สงครามส่งด่วน • เกมส์ • กลยุทธ์ • ธุรกิจ

เชื่อว่าหลายคนน่าจะได้ดูซีรีส์ Netflix ” สงครามส่งด่วน ” (Mad Unicorn) กันบ้างแล้ว เริ่มสตรีมมาตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค. 2568 มียอดผู้ชมมากกว่า 1 ล้านครั้ง เป็นเรื่องราวความสำเร็จของ Flash Express ผู้ให้บริการขนส่งพัสดุสัญชาติไทย ก่อตั้งขึ้นในปี 2560 โดย “คุณคมสัน แซ่ลี” ผู้ที่มองเห็นโอกาสในตลาดอีคอมเมิร์ซ และเห็นช่องว่างในธุรกิจบริการขนส่งพัสดุของไทย

หลังจากนั้นกระโดดเข้ามาเล่นในสมรภูมิที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือด มีคู่แข่งมากหน้าหลายตา สร้างกลยุทธ์ราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่ง บริการรับพัสดุฟรีถึงบ้าน และให้บริการทุกวันไม่มีวันหยุดตลอดทั้งปี ที่สำคัญยังมีการลงทุนทางด้านเทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐานที่มีส่วนช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว จนสามารถระดมทุนกลายเป็นยูนิคอร์นตัวแรกของประเทศไทยในปี 2564

จะไม่เล่าถึงเรื่องราวในซีรีย์ “สงครามส่งด่วน” ว่าจะดุเดือดเผ็ดมันแค่ไหน แต่จะพาไปสำรวจสมรภูมิขนส่งพัสดุด่วนในประเทศไทยว่า ผู้เล่นแต่ละแบรนด์งัดกลยุทธ์อะไรมาต่อสู้กันในสมรภูมิที่หลายคนเรียกว่า Red Ocean

ก่อนอื่นมาดูภาพรวมของตลาดบริการขนส่งพัสดุด่วนในประเทศไทย มีมูลค่าเติบโตมากแค่ไหน

ข้อมูลจาก SHIPPOP ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มรวมขนส่งโลจิสติกส์ชั้นนำ ระบุว่ามูลค่าตลาดบริการจัดส่งพัสดุในประเทศไทยปี 2567 อยู่ที่ราวๆ 100,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากปี 2566 ที่มีมูลค่ากว่า 96,000 ล้านบาท

ส่วนข้อมูลของ Mordor Intelligence บริษัทวิจัยตลาดระดับโลก คาดการณ์ตลาดบริการส่งพัสดุด่วนในไทยปี 2568 มูลค่าอยู่ที่ 2.86 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9.4 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มว่าจะเติบโตถึง 4.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.32 แสนล้านบาทในปี 2573

กลยุทธ์สร้างความต่าง ดึงดูดลูกค้า

1. ไปรษณีย์ไทย

สงครามส่งด่วน
ภาพจาก https://citly.me/k3muc

ไปรษณีย์ไทย หรือ Thailand Post อยู่ภายใต้บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นธุรกิจสัญชาติไทย ก่อตั้งมายาวนานเมื่อปี 2426 มีจุดให้บริการกว่า 33,988 แห่งทั่วประเทศ ปี 2566 มีรายได้ 20,934 ล้านบาท สร้างกำไรกว่า 78 ล้านบาท ไปรษณีย์ไทย ถือเป็นผู้ให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนอันดับ 1 ของไทย

จุดเด่น

  • มีประสบการณ์รับ – ส่งพัสดุและไปรษณีย์มาอย่างยาวนาน และมีเครือข่ายบุรุษไปรษณีย์กว่า 25,00 คนทั่วประเทศ
  • มีจุดให้บริการทั่วประเทศ แม้อยู่พื้นที่ห่างไกล เจ้าหน้าที่ชำนาญเส้นทาง
  • มีบริการให้เลือกส่งพัสดุหลากหลายทั้งธรรมดา, ลงทะเบียน (R), EMS และ eCo-Poet
  • มีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD)
  • สามารถส่งของชิ้นใหญ่ได้
  • เช็คสถานะพัสดุได้ตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง แบบลงทะเบียน eCo-Post และ EMS
  • พัสดุบรรจุซอง ส่งแบบลงทะเบียน (R) อัตราค่าขนส่งเริ่มต้น 13 บาท ระยะเวลาจัดส่ง 3 – 5 วัน
  • พัสดุบรรจุกล่อง ส่งแบบลงทะเบียน (R), eCo-Post อัตราค่าขนส่งเริ่มต้น 20 บาท ระยะเวลาจัดส่ง 3 – 5 วัน
  • ส่งพัสดุแบบ EMS อัตราค่าขนส่งเริ่มต้น 32 บาท ระยะเวลาจัดส่ง 1 – 2 วัน

2. Flash Express

สงครามส่งด่วน
ภาพจาก https://bit.ly/3w2DDxP

ไปรษณีย์ไทย อยู่ภายใต้บริษัท แฟลซ เอ็กซ์เพรส จำกัด เป็นบริษัทสัญชาติไทย ก่อตั้งขึ้นในรปี 2560 มีจุดให้บริการกว่า 17,000 แห่งทั่วประเทศ ปี 2566 มีรายได้ 20,093 แต่ขากทุนถึง 559 ล้านบาท

จุดเด่น

  • ให้บริการ 365 วัน ไม่มีวันหยุด
  • มีบริการรับพัสดุถึงหน้าบ้าน สามารถเรียกให้มารับพัสดุได้ผ่านแอปพลิเคชันโดยไม่บวกค่าบริการเพิ่ม
  • ศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่กว่า 22 แห่งที่สามารถคัดแยกพัสดุได้มากกว่า 40,000 ชิ้นต่อชั่วโมง
  • มีบริการส่งพัสดุแบบ Speed การันตี ส่งช้า คืนค่าจัดส่งให้
  • สามารถคำนวณค่าส่งพัสดุล่วงหน้า
  • มีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD)
  • อัตราค่าขนส่งพัสดุเริ่มต้น 18 บาท ภายในพื้นที่จังหวัดเดียวกัน ไม่รวมพื้นที่กรุงเทพฯ, นนทบุรี, สมุทรปราการ, ปทุมธานี และบริการ SPEED
  • จัดส่งพัสดุเร่งด่วนภายใน 1 วัน

3. Kerry Express

สงครามส่งด่วน
ภาพจาก https://citly.me/SJBDk

Kerry Express หรือ KEX อยู่ภายใต้บริษัท เคอีเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทสัญชาติฮ่องกง ก่อตั้งในประเทศไทย ปี 2549 เปิดจุดให้บริการกว่า 37,337 แห่งทั่วประเทศ สร้างรายได้ปี 2566 กว่า 11,470 ล้านบาท แต่ขาดทุนถึง 3,880 ล้านบาท

จุดเด่น

  • เข้าถึงง่ายสะดวกสบาย มีจุดให้บริการหลายที่ทั้งสาขาของ Kerry Express และพาร์ทเนอร์ รวมถึงสถานีรถไฟฟ้า BTS
  • มีบริการแบบ Parcel Shops รับ – ส่งพัสดุผ่านตู้ล็อคเกอร์ ใช้งานได้ตลอด 24 ชม. ตามสำนักงานและที่พักอาศัยในกรุงเทพฯ
  • บริการ Bangkok Sameday มีพนักงานเข้ารับพัสดุถึงบ้านภายใน 2 ชั่วโมง และจัดส่งถึงปลายทางในวันเดียวกัน
  • มีบริการรับพัสดุถึงบ้าน
  • มีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD)
  • อัตราค่าขนส่งในโซนกรุงเทพฯ ปริมณฑล เริ่มต้นที่ 25 บาท ระยะเวลา 1 – 2 วัน
  • ส่งพัสดุโซนต่างจังหวัด อัตราค่าขนส่งเริ่มต้นที่ 49 บาท ระยะเวลา 2 – 3 วัน

4. J&T Express

สงครามส่งด่วน
ภาพจาก https://citly.me/x2HnK

J&T Express อยู่ภายใต้บริษัท โกลบอล เจท เอ็กซ์เพรส (ไทยแลนด์) จำกัด เป็นบริษัทสัญชาติอินโดนีเซีย ก่อตั้งในประเทศไทยปี 2558 มีจุดให้บริการกว่า 26,000 แห่งทั่วประเทศ สามารุทำรายได้ปี 2566 กว่า 18,511 ล้านบาท แต่ขาดทุนมากถึง 7,093 ล้านบาท

จุดเด่น

  • เปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด
  • มีระบบติดตามพัสดุแบบ Real Time
  • มีบริการเก็บเงินปลายทาง (COD)
  • อัตราค่าขนส่งพัสดุเริ่มต้น 25 บาท
  • ระยะเวลาจัดส่ง 1 – 3 วันทำการ

5. Lazada Express

สงครามส่งด่วน
ภาพจาก https://citly.me/e1xrF

Lazada Express อยู่ภายใต้บริษัท ลาซาด้า เอ็กซ์เพรส จำกัด เป็นบริษัทสัญชาติจีน เข้ามาก่อตั้งในไทยปี 2558 เปิดจุดให้บริการมากกว่า 2,000+ แห่งทั่วประเทศ สามารถสร้างรายได้ในปี 2566 มากกว่า 16,738 ล้านบาท ทำกำไรได้ถึง 2,909 ล้านบาท

จุดเด่น

  • ร้านค้าที่ใช้ LEX TH สามารถเข้าร่วมโปรแกรมจัดส่งเร็วพิเศษได้
  • มีอัตราการเข้ารับสินค้าวันเดียวกับที่ร้านค้ากดพร้อมจัดส่ง มากกว่าระบบขนส่งเจ้าอื่น
  • มีอัตราการจัดส่งล้มเหลวน้อยกว่าขนส่งเจ้าอื่น
  • มีอัตราการพยายามจัดส่งให้ลูกค้าในวัดถัดไปที่ 99%
  • ได้รับความพึงพอใจสูงสุดจากลูกค้าเกี่ยวกับการขนส่ง
  • อัตราค่าขนส่งพัสดุปริมณฑล เริ่มต้น 20 บาท ระยะเวลาจัดส่ง 1-2 วัน
  • อัตราค่าขนส่งพัสดุต่างจังหวัด เริ่มต้น 25 บาท ระยะเวลาจัดส่ง 2-3 วัน

6. SPX Express (Shopee)

สงครามส่งด่วน
ภาพจาก https://citly.me/zDWje

SPX Express อยู่ภายใต้บริษัท เอสพีเอ็กซ์ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทสัญชาติสิงคโปร์ ก่อตั้งในประเทศไทยปี 2561เปิดจุดให้บริการกว่า 900 แห่งทั่วประเทศ ทำรายได้ในปี 2566 ถึง 16,607 ล้านบาท มีกำไร 34 ล้านบาท

จุดเด่น

  • มีบริการเข้ารับสินค้าถึงหน้าร้าน เลือกวันและเวลาที่ต้องการให้เข้ารับได้อย่างอิสระ
  • มีบริการเก็บเงินปลายทาง โอนเข้าบัญชีร้านค้าภายใน 1-2 วันทำการ
  • บริการขนส่งรวดเร็ว ใช้เวลาเพียง 1-3 วัน
  • ขนส่งทุกวัน ไม่มีวันหยุด
  • มีการรับประกันกรณีสินค้าเสียหาย หรือสูญหาย
  • ร้านค้าออนไลน์ปริ้นท์ใบปะหน้าได้ง่ายๆ แค่เข้าไปที่ Seller Center
  • อัตราค่าขนส่งพัสดุเริ่มต้น 18 บาท
  • น้ำหนักสูงสุด 20 กิโลกรัม และขนาดใหญ่รวมไม่เกิน 180 เซนติเมตร (ด้านยาวมากสุดเกิน 100 เซนติเมตร)
ภาพจาก freepik.com

จะเห็นได้ว่าการแข่งขันในธุรกิจบริการขนส่งพัสดุด่วนของไทยในปัจจุบันมีความเข้มข้นสูง ช่วงราวๆ ปี 2558-2560 ถือเป็นช่วงที่มีบริษัทขนส่งหน้าใหม่ๆ เข้าสู่สมรภูมิจัดส่งพัสดุในประเทศไทย ชิงส่วนแบ่งตลาดจากไปรษณีย์ไทยอย่างต่อเนื่องที่โดดเด่นและสร้างความแตกต่างในตลาด ก็คือ Kerry เปิดเกมรุกปูพรมทั่วทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ตามมาด้วยอีกหลายเจ้าจากจีน อาทิ J&T, Best Express, Flash Express และอื่นๆ อีกหลายเจ้า

ช่วงนั้นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซโหมดึงผู้ใช้ “เผาเงิน” ด้วยคูปองส่งฟรี ส่วนลด และที่หนักที่สุดคือช่วงวันคู่ หรือดับเบิลเดต เช่น 9.9, 11.11 เป็นต้น ช่วงเวลาดับเบิลเดตทำให้มีปริมาณสินค้าเพิ่มขึ้นในระบบโลจิสติกส์มากกว่าช่วงปกติ 2-3 เท่าตัว

การที่มีปริมาณสินค้าเยอะในช่วงดับเบิลเดต ดูเหมือนว่าธุรกิจส่งด่วนจะได้ประโยชน์ แต่เป็นดาบ 2 คม เมื่อผู้ให้บริการหลายๆ เจ้าจัดส่งพัสดุไม่ทัน นำไปสู่ “คลังแตก” เพราะแรงกดดันที่เกิดขึ้นต่อพนักงาน จนจัดส่งไม่ทัน ลดค่าคอมฯ จนต้องลากออก

สำหรับ “คลังแตก” หมายถึง กรณีพัสดุในโกดังมีปริมาณมากจนไม่สามารถจัดส่งได้ทัน หรือตามเวลาที่กำหนด หรืออาจต้องถูกส่งคืน ซึ่งปัญหาคลังแตกมักเกิดขึ้นกับผู้ให้บริการจัดส่งที่กำลังเติบโต โดยมีสาขาเหตุมาจากการแข่งขันด้าน “ราคา”

กลยุทธ์ธุรกิจที่ช่วยลดการแข่งขันด้านราคา

ภาพจาก freepik.com

1.การรวมศูนย์โลจิสติกส์ (Hub-and-Spoke Model)

  • การจัดตั้งศูนย์กระจายสินค้า (Hub) ขนาดใหญ่ในจุดยุทธศาสตร์
  • ใช้ระบบ Spoke ในการส่งพัสดุเข้า-ออกแบบรวดเร็ว ลดเวลาขนส่งและต้นทุน

2.การลงทุนในเทคโนโลยี

  • ลงทุนในระบบจัดการคลังสินค้า (WMS), ระบบติดตามพัสดุ และ AI เพื่อวางแผนเส้นทาง
  • ยกตัวอย่าง Flash Express ที่ใช้เทคโนโลยีคัดแยกอัตโนมัติ เพิ่มประสิทธิภาพได้หลายเท่า

3.การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ

  • จับมือกับแพลตฟอร์ม E-commerce เช่น Shopee, Lazada หรือแพลตฟอร์มร้านค้าออฟไลน์ที่ต้องการขยายสู่ตลาดออนไลน์
  • พัฒนาบริการร่วมกับผู้ให้บริการชำระเงินหรือฟินเทค (FinTech)

4.การให้บริการที่แตกต่าง

  • เช่น การให้บริการพัสดุเปราะบาง พัสดุควบคุมอุณหภูมิ หรือสินค้าราคาสูง
  • บริการพิเศษ เช่น “รับถึงบ้าน-ส่งถึงมือ” โดยไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม

5.การขยายบริการแบบ Fulfillment

  • เสนอบริการคลังสินค้า บรรจุหีบห่อ และจัดส่งครบวงจร (One-stop service) สำหรับผู้ขายออนไลน์
  • เป็นแนวทางสร้างรายได้เพิ่มที่ไม่จำกัดแค่การจัดส่ง

แหล่งข้อมูล

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

อ้างอิงจาก คลิกที่นี่


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณมนตรี ศรีวงษ์ (อ๊อฟ)

นักเขียน ผู้คลุกคลีอยู่ในแวดวงข่าวสาร การค้า การลงทุน มีความสนใจเรื่องของธุรกิจเอสเอ็มอี และแฟรนไช