กเป็นของคู่กันไม่ว่าจะยุคไหนสมัยใดความจริงที่ว่านั้นก็ยังไม่เสื่อมคลาย

แต่เมื่อเอาเรื่องของนิทานมาตกผลึกความคิดจะพบว่ามีหลายสิ่งใน การเล่านิทาน ที่นักการตลาดสามาถเอามาดัดแปลงจนกลายเป็นเทคนิคแห่งธุรกิจน่าสนใจซึ่ง www.ThaiSMEsCenter.com เองก็มองเห็นถึงความจริงนั้นจึงยกเอากลยุทธ์ที่ว่านี้มาฝากทุกท่านให้ได้รับทราบเรียกว่าเป็นกลยุทธ์การขายจากการเล่านิทานแบบเด็กๆนั่นเอง

กลยุทธ์นี้มาจากต้นแบบการเล่านิทานเรื่อง ‘Green Eggs & Ham’

การเล่านิทาน

ภาพจาก http://goo.gl/yyrLOI

นิทานเรื่อง ‘Green Eggs & Ham’ ไม่ใช่นิทานเก่าแก่มากมายปัจจุบันก็ยังหานิทานเรื่องนี้อ่านได้อยู่ เด็กๆบางคนที่เคยอ่านนิทานจากต่างประเทศก็อาจจะเคยผ่านหูผ่านตากันมาบ้าง นิทานเรื่องนี้ผู้แต่งคือ Dr.Seuss เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับแซมที่ต้องการให้ลูกค้าชิมไข่สีเขียวกับแฮมสีเขียวของเขา

ซึ่งหน้าตาไม่น่าอร่อยเลย ในเรื่องมีลูกค้าเพียงคนเดียวเท่านั้นและก็พยายามหนีแซมไปเรื่อยๆ ส่วนแซมก็ตามไปทุกที่จนในที่สุดลูกค้าเหนื่อยอ่อน จนยอมชิมไข่สีเขียวกับแฮม ซึ่งก็ปรากฏว่าอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ

3 เทคนิคพื้นฐานจากนิทานที่เป็นต้นแบบของเทคนิคการขายแบบมืออาชีพ

y16

ภาพจาก http://goo.gl/WB46oj

หลังจากที่ได้สัมผัสกับเนื้อหานิทานเรื่องนี้นักการตลาดเองก็เกิดความคิดดีๆมากมายที่นำมาประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์การขายที่เรียกว่ามาจากนิทานแบบเด็กๆประกอบด้วย

  1. แซมมีความตั้งใจขายสินค้าถึงแม้ว่าลูกค้าจะไม่ให้ความสนใจเลยก็ตาม แซมก็ไม่ลดละความพยายาม แม้จะขึ้นเขาลงทะเลก็ตามไปขายทุกที่
  2. ทุกครั้งที่ถูกปฏิเสธ แซมจะหาข้อเสนอใหม่ให้ลูกค้า เพื่อหาทางปิดการขาย
  3. แซมไม่ลดความพยายามถึงแม้ว่าจะเจอคำว่า ‘ไม่เอา’ กี่ครั้งก็ตาม กว่าจะขายได้ตอนจบ แซมต้องเสนอทางเลือกใหม่ๆ ให้ลูกค้าถึง 14 ครั้งด้วยกัน

y18

ภาพจาก https://goo.gl/DAv3zQ

และนี่ไม่ใช่การบอกใบ้ให้ผู้ทำธุรกิจทั้งหลายดึงดันจนทำให้ลูกค้ารำคาญ เพียงแต่ในบางครั้งการขายที่ควรมีประสิทธิภาพก็อยู่ที่ระยะเวลาที่สมควร การได้ยินคำว่า “ไม่” แค่ครั้งสองครั้งไม่ควรเป็นจุดจบแห่งการขาย เมื่อนำความจริงเรื่องนี้มาประยุกต์ใช้ในทางธุรกิจจริงๆจะพบว่า มีเทคนิคสำคัญในการขายถึง 5 ประการที่เราไม่ควรละเลยเป็นอย่างยิ่ง

