Step by Step ข้อควรรู้ก่อนทำ ร้านอาหารญี่ปุ่น

การทำธุรกิจที่เกาะติดกระแสย่อมมีความเสี่ยงที่เมื่อความนิยมลดลงจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ของผู้ลงทุนในทันที แต่กลับกันธุรกิจ ร้านอาหารญี่ปุ่น ที่เติบโตในเมืองไทยมายาวนานกว่า 30 ปี และยิ่งเติบโตได้ดีมากขึ้นในช่วง 4-5 ปีหลังที่ผ่านมาแม้เป็นธุรกิจที่มาตามกระแสแต่ก็ยังติดลมบนได้ต่อเนื่องและดูท่าว่าจะดีและมีอนาคตอีกยาวไกล

Step by Step ข้อควรรู้ก่อนทำ ร้านอาหารญี่ปุ่น

www.ThaiSMEsCenter.com จึงได้รวบรวมข้อมูลของการทำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นมานำเสนอแก่ท่านผู้อ่านเพื่อให้มองเห็นแนวทางของการทำธุรกิจที่น่าจะกลายเป็นอาชีพที่มั่นคงและสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ

แต่กว่าจะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นได้นั้นผู้ลงทุนควรศึกษาทุกรายละเอียดให้ดีเพราะนี่คือธุรกิจที่ใช้งบประมาณสูงเช่นกัน ดังนั้นอันดับแรกเรามาวิเคราะห์เรื่องการตลาดของธุรกิจนี้กันก่อนเลยดีกว่า

ทิศทางร้านอาหารญี่ปุ่นในเมืองไทยยังเติบโตสดใสได้อีกมาก

ปัจจุบันมีร้านอาหารญี่ปุ่นให้บริการในเมืองไทยมากกว่า 1,000 แห่ง มากเป็นอันดับ 5 ของโลกรองจากสหรัฐฯ จีน เกาหลีใต้ และไต้หวัน และยังมีแนวโน้มที่จะโตอย่างต่อเนื่องได้ถึงปีละ 15 %

ปัจจัยที่สนับสนุนให้ตลาดดูมีอนาคตเพราะพื้นฐานของผู้บริโภคที่มั่นใจในความเป็น Health Food ยิ่งกระแสเรื่องนี้แรงเท่าไหร่ อาหารญี่ปุ่นก็ยิ่งขายดีมากเท่านั้น

และยิ่งมีการแข่งขันกันมากก็ทำให้ราคาถูกลงจนสามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้ดีกว่าในอดีตยิ่งกว่านั้นรัฐบาลญี่ปุ่นเองยังสนับสนุนเรื่องนี้เต็มที่ด้วยการช่วยเหลือในด้านการลดภาษีวัตถุดิบต่างๆทำให้ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นและแฟรนไชส์ต่างๆมีกำไรได้มากขึ้น

Step by Step ข้อควรรู้ก่อนทำ ร้านอาหารญี่ปุ่น

และเมื่อทิศทางต่างๆดูมีอนาคตสดใสก็คงเป็นสิ่งที่ผู้ลงทุนต้องเรียนรู้กันต่อไปว่าถ้าอยากเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นจะต้องเรียนรู้เรื่องอะไรกันบ้างเริ่มจาก

1.หาทำเลที่ตั้งอย่างเหมาะสม ตำแหน่งของร้านที่ดีควรอยู่ในบรรยากาศแบบสบายๆ ที่สำคัญต้องสามารถจอดรถได้ง่ายๆ เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคอาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมาเป็นหมู่คณะ หรือมากันเป็นครอบครัว การอำนวยความสะดวกด้านต่างๆจึงสำคัญเป็นอย่างมาก

2. ราคาสินค้าและบริการต้องคุ้มค่าในความรู้สึกของผู้บริโภคนี่คือหัวใจของร้านอาหารทุกประเภท ผู้บริโภคที่ตัดสินใจเข้ามาในร้านย่อมมุ่งหวังในเรื่องบริการที่ประทับใจ กับราคาอาหารที่สมเหตุสมผล การตั้งราคาควรอิงหลักของความเป็นจริงและคุ้มค่ากับความรู้สึกเพื่อให้เป็นลูกค้าที่ดีต่อกันในอนาคต

Step by Step ข้อควรรู้ก่อนทำ ร้านอาหารญี่ปุ่น

3. ต้องรู้จักการตลาดที่ดีพอ นั่นคือการรู้จักใช้กลยุทธ์ลดแลกแจกแถม เพื่อดึงดูดใจลูกค้า เพื่อให้เกิดการบอกต่อกันไปแบบปากต่อปาก

4.อาหารญี่ปุ่นต้องมี Story ถือเป็นสิ่งสำคัญมากเพราะการบอกเล่าที่มาของวัตถุดิบที่นำมาทำอาหารทำให้คนกินเกิดอารมณ์รับรู้ที่พิเศษกว่าการกินอาหารแบบธรรมดาแม้ราคาจะแตกต่างจากปกติไปบ้างเล็กน้อยก็ตาม

5.หาพ่อครัวฝีมือดีที่รู้จริงเกี่ยวกับอาหารญี่ปุ่น การจ้างพ่อครัวที่ชำนาญการด้านนี้ถือเป็นต้นทุนหลักแต่ก็เป็นหัวใจของธุรกิจเช่นกัน โดยส่วนมากจะใช้พ่อครัวที่เป็นญี่ปุ่นแท้หรือเรียนจากพ่อครัวญี่ปุ่นมาโดยตรง เนื่องจากกรรมวิธีในการทำอาหารญี่ปุ่นมีความละเอียดอ่อน ทุกขั้นตอนคือความใส่ใจที่มีผลต่อรสชาติ เพราะอาหารญี่ปุ่นแท้จริงมีหลากหลายไม่ได้มีแค่ซูชิหรือว่าซาซิมิเท่านั้น

Step by Step ข้อควรรู้ก่อนทำ ร้านอาหารญี่ปุ่น

สิ่งที่ควรมีในร้านเพื่อให้ได้บรรยากาศความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆ

  1. เคาน์เตอร์บาร์ ถ้าใครเคยไปญี่ปุ่นร้านอาหารแบบดั้งเดิมจะมีบาร์ไว้ให้เชฟยืนทำอาหารเป็นเสน่ห์ที่หลายคนมองว่าดีพอๆกับรสชาติของอาหารทีเดียว
  2. ตกแต่งแบบยกเซตจากญี่ปุ่น อุปกรณ์หลักๆก็เช่นธงญี่ปุ่น โคมไฟกระดาษ ผ้าใบเขียนลายพู่กันจีน นี่คืออุปกรณ์ตกแต่งแบบง่ายๆแต่ได้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นอย่างเต็มที่
  3. จัดสัดส่วนของร้านอย่างพอเหมาะ คือเน้นน้อยชิ้นเข้าไว้ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์บนโต๊ะอาหาร ที่ใช้แค่ชุดเครื่องปรุงที่เป็นเซรามิค หรือโต๊ะที่นั่งที่ไม่ควรให้เบียดเสียดเกินไปทำให้ดูแล้วสบายตาจะดีกว่า
  4. ประตูและหน้าต่างแบบบานเลื่อน อาจจะดูเป็นเรื่องทำยากสักหน่อยแต่ถ้าเป็นร้านใหญ่ๆน่าจะทำได้ง่าย เพราะสิ่งที่ว่านี้บ่งบอกความเป็นญี่ปุ่นอย่างชัดเจนมาก
  5. เพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการจัดสวนแบบ “เซน” คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับธรรมชาติ ดังนั้นถ้าเป็นร้านอาหารควรมีมุมที่เป็นสวนสวยมีน้ำตก มีหินเล็กๆ มีทางเดิน เพื่อให้ดูเป็นวิถีธรรมชาติตามลักษณะของนิกายเซน

Step by Step ข้อควรรู้ก่อนทำ ร้านอาหารญี่ปุ่น

10 เมนูยอดฮิตของร้านอาหารญี่ปุ่นที่คนไทยคุ้นเคยกันดี

  1. ซูชิ มีทั้งแบบปั้น และทำเป็นโรล เป็นอาหารญี่ปุ่นที่บางครั้งไม่ต้องเข้าถึงร้านอาหารก็ยังหาทานได้ง่ายๆ มีหลายหน้าให้เลือกแล้วแต่ความชอบของผู้บริโภค
  2. เทมปุระ คือเอาอาหารทะเลหรือผักมาชุบแป้งแล้วทอด แล้วโรยเกลือก่อนเสิร์ฟเพื่อเพิ่มความกรอบให้มากยิ่งขึ้น
  3. ราเมน พัฒนามาจากอาหารแบบจีน คล้ายกับก๋วยเตี๋ยวเมืองไทยแต่มีสไตล์และรสชาติที่แตกต่างกัน
  4. แกงกะหรี่สไตล์ญี่ปุ่น มีส่วนประกอบหลักคือมันฝรั่ง แครอท หัวหอม และเนื้อ ต่างจากแกงกระหรี่อินเดียที่ใช้เนื้อไก่แทน
  5. พิซซ่าญี่ปุ่นหรือโอโคโนมิยากิ (Okonomiyaki) เป็นแพนเค้กที่ทำด้วยผักเนื้อและอาหารทะเล ราดด้วยซอสที่เป็นแบบเฉพาะ นิยมรับประทานเป็นของทานเล่นมากกว่า
  6. ข้าวปั้น (Onigiri) จะทำจากข้าวที่ค่อนข้างเหนียวและห่อด้วยสาหร่ายปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย เป็นเมนูที่เราคนไทยรู้จักกันดีมานานมาก
  7. ทาโกะยากิ เป็นของว่างสไตล์ญี่ปุ่น มีปลาหมึกหั่นสอดไว้ ทานคู่กับซอสทาโกะยากิ
  8. ทงคัตสึหรือเรียกว่าหมูชุปแป้งทอดเสิร์ฟคู่กับผักกาด มักนำไปรวมกับเมนูอื่น เช่นข้างแกงกะหรี่ทงคัตสึ เป็นต้น
  9. ซุปมิโสะ ทำจากการละลายผงมิโสะและใส่สาหร่ายวากาเมะและเต้าหู้ เป็นเครื่องเคียงที่อยู่ในเซตอาหารญี่ปุ่นแทบทุกเมนู
  10. คาราเกะ คือการทอดสไตล์ญี่ปุ่นแท้ ใช้แป้งมันฝรั่งผสมกับขิง กระเทียมและซอสถั่วเหลือง ที่เห็นส่วนมากคือไก่คาราเกะ

ต้นทุนและรายได้ที่จะได้รับจากการเปิดร้านอาหารญี่ปุ่น

Step by Step ข้อควรรู้ก่อนทำ ร้านอาหารญี่ปุ่น

โครงสร้างการลงทุนนั้นถ้าพิจารณาถึงการเปิดในทำเลที่เป็นห้างสรรพสินค้าหรือว่าในอาคารที่ต้องมีการเช่าหรือซื้อ งบการลงทุนก็จะสูงกว่าการเปิดแบบอยู่ริมทางทั่วไปส่วนใหญ่ต้องตั้งงบมากกว่า 1 ล้านบาท เป็นค่าตกแต่งสถานที่ สั่งซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทำอาหาร การจ้างพนักงาน รายจ่ายของพ่อครัว

รวมถึงต้องมีเงินทุนหมุนเวียนในระบบที่ดีพอ แต่ธุรกิจนี้โดยเฉลี่ยสามารถคืนทุนได้ในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี ตามขนาดของการลงทุน

จากการสอบถามผู้ที่ลงทุนในธุรกิจนี้ให้ข้อมูลว่าถ้าไม่นับเงินลงทุนจะต้องมีเงินหมุนเวียนประมาณ 300,000 บาท แต่ราคาต่อเมนูโดยเฉลี่ยคือ 100 บาท ในแต่ละเดือนมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 200,000-300,000 บาท

เมื่อนำมาหักกับรายจ่ายในส่วนต่างๆแล้วยังเหลือส่วนที่เป็นกำไรอีกประมาณ 40 % ในระยะยาวถือว่ามีความคุ้มค่าแต่ก็อยู่ที่การบริหารและสรรหาเมนูใหม่ๆ มาดึงดูดใจลูกค้าด้วย

ถ้าใครยังไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะหรือมีความพร้อมมากพอที่จะทำธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นได้หรือไม่มาลองหาคำตอบกับแบบทดสอบความพร้อมธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นเพื่อสร้างความมั่นใจก่อนลงมือทำกันต่อไป แบบทดสอบความพร้อมร้านอาหารญี่ปุ่น 

ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise

0

ต้องการข้อมูลข่าวสาร ต้องการอัพเดทข้อมูลการตลาด หรือแนวทางการทำธุรกิจ ติดตามได้ที่ https://bit.ly/3corFV2
รับฟังบทความต่างๆ ผ่านทาง PodCast ไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

อ้างอิงจาก https://citly.me/DyLVg


สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น

ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี

ลักษณะงาน

  • เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
  • ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
  • มอบหมายงานและติดตามงาน
  • อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ

1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้

  • ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
  • ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
  • การปฏิบัติงาน
  • เป้าหมายในอนาคต

2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ

  • การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
  • การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
  • การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
  • การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)

3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)

  • การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
  • สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
  • กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
  • มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม

4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ

  • แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
  • แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์

5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์

  • รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
  • ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
  • ปรับปรุงแก้ไข
  • พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง

การปฎิบัติงาน

  1. สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
  2. ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา

เงื่อนไขอื่นๆ

  • การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์

อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้ 

สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)

เรียนจบจากคณะนิเทศศาสตร์ ทำงานในด้านวารสารมากว่า10ปี สะสมความรู้หลากหลายแนวทั้งด้านการเกษตร สังคม สู่การประยุกต์เป็นอาชีพทั้ง SMEs และแฟรนไชส์รวมถึงแนวทางด้านกลยุทธ์การตลาดต่างๆ การเขียนคืองานที่เราตั้งใจและใจรักมากที่สุด