AI คลื่นลูกที่ 5 ไม่ได้มาแทนที่ แต่มาเป็นเพื่อนคู่คิด
ในอดีต เราเคยกลัวว่า AI จะมาแย่งงาน มาทดแทนความสามารถของมนุษย์ แต่วันนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว AI ไม่ได้มาแข่งกับเราอีกต่อไป แต่มาเป็น “เพื่อนคู่คิด” ที่ช่วยเราคิด วิเคราะห์ และขับเคลื่อนความคิดสร้างสรรค์ให้ไปได้ไกลกว่าเดิม
“อาจารย์อ้น” ปฤณ จำเริญพานิช ผู้เชี่ยวชาญเรื่อง AI ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเทคโนโลยี AI พอสรุปเนื้อได้ว่า ปัจจุบัน AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือที่ทำตามคำสั่ง แต่มันเริ่ม “เข้าใจ” บริบทและความต้องการของเรามากขึ้นเรื่อยๆ แต่แม้จะฉลาดแค่ไหน AI ก็ยังต้องพึ่งพาข้อมูลจากมนุษย์, ความรู้ ความเข้าใจของผู้ใช้, การตรวจสอบและตัดสินใจของคน
เหมือนกับไมโครเวฟ ที่ทำให้อาหารอุ่นเร็วขึ้น แต่มันไร้ประโยชน์ ถ้าไม่มีวัตถุดิบดีๆ หรือสูตรที่อร่อย
เข้าสู่ยุค ” AI คลื่นลูกที่ 5 “
เรากำลังก้าวผ่านยุคเทคโนโลยีลูกใหญ่ที่ผ่านมา เครื่องจักรกล คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต สมาร์ตโฟน และตอนนี้ AI ทุกคลื่นได้เปลี่ยนโลก เปลี่ยนงาน เปลี่ยนชีวิต และ AI ก็จะทำเช่นเดียวกัน แต่ครั้งนี้ มันไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่มันคือ “คู่คิด
เทคนิคใช้ AI อย่างมีเป้าหมาย
AI จะฉลาดขึ้น หากเราใช้ถูกวิธี ต้องคุยลึกขึ้นทีละขั้น เช่น “ลูกค้าเราเป็นกลุ่มวัยทำงาน ฉันควรยิงโฆษณาช่องทางไหนดี?”
“ช่วยคิดโปรโมชันแบบไม่ใช้ส่วนลดได้ไหม” อย่าใช้ AI เหมือน “หัวหน้า” ที่ตัดสินใจแทน ให้ใช้เหมือน “เลขา” ที่ช่วยคิด ช่วยเตรียมข้อมูล
เริ่มจากกำหนดบทบาทให้ AI เช่น “ตอนนี้คุณเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดสำหรับ SME ที่งบน้อย” แล้วค่อยๆ บรีฟโจทย์ เช่น ฉันไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ลูกค้าไม่ตอบสนอง อยากเพิ่มยอดขายใน TikTok AI จะตอบดีขึ้น ถ้าเราบรีฟละเอียด พูดตรงประเด็น และต้องกล้าตั้งคำถาม
เคล็ดลับอย่างหนึ่ง คือ หนึ่งห้องแชท ต้องมีแค่หนึ่งหัวข้อ เช่น ถ้าคุยเรื่องแคมเปญโปรโมตร้านกาแฟ ก็ต้องคุยแค่นั้น ห้ามแวะไปถามเรื่องสุขภาพ หรือให้มันแปลภาษาไปพร้อมกัน AI เหมือนคนที่เข้าใจดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อคุยเรื่องเดิมลึกขึ้น
อย่าเชื่อ AI 100% ให้เช็กก่อนเสมอ
AI มักชอบ “อวย” และมองโลกในแง่ดีเกินจริง ควรสั่งให้ AI ชัดเจนว่า ช่วยตอบแบบตรงๆ ไม่อวย, ขอเหตุผล ข้อดี-ข้อเสียด้วย หรือ “ขอคำตอบที่เจาะจงกว่านี้” ต้องถามให้คม สั่งให้เคลียร์ และตรวจสอบคำตอบเสมอ
ตลาดจีน ใช้ AI อย่างเข้าใจ “พฤติกรรม” ผู้บริโภค
ถ้าอยากเจาะตลาดจีน ต้องรู้ว่า “ผู้บริโภคจีน” ใช้แพลตฟอร์มอะไร และคิดอย่างไร แพลตฟอร์มหลักที่ต้องรู้ เช่น
- WeChat ใช้คุย ทำ CRM
- Douyin ต้นฉบับ TikTok + ระบบขายของในตัว
- Xiaohongshu แหล่งรีวิวก่อนซื้อ
- Bilibili คอนเทนต์วิดีโอลึก วัยรุ่นชอบ
ผู้บริโภคชาวจีนตัดสินใจซื้อเร็วจากรีวิวจริง วิดีโอจริง ไม่ใช่แค่โปรโมชัน
AI ไม่มีวันแทนมนุษย์ในสิ่งที่เป็นมนุษย์จริงๆ
AI ยังไม่สามารถแทนที่คนในเรื่องความเข้าใจอารมณ์ การสร้างแรงบันดาลใจ การฟังอย่างใส่ใจ ภาวะความเป็นผู้นำ คนเรามีข้อดีตตรงที่ คิดเป็น ฟังเป็น และเข้าใจคนอื่น ถือเป็นทักษะมนุษย์ที่สำคัญในยุค AI
ใน 5 ปีข้างหน้า ใครที่ใช้ AI เป็น จะได้เปรียบมาก
ทักษะที่ควรฝึกให้พร้อม คือ Critical Thinking ตั้งคำถามให้เป็น, Logic แยกแยะสิ่งจริง สิ่งเทียมได้, ภาษาอังกฤษ เพราะฐานข้อมูล AI ส่วนใหญ่เป็นอังกฤษ
ถ้าใครไม่พัฒนาตัวเอง อาชีพอาจเปลี่ยน แต่ “ทักษะในการตั้งคำถาม” จะกลายเป็นหัวใจหลักของการทำงานร่วมกับ AI
สรุปก็คือ หากเราใช้ AI อย่างเข้าใจ ไม่กลัว ไม่ฝากความหวังไว้ทั้งหมด แต่ให้มองว่า AI คือ เพื่อนคู่คิด เพื่อนร่วมทีม หรือเป็นเลขาส่วนตัว ที่ช่วยให้เรา คิดและทำได้เร็ว เพื่อจะได้ไปไกลกว่าเดิม
ผู้อ่านสามารถติดตามข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวธุรกิจ แฟรนไชส์ และ SMEs รวดเร็ว รอบด้าน
ติดตามได้ที่ Add LINE id: @thaifranchise
- อยากสร้างแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Ive14C
- อยากทำเป็นแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3IrrH0k
- รู้เรื่องกฎหมาย สัญญาแฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Iu5WNu
- รวมความรู้แฟรนไชส์ > https://bit.ly/3Pe0m5s
อ้างอิงจาก คลิกที่นี่
สำหรับคนที่อยากเอาตัวรอดในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ แนะนำเข้ารับคำปรึกษาผ่านหน่วยงาน ที่น่าเชื่อถือ เช่น
ไทยแฟรนไชส์ คอนซัลแทนซี่ (ThaiFranchise Consultancy)เป็นหน่วยงานภายใต้กำกับของไทยแฟรนไชส์เซ็นเตอร์ ยินดีให้คำปรึกษาในทุกกระบวนการสร้างระบบแฟรนไชส์ ทางบริษัทฯ มีอาจารย์และทีมงานที่พร้อมให้บริการ คอยให้คำแนะนำ และร่วมค้นหาคำตอบจากประสบการณ์บนเส้นทางของธุรกิจแฟรนไชส์ไทย มายาวนานกว่า 14 ปี
ลักษณะงาน
- เน้นการทำงานร่วมกับทีมงานของบริษัท
- ให้แนวทางในการทำงานในทุกๆ ด้าน
- มอบหมายงานและติดตามงาน
- อื่นๆ ทุกด้านที่เกี่ยวข้องในการดำเนินธุรกิจ
1. วิเคราะห์ธุรกิจปัจจุบันเบื้องต้น หัวข้อดังนี้
- ลักษณะธุรกิจในปัจจุบัน
- ผลการดำเนินงานของธุรกิจ
- การปฏิบัติงาน
- เป้าหมายในอนาคต
2. กลยุทธ์ในการสร้างธุรกิจ
- การสร้างแนวคิดธุรกิจ (Business Concept)
- การกำหนดเป้าหมาย (Business Objective)
- การจำลองงบกำไร-ขาดทุน (Profit-Loss)
- การพัฒนาในด้านต่างๆ (Development Plan)
3. การวางแผนการปฏิบัติงาน (Operation Plan)
- การวางแผนการปฏิบัติงานของแต่ละหน่วยงาน
- สร้างคู่มือการทำงานแต่ละฝ่าย
- กำหนดเงื่อนไขในด้านต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียม ค่าสิทธิ์ รูปแบบร้าน ทำเล การให้สิทธิต่างๆ แก่ผู้ซื้อแฟรนไชส์
- มีโครงสร้างทีมงานที่เหมาะสม
4. กลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ
- แผนการขยายสาขาของบริษัท หรือ ร้านสาขาต้นแบบ
- แผนการทดสอบขยายสาขาแฟรนไชส์
5. ขั้นตอนการพัฒนาระบบแฟรนไชส์
- รวบรวมปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
- ดูผลประกอบการ การดำเนินของร้านแฟรนไชส์จำลอง หรือร้านต้นแบบ
- ปรับปรุงแก้ไข
- พัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ อย่างไม่หยุดยั้ง
การปฎิบัติงาน
- สัปดาห์ละ 1 คาบเวลา (ประมาณ 3-4 ชม.)
- ติดต่อปรึกษางานได้ตลอดเวลา
เงื่อนไขอื่นๆ
- การ Consult ไม่รับกลุ่มเดียวกัน ในช่วงเวลาเดียวกันและรับไม่เกิน 5 แบรนด์
อนึ่ง รายละเอียดและขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการรับคำปรึกษา อาจมีนอกเหนือจากแผนงานดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแบบแผนโครงสร้างของธุรกิจเดิม และเป้าหมายที่กำหนดไว้
สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-1019187
ฝ่ายที่ปรึกษาโครงการ (ThaiFranchise Consultancy)
