คอร์นคุง ธุรกิจน้ำนมข้าวโพดที่ไม่เหมือนใคร!

คอร์นคุง ชื่อของแบรนด์เครื่องดื่มน้ำนมข้าวโพดที่มีภาพลักษณ์และแพกเกจจิ้งน่ารักเหมือนญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยความหอมและรสชาติที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

รวมถึงมีกระบวนการผลิตที่ไม่ใส่วัตถุกันเสีย ไม่แต่งกลิ่น หรือที่เรียกว่ามาจากธรรมชาติ 100% นี้ เป็นธุรกิจที่คุณอภิรักษ์ เตชางาม ใช้เวลากว่า 2 ปี ในการทุ่มเทเพื่อปรับปรุงให้น้ำนมข้าวโพดมีความแตกต่างไม่เหมือนใครๆ

แม้โดยส่วนตัวเขาจะไม่ได้มีความคุ้นเคยในรสชาติของน้ำนมข้าวโพดมากนัก แต่ด้วยความที่อยากทำสินค้าที่ดีในราคาย่อมเยาให้แก่ผู้บริโภคโดยที่ไม่ได้ยึดความชอบของตัวเองเป็นหลัก ประกอบกับมองเห็นช่องทางในการทำธุรกิจ เขาจึงได้ลงมือทดลองทำจนทุกอย่างเดินทางมาอย่างลงตัวได้ในปัจจุบัน

“ผมได้สังเกตเห็นว่าราคาข้าวโพดบางช่วงก็มีขึ้นมีลง ประจวบกับว่าเราพอจะรู้จักกับชาวเกษตรกรเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าจะทำอย่างไรเพื่อที่จะเพิ่มแวลูให้กับตัวสินค้า จะทำอย่างไรให้ข้าวโพดมันขายง่ายขึ้นในช่วงที่ราคาข้าวโพดมันตก ช่วงนั้นก็คิดว่าจะเอาข้าวโพดมาทำเป็นอะไรดี คิดไว้หลายอย่างเลยครับ จนสุดท้ายมาลงตัวที่น้ำนมข้าวโพด เพราะเรามองว่าเวลาเอาไปขาย ไปทำมาร์เก็ตติ้ง ไปออกบูธ หรือไปเทสสินค้า น้ำนมข้าวโพดน่าจะง่ายกว่าข้าวโพดที่เป็นเม็ดๆ หรือเป็นฝัก”

ซึ่งในส่วนของกระบวนการผลิตน้ำนมข้าวโพดนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่าย เพราะหากต้องทำการผลิตในวันนั้น ชาวไร่จะต้องทำการเด็ดข้าวโพดตั้งแต่ตี 5 จากนั้นข้าวโพดจะถูกส่งเข้าโรงงานผลิตในวันนั้นเลย นอกไปจากนี้ ข้าวโพดที่นำมาผลิตก็ไม่สามารถที่จะเก็บสต๊อกเอาไว้ได้ เพราะจะต้องคั้นจากระยะน้ำนม หากเกินจากที่ชาวไร่เด็ดมา 2-3 วันรสชาติก็จะเปลี่ยน อีกทั้งในกระบวนการผลิต ข้าวโพดยังมีขั้นตอนของการปลอกเปลือกและแกะเมล็ด ผู้ผลิตสินค้าชนิดนี้จึงต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ

“สำหรับความแตกต่างในตัวสินค้าของเราข้อแรกก็คือ ในขวดของน้ำนมข้าวโพดคอนคุงจะมีเม็ดข้าวโพดอยู่ครับ เมื่อลูกค้าซื้อไปดื่มก็จะได้เคี้ยวด้วย ช่วยเพิ่มเส้นใยอาหาร ทำให้กินดี ดื่มดีกับสุขภาพมากยิ่งขึ้น คือถ้าเป็นน้ำนมข้าวโพดที่มีเม็ดข้าวโพดด้วยต้องนึกถึงเจ้าเราเจ้าเดียวเลยครับ ส่วนข้อแตกต่างที่สองก็จะเป็นในเรื่องของรสชาติ แน่นอนว่าของเราไม่ได้ใส่สารปรุงแต่ง เป็นข้าวโพดแท้ๆ 100% ด้วยจุดยืนที่ว่าเราต้องทำสินค้าที่ดีต่อสุขภาพ เราจึงหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้ไม่ต้องใส่สารต่างๆ ลงไป แต่ว่ายังได้รสชาติและอายุสินค้าที่นานขึ้น ซึ่งถ้าหากลูกค้าได้ชิมจะรู้เลยครับว่าของเราเป็นของสดๆ ไม่มีใส่กลิ่น ไม่มีใส่สีแน่นอน”

“ปัจจุบันเมนกรุ๊ปของเราตามเทรนด์ทั่วไปทุกวันนี้ก็เป็นคนที่รักสุขภาพครับ ผมเชื่อว่าของที่มันดีต่อสุขภาพ ย่อมมีกลุ่มคนที่เขายอมจ่ายเงินที่จะซื้ออยู่แล้ว จะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง แต่ตัวเราเป็นผู้ผลิต เราก็ต้องทำทุกอย่างให้เหมาะสมกับลูกค้า และแม้ว่าเมนกรุ๊ปของเราจะเป็นกลุ่มลูกค้าทีรักสุขภาพ แต่เราก็ไม่ทิ้งกลุ่มลูกค้าอื่นๆ เพราะเราทำสินค้าก็พยายามเข้าให้ถึงทุกกลุ่มเป้าหมายครับ

“น้ำนมข้าวโพดบางทีมันมีอะไรที่แปลกแตกต่างเยอะ อย่างตอนแรกเราไม่ได้มองกลุ่มลูกค้าที่เป็นเด็กเลยครับ แต่พอไปออกบูธ ไปขายจริงๆ เราพบว่ากลุ่มเด็กชอบทาน เด็กทานดี บางคนไม่ชอบทานนม แต่พอได้ลองน้ำนมข้าวโพดเข้าไปถึงกลับไม่ยอมปล่อยขวดเลยก็มี เราทำธุรกิจแล้วก็ต้องคอยสังเกต คอยศึกษา เอาใจใส่มัน อะไรที่มีโอกาสเราก็ต้องคอยดู อะไรที่มีปัญหา ก็จะต้องดูว่าจะหาวิธีแก้ไขมันอย่างไร

“สำหรับช่องทางในการซื้อ ลูกค้าก็สามารถหาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ ท็อปส์ซุปเปอร์ ในเครือเดอะมอลล์ ห้างพารากอน เอ็มโพเรียม เครีอท็อปของทางเซนทรัล และเดี๋ยวเทศกาลเจนี้ก็จะมีขายอยู่ในแม็กซ์แวลู ลอว์สัน รวมไปถึงวิลล่ามาร์เก็ตด้วยครับ

“ส่วนแผนการในการพัฒนาธุรกิจในอนาคตนั้น จากประสบการณ์ที่ทำมา ถ้าให้วิเคราะห์ ผมว่าทำสินค้าส่งออก หากทำได้ก็ดีนะครับ ถ้าเราส่งออก สินค้าเราดี ต่างชาติก็สนใจ เวลาเราขายมันก็จะง่าย เพราะเมื่อเขาซื้อสินค้าของเรา เขาก็ไปกระจายให้เรา ไปทำมาร์เก็ตติ้งให้ เราก็มีหน้าที่ดูการผลิตของเราให้ดี พยายามรักษาคุณภาพให้ได้ ส่งออกทุกล็อตให้มีคุณภาพ

“แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในตลาดเมืองไทยเราจะทิ้งนะครับ เราอาจจะมีสินค้าบางตัวที่ไม่ใช่น้ำนมข้าวโพดออกมาจำหน่ายด้วย แต่จะให้น้ำหนักกับเรื่องของส่งออกมากกว่า โดยส่วนตัวผมมองว่าการส่งออกมันเป็นเรื่องที่ดีนะครับผมรู้สึกว่าหาอะไรให้คนต่างชาติได้ซื้อแล้วเอารายได้เข้าประเทศ เป็นเรื่องที่ดีและเจ๋งในความคิดของผมครับ”

สำหรับผู้ที่สนใจในน้ำนมข้าวโพด คอร์นคุง สามารถติดต่อได้ที่ https://www.facebook.com/cornkunThailand หรือเบอร์ 088-853-8271

ThaiSMEsCenter.com หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ตัวอย่างธุรกิจ SME ดีๆ ที่เราได้นำมาเสนอในวันนี้ จะเป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจสำหรับคนที่อยากจะลงมือทำธุรกิจไม่มากก็น้อยนะคะ

 

ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://www.facebook.com/cornkunThailand