Step by Step ข้อควรรู้ก่อนเปิด ร้านน้ำผลไม้ปั่น
น้ำผลไม้ปั่น หรือ สมูทตี้เย็นๆ คงตอบโจทย์ใครหลายคนในช่วงเวลาที่อากาศร้อนอบอ้าวได้เป็นอย่างดี และโดยเฉพาะกับคนที่ชื่นชอบเครื่องดื่มที่ให้ประโยชน์กับสุขภาพด้วยแล้ว ยิ่งไม่พลาดที่จะดื่มกันเป็นประจำอย่างแน่นอน ร้านน้ำผลไม้ปั่น
ซึ่งหลายๆ คนไม่เพียงแต่หลงใหลในการดื่มน้ำผลไม้เพราะส่งผลดีต่อร่างกายเท่านั้น แต่ยังหลงใหลที่มันให้รสชาติความอร่อย และให้ความสดชื่นได้เป็นอย่างดี ในยามที่ดื่มในแต่ละครั้งอีกด้วย
ด้วยความที่ในแต่ละวัน น้ำผลไม้เป็นที่ต้องการของใครต่อใครมากมายนี้เอง ธุรกิจ ร้านน้ำผลไม้ปั่น จึงเป็นอีกหนึ่งธุรกิจเครื่องดื่มที่น่าลงทุนไม้น้อยเลยทีเดียว ซึ่งสำหรับใครที่กำลังเมี่ยงมองในธุรกิจนี้อยู่
วันนี้ ThaiSMEsCenter.com ก็ไม่พลาดที่จะได้นำข้อควรรู้พื้นฐานเล็กๆ น้อยๆ มาฝากผู้ที่สนใจ โดยจะมีข้อควรรู้อะไรบ้างนั้น เราได้แบ่งไว้เป็นหัวข้อดังนี้ค่ะ
อยากเปิด ร้านน้ำผลไม้ปั่น ต้องใช้งบลงทุนเท่าไหร่?
สำหรับงบประมาณในส่วนของอุปกรณ์ ที่ต้องเตรียมไว้สำหรับการเปิดร้านขายน้ำผลไม้ปั่นนั้น ควรเตรียมงบไว้ที่ประมาณ 4,000-7,500 บาท ขึ้นอยู่อุปกรณ์แต่ละยี่ห้อที่ผู้ประกอบการเลือกใช้
รวมไปถึงรูปแบบของคีออสหรือเคาน์เตอร์สำหรับขาย และการตกแต่งร้านของแต่ละร้าน
นอกจากนี้ก็ยังต้องเตรียมงบประมาณสำหรับใช้จ่ายหมุนเวียนในส่วนของการซื้อวัตถุดิบที่เป็นผลไม้ต่างๆ และส่วนผสมอย่างน้ำเชื่อม เกลือ นมสด หรือโยเกิร์ต
รวมไปถึงค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าเช่าที่ (สำหรับผู้ที่เช่าที่ขาย) ด้วยเช่นกัน ซึ่งงบประมาณหมุนเวียนอาจจะเตรียมไว้โดยประมาณ 300-500 บาทต่อวัน
ตัวอย่างรายการอุปกรณ์ โดยประมาณ
รายการอุปกรณ์ | ราคาโดยประมาณ |
เครื่องปั่นอเนกประสงค์ กำลังไฟ 600 วัตต์ขึ้นไป | 1,500 บาทขึ้นไป |
ที่คั้นน้ำผลไม้ | 450 บาท |
มีด | 130 บาท |
เขียงเล็ก | 125 บาท |
โหลแก้ว | 140 บาท |
ชุดภาชนะสำหรับตวงส่วนผสมสแตนเลส | 300 บาท |
ช้อนยาวสำหรับคนส่วนผสม | 40 บาท |
กระบวยตักน้ำเชื่อม | 100 บาท |
ช้อนตักน้ำแข็ง | 70 บาท |
แก้วพลาสติก | แพ็คละ 120 บาท ( 50 ใบ) |
ฝาโดม | แพ็คละ 33 บาท (50 ฝา) |
หลอด | แพ็คละ 29 บาท (200 หลอด) |
กระติกใส่น้ำแข็ง 15 ลิตร | 650 บาท |
ตู้โชว์ผลไม้ | 500 บาท |
*อุปกรณ์แต่ละยี่ห้อมีราคาแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการจะกำหนดและเลือกใช้ โดยราคาของรายการอุปกรณ์เหล่านี้เป็นราคาโดยประมาณ ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงตามสภาวะเศรษฐกิจ
ทำเลในการค้าขาย
แน่นอนว่าทำเลที่เหมาะสมแก่การค้าขายเครื่องดื่ม ร้านน้ำผลไม้ปั่น นั้น ควรเป็นทำเลที่รายล้อมไปด้วยผู้คนจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นชุมชน ตลาด สถานศึกษา หรือสำนักงาน
รวมถึงต้องเป็นทำเลที่มีสิ่งแวดล้อมที่ดี มีความสะอาด เหมาะแก่การขายเครื่องดื่มด้วย และนอกจากจะเป็นทำเลที่มีผู้คนอาศัยหรือสัญจรเป็นจำนวนวนมากแล้ว ผู้ประกอบการก็ต้องสังเกตพฤติกรรมของผู้คนในบริเวณนั้นๆด้วยว่า มีความชื่นชอบต่อเครื่องดื่มประเภทน้ำผลไม้ปั่นมากน้อยเพียงใด และมีความชื่นชอบน้ำผลไม้ชนิดใดเป็นพิเศษ
เพื่อที่จะสามารถคาดการณ์ยอดขายในแต่ละวันและกำหนดเมนูที่ตรงใจลูกค้าได้
การกำหนดราคาขาย
ราคาขายโดยทั่วไปนั้นอยู่ที่แก้วละ 20-35 บาท ซึ่งการกำหนดราคาก็ขึ้นอยู่กับทำเลที่เลือกขาย รูปแบบของร้าน และการสังเกตว่ากลุ่มลูกค้าในทำเลนั้นๆ มีกำลังในการซื้อมากน้อยแค่ไหน
รวมไปถึงการกำหนดราคาจากเมนูที่ใช้ผลไม้ในการทำที่แตกต่างกันด้วย ซึ่งหากเป็นผลไม้นอกอย่างกีวี่ หรือ สตรอว์เบอร์รี ก็สามารถที่จะตั้งราคาให้สูงกว่าผลไม้ไทยได้
สำหรับยอดขายในแต่ละวันของผู้ประกอบการ ร้านน้ำผลไม้ปั่น นั้นก็อาจจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับทำเลและสิ่งที่ดึงดูดใจลูกค้าของแต่ละร้าน บางร้านอาจจะสามารถทำยอดขายได้ถึง 700-1,000 บาทต่อวัน หรือมากกว่านั้นเลยทีเดียว
โดยสิ่งที่จะสามารถสร้างความดึงดูดและความประทับใจให้แก่ลูกค้านั้นจะประกอบไปด้วยปัจจัยต่างๆ เหล่านี้
รสชาติและความสดใหม่ของวัตถุดิบ
แน่นอนว่าเรื่องของรสชาตินั้นย่อมเป็นปัจจัยที่มาเป็นอันดับหนึ่งเลยทีเดียวสำหรับธุรกิจที่เป็นของกิน ผู้ประกอบการที่มีความความชำนาญและมีสูตรเฉพาะ สามารถทำน้ำผลไม้ปั่นให้มีรสชาติที่อร่อยกลมกล่อมลงตัวได้ ย่อมเรียกลูกค้าให้เข้ามาอุดหนุนและติดใจได้เป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ไม่เพียงแต่ความสามารถในการทำเท่านั้น การเลือกใช้ผลไม้ที่มีความสดใหม่ตามฤดูกาลในการทำอยู่เสมอ ก็จะส่งผลต่อรสชาติที่ดีด้วยเช่นเดียวกัน
ประยุกต์เมนูให้มีความน่าสนใจและมีเทคนิคเฉพาะตัว
การที่ผู้ประกอบการรู้จักประยุกต์หรือรังสรรคเมนูใหม่ๆ ขึ้นมาให้มีความโดดเด่นและแตกต่างจากร้านอื่นๆ ทั่วไปย่อมเรียกความสนใจของลูกค้าได้เป็นอย่างดีทีเดียว
โดยผู้ประกอบการอาจจะใส่ไอเดียโดยการนำผลไม้แต่ละชนิดที่แตกต่างกันมาปั่นรวมกันเป็นหนึ่งเมนู หรืออาจจะคิดเมนูน้ำผลไม้ปั่นเพื่อสุขภาพ เพื่อเรียกความสนใจของคนที่รักสุขภาพโดยเฉพาะ ซึ่งแต่ละเมนูนั้นก็อาจจะนำเอาวัตถุดิบที่เป็นสมุนไพรมาปั่นรวมกับผลไม้ เพื่อเพิ่มประโยชน์และสรรพคุณให้ดูน่าสนใจและเรียกลูกค้าได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ การที่ผู้ประกอบการรู้วิธีที่จะทำให้น้ำผลไม้ที่ปั่นออกมานั้นให้รสสัมผัสที่พอดี เนื้อไม่หนืดจนเกินไป สามารถดูดได้อย่างไม่ลำบาก และละมุนลิ้น รวมไปถึงมีความสามารถในการตกแต่งให้น้ำผลไม้ในแต่ละแก้วมีความสวยงามน่าดื่ม ก็จะทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน
ใส่ใจในความสะอาด
การใช้อุปกรณ์ที่มีความสะอาดในการกรรมวิธีการทำนั้นเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมากเลยทีเดียวสำหรับธุรกิจขายของกิน เพราะความสะอาดมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ถึงแม้ว่าร้านนั้นๆ จะทำได้อร่อยแค่ไหน
หากแต่ไม่ใส่ใจในเรื่องของความสะอาดแล้วล่ะก็ ลูกค้าก็ขอเมินเช่นกัน ซึ่งนอกจากจะมีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้าแล้ว กรรมวิธีการทำที่ไม่สะอาดยังส่งผลสุขภาพของลูกค้าอีกด้วย
แต่งร้านให้สะดุดตา
ร้านน้ำผลไม้ปั่น หลายๆ ร้านมักจะสร้างความสะดุดตาให้แก่ลูกค้าด้วยการนำเอาผลไม้นานาชนิดมาจัดวางหรือแขวนโชว์ไว้อย่างสวยงาม ให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากผลไม้ร้อยเปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ หลายๆ ร้านก็มักจะนำผลไม้นานาชนิดที่หั่นไว้แล้วมาใส่ในแก้วและวางเรียงรายเป็นแต่ละเมนู ให้ลูกค้าได้เลือกเมนูที่ชอบได้อย่างง่ายๆ ซึ่งนอกจากลูกค้าจะมองเห็นแต่ละเมนูในแก้วได้อย่างชัดเจนแล้ว ยังทำให้ผู้ประกอบการสะดวกในการทำอีกด้วย
ทาง ThaiSMEsCenter.com หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ข้อควรรู้พื้นฐานเล็กๆ น้อยๆ ของการเปิดร้านขายน้ำผลไม้ปั่นที่เราได้นำเอามาเสนอในวันนี้ จะเป็นแนวทางและสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้ที่สนใจได้ไม่มากก็น้อยนะคะ
พิเศษ! หากท่านใดที่กำลังสนใจในธุรกิจนี้อยู่ แต่ยังไม่มั่นใจที่จะลงมือทำ ก็สามารถทำแบบทดสอบธุรกิจฟรี ร้านน้ำผลไม้ปั่น ได้ที่ http://www.thaifranchisecenter.com/test/shop/smoothie.php นะคะ
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter
อ้างอิงจาก bit.ly/2Zh4CGd