1.หาทางคุย

โดยใช้คำถามปลายเปิดเพื่อให้ได้ข้อมูลความคิดเห็นของลูกค้า อย่าด่วนสรุปเร็วเกินไปว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการคือแบบนั้นแบบนี้ ถามให้ลูกค้าตอบ คุณเพียงแค่ฟังอย่างตั้งใจและตอบรับด้วยคำสั้น ๆ เช่น ‘อ๋อ ค่ะ/ครับ’ ‘มีอะไรอีกมั้ยค่ะ/ครับ’ เป็นต้น

2. มีการเสนอทางเลือก

โดยเฉพาะเวลานำเสนอสินค้าหรือบริการ พยายามจัดให้มีทางเลือกหลายๆ อย่าง แล้วอธิบายถึงข้อดีของทางเลือกนั้นๆ เช่นแบบไหนประหยัดกว่า คุ้มกว่า แต่อย่าเสนอมากไปจนลูกค้าเลือกไม่ถูก อย่าลืมเตรียมคำตอบหากลูกค้าถามว่าคุณคิดว่าแบบไหนเหมาะกับเขามากที่สุด

y19

ภาพจาก http://goo.gl/187RgB

3.การปฏิเสธเป็นเรื่องธรรมดา

แน่นอนว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะปฏิเสธหลายครั้งก่อนจะตัดสินใจซื้อ อย่าคิดว่าถ้าคนนี้ไม่สนแล้วคนอื่นจะไม่สนเหมือนกัน ลูกค้าแต่ละคนมีความชอบไม่เหมือนกันต้องพยายามต่อไป

4.ต้องถามให้ลึก

คำว่าลึกในที่นี้หมายถึงการถามเพื่อให้รู้ว่าการที่ลูกค้าทำท่าลังเลใจนั้นมาจากอะไร หากคุณแสดงท่าทางที่เป็นมิตรยิ้มแย้มแล้วล่ะก็ ส่วนใหญ่ว่าที่ลูกค้าเหล่านั้นก็จะบอกว่าสิ่งที่ทำให้พวกเขาลังเลที่จะซื้อคืออะไร และเมื่อรู้เหตุผลที่แท้จริงแล้วคุณก็ต้องตอบรับแบบสั้นๆ แต่จงหลีกเลี่ยงการแก้ตัวให้สินค้าหรือบริการที่มากจนเกินไป

5.ต้องตื้ออย่างสุภาพ

อาจจะต้องย้อนไปที่เรื่องนิทานอีกสักหน่อยเพราะในเรื่องแซมแม้จะตื้อด้วยการโผล่ไปทุกที่ที่ลูกค้าไปแต่ก็ใช้สีหน้าที่ยิ้มแย้มเสมอและถามว่าจะไม่ลองรับประทานไข่สีเขียวกับแฮมของเขาหรือ

y20

ภาพจาก https://goo.gl/Ip6Apc

แน่นอนว่านี่คือเทคนิคหนึ่งในอีกหลายๆวิธีทางธุรกิจที่น่าสนใจ ซึ่งในความเป็นจริงเทคนิคต่าง ๆก็มาจากเรื่องราวรอบตัวที่เราเองอาจไม่คาดคิด ถ้าลองวิเคราะห์สิ่งที่อยู่รอบตัวให้เข้าใจเราอาจมองเห็นกลยุทธ์ใหม่และนำมาใช้ในการทำธุรกิจเพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรให้ได้มากยิ่งขึ้นก็เป็นได้

สำหรับใครที่อยากรู้ว่าเรื่องราวของนิทาน‘Green Eggs & Ham’ นั้นเป็นอย่างไรลองเข้าไปดูตามลิ้งค์นี้ได้เลย https://youtu.be/2KRkR8HaR9c

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